เมื่อวานนี้ (28 มกราคม) จริงๆ แล้วเป็นวันคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data privacy day) โดยเป็นความพยายามระดับโลกในการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์ ซึ่ง Apple ได้รวบรวม 10 ฟีเจอร์ที่ควรรู้ในด้านความเป็นส่วนตัวที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมข้อมูลของตัวเองได้บนทุกอุปกรณ์ครับ
10 ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวของ Apple ที่คุณควรรู้
ล็อกหรือซ่อนแอป
ฟีเจอร์ล็อกและซ่อนแอปช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าผู้อื่นจะไม่สามารถเห็นข้อมูลที่ไม่ต้องการแชร์ได้โดยไม่ตั้งใจ เช่น ขณะโชว์หน้าจอให้ผู้อื่นดูหรือส่งมอบอุปกรณ์ให้กับคนอื่น ผู้ใช้สามารถล็อกแอปเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าถึงเนื้อหาภายใน หรือซ่อนแอปเพื่อไม่ให้ผู้อื่นมองเห็นได้
เลือกแชร์รายชื่อติดต่อเฉพาะที่ต้องการกับแอป
ใน iOS 18 Apple ได้พัฒนาให้ผู้ใช้สามารถเลือกแชร์เฉพาะรายชื่อติดต่อที่ต้องการให้แอปเข้าถึง แทนที่จะต้องให้สิทธิการเข้าถึงรายชื่อทั้งหมดได้
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการอนุญาตให้เข้าถึงรายชื่อติดต่อ
ล็อกหน้าต่างการท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari (Safari Private Browsing) โดยอัตโนมัติ
เมื่อใช้โหมด การท่องเว็บแบบส่วนตัวใน Safari (Safari Private Browsing) ระบบจะไม่บันทึกหน้าที่เยี่ยมชม ประวัติการค้นหา หรือข้อมูล AutoFill และล็อกหน้าต่าง Private Browsing โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดแท็บทิ้งไว้และกลับมาใช้งานต่อได้ง่าย ๆ เพียงปลดล็อกด้วย Face ID, Touch ID หรือรหัสผ่าน
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการล็อก Private Browsing
การป้องกันการติดตามลิงก์ (Link Tracking Protection)
เมื่อผู้ใช้คลิกลิงค์บางลิงค์ อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมที่แนบมากับ URL เพื่อใช้ติดตามกิจกรรมออนไลน์ของพวกเขา Apple จึงเพิ่มการป้องกันการติดตามลิงก์ ซึ่งจะช่วยลบตัวติดตามที่ไม่จำเป็นออกจากลิงก์ที่แชร์ผ่าน Messages, Mail และ Safari ในโหมด Private Browsing
การตรวจสอบด้านความปลอดภัย (Safety Check)
หากความปลอดภัยของผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยง พวกเขาสามารถใช้การตรวจสอบด้านความปลอดภัย (Safety Check) เพื่อตรวจสอบและหยุดการแชร์ข้อมูลกับบุคคลหรือแอปต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Safety Check ยังสามารถแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังแชร์ข้อมูลอยู่กับใครบ้าง จำกัดการเข้าถึง Messages และ FaceTime บนอุปกรณ์ iPhone เท่านั้น เปลี่ยนรหัสผ่าน และอื่น ๆ ได้อีกด้วย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Safety Check
รายงานความเป็นส่วนตัวของแอป (App Privacy Report)
เมื่อเปิดใช้ รายงานความเป็นส่วนตัวของแอป (App Privacy Report) จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบรายละเอียดว่าแต่ละแอปเข้าถึงข้อมูลที่พวกเขาให้สิทธิเข้าถึงบ่อยแค่ไหน เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง กล้อง ไมโครโฟน และอื่น ๆ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ App Privacy Report
ซ่อนอีเมลของฉัน (Hide My Email)
ฟีเจอร์ ซ่อนอีเมลของฉัน (Hide My Email) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสมัครรับ iCloud+ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างอีเมลแบบสุ่มเพื่อใช้กับแอป เว็บไซต์ และบริการต่าง ๆ โดยที่อีเมลส่วนตัวของพวกเขายังคงเป็นความลับ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบัญชีใหม่กับแอป สมัครรับจดหมายข่าวออนไลน์ หรือส่งอีเมลไปยังบุคคลที่ไม่รู้จัก ฟีเจอร์นี้จะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของอีเมลของผู้ใช้และทำให้ประสบการณ์การใช้งานอีเมลยังคงความเป็นส่วนตัวอยู่เสมอ
เรียนรู้วิธีสร้างและจัดการ Hide My Email
การระบุตำแหน่งโดยประมาณ (Approximate Location)
Apple ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าแอปจะเห็นเฉพาะตำแหน่งที่อยู่โดยประมาณ (ภายในรัศมีประมาณ 25 ตารางกิโลเมตร) แทนที่จะเป็นตำแหน่งที่แน่นอน ซึ่งช่วยให้สามารถใช้แอปที่ต้องการข้อมูลตำแหน่ง เช่น การค้นหาร้านอาหารใกล้เคียง หรือการตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ โดยไม่ต้องให้ข้อมูลมากเกินจำเป็น
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการควบคุมข้อมูลตำแหน่ง
ตัวบ่งชี้การบันทึกเสียงและวิดีโอ (Recording Indicators)
เมื่อแอปใดก็ตามกำลังใช้ไมโครโฟนหรือกล้องของ iPhone ระบบจะแสดงตัวบ่งชี้สีส้มเมื่อไมโครโฟนทำงาน และสีเขียวเมื่อกล้อง หรือทั้งกล้องและไมโครโฟนถูกใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับรู้และควบคุมได้
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Recording Indicators
iCloud Private Relay
ฟีเจอร์ iCloud Private Relay ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ iCloud+ ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ขณะท่องเว็บใน Safari โดยไม่มีใคร แม้แต่ Apple เอง ที่จะสามารถเห็นทั้งตัวตนของผู้ใช้และเว็บไซต์ที่พวกเขากำลังเยี่ยมชมได้
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ iCloud Private Relay
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวของเรา โปรดเยี่ยมชม www.apple.com/privacy