จริงหรือ! นี่คือ 15 เหตุผลที่ iOS ดีกว่า Android

เรื่องการถกเถียงกันระหว่างระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนไม่ได้มีเฉพาะในไทย ในต่างประเทศก็มีเหมือนกัน อย่างล่าสุด Gotta Be Mobile สื่อออนไลน์ก็ได้ออกมาให้เหตุผลว่าทำไม iOS จึงดีกว่า Android มาดูกันว่าจริงเหมือนที่เขาพูดหรือไม่

15 เหตุผลที่ iOS ดีกว่า Android จากเว็บไซต์ Gotta Be Mobile

1. แอพแลพเกมดี ๆ มักจะมีบน iOS ก่อน

นักพัฒนาแอพและเกมดี ๆ มักจะปล่อยเวอร์ชั่นบน iOS ก่อนเสมอ และบางเกมก็มีเฉพาะบน iOS ไม่ยอมทำเวอร์ชั่น Android หรือหากทำเวอร์ชั่นออกมาทั้ง 2 แพลตฟอร์ม หน้าตาของแอพและเกมบน iOS ก็มีอินเตอร์เฟซที่น่าใช้งานมากกว่า Android อีกทั้ง Apple มีการใส่ใจแอพและเกมบน Apple Store อย่างล่าสุดก็ได้จัดมาตรฐานในสโตร์ใหม่ โดยมีการถอดแอพกว่า 47,300 ตัวออกไป

2. อัปเดทซอฟต์แวร์พร้อมกันทั้งหมด

อุปกรณ์ที่รันระบบปฏิบัติการ iOS จะได้รับการอัปเดทซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ พร้อมกันทั้งหมดทั่วโลก ในขณะที่ Android อาจต้องรอนานหลายเดือนกว่าจะได้อัปเดทครบทุกรุ่น และหากเป็นรุ่นที่มีอายุนานเกิน 18 เดือนก็แทบจะไม่มีความหวังในการได้อัปเดทซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ มีทางเดียวที่จะได้เล่นของใหม่คือซื้อเครื่องรุ่นใหม่

สำหรับสมาร์ทโฟนจาก Google จะมีการันตีการอัปเดตเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นใหม่ ๆ เพียง 2 ปีเท่านั้น ในขณะที่ iPhone นั้นสนับสนุนการอัปเดตเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นใหม่นานถึง 4 ปี เช่นในรุ่น iPhone 4s ที่เปิดตัวมาพร้อม iOS 5 ในปี 2011 และมาถึงเวอร์ชั่นล่าสุด iOS 9.3.5 ในปี 2016

3. ทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้อย่างลงตัว

หากคุณใช้ iPhone, iPad และ Mac คุณจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างคล่องตัว ทั้งการซิงค์รูปภาพไปยังทุกอุปกรณ์ โทรหรือรับสายจากทุกอุปกรณ์ และส่งข้อความได้จากทุกอุปกรณ์ อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์ Handoff จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นทำงานในอุปกรณ์หนึ่ง แล้วเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์อีกเครื่องที่อยู่ใกล้เคียงแล้วทำงานต่อจากจุดที่คุณทำค้างไว้ได้ ในขณะที่ Android ก็สามารถทำงานลักษณะนี้ได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นจากนักพัฒนารายอื่น

4. ไม่มีแอพติดตั้งมาให้รกเครื่อง

iOS จะไม่มีการติตดั้งแอพอื่น ๆ ให้รกตัวเครื่อง ซึ่งต่างจาก Android ที่เริ่มเปิดใช้งานเมื่อซื้อเครื่องมาใหม่ ๆ ก็จะมีแอพจากค่ายมือถือเองและแอพจากนักพัฒนารายอื่นเป็นสิบ ๆ ตัว ทั้งที่บางตัวแทบจะไม่มีความจำเป็นในการใช้งานเลย เปลืองพื้นที่เปล่า ๆ แต่เพราะว่าเจ้าของแอพได้จ่ายเงินให้กับค่ายมือถือเพื่อให้ติตตั้งแอพของตนเองนั่นเอง

 

5. มีประกันจาก AppleCare

Apple มีบริการซื้อประกันเพิ่มด้วย AppleCare เพื่อขยายความคุ้มครองด้านบริการและความช่วยเหลือให้นานจากวันที่ซื้อฮาร์ดแวร์ มีราคาตั้งแต่ 99 เหรียญไปจนถึง 129 เหรียญ สำหรับการคุ้มครอง 2 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อ ในขณะที่ Android ไม่มีแผนคุ้มครองใด ๆ เพิ่มเติม

6. แชร์ไฟล์หา iPhone เครื่องอื่นได้ง่าย

เว็บไซต์ Gotta Be Mobile ให้เหตุผลว่าฟีเจอร์ AirDrop ช่วยให้การแชร์ไฟล์หากันระหว่าง iPhone ทำได้ง่ายเพียงแค่แตะบนหน้าจอ 1-2 ครั้ง ก็สามารถส่งไฟล์ได้แล้ว ในขณะที่ Android แม้จะมีฟีเจอร์บางอย่างในการช่วยแชร์ไฟล์ไปยังเครื่องอื่น แต่หากเป็นรุ่นเก่ากว่าที่ซอฟต์แวร์ตัวเครื่องล้าหลังก็อาจไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ เหล่านี้

 

7. ขายได้ราคาดีกว่า Android

iPhone เครื่องเก่าเมื่อนำไปขายจะได้ราคาดีกว่า Android เมื่อเทียบกับอายุเครื่อง 1-2 ปี และ iPhone หาที่ขายได้ง่ายกว่าด้วย

8. Lightning ดีกว่า micro USB

Apple เลือกใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Lightning ซึ่งไม่ต้องมีปัญหาในการเชื่อมต่อว่าจะเสียบถูกด้านหรือไม่ เพราะตัวพอร์ตรองรับการเสียบจากด้านใดก็ได้ ในขณะที่ Android ส่วนใหญ่ใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ micro USB ต้องเล็งให้ตรงก่อนเสียบ แต่ปัจจุบัน Android รุ่นใหม่หลายรุ่นก็เริ่มหันมาใช้พอร์ต USB Type-C ที่เสียบจากด้านใดก็ได้แล้ว ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะมาเป็นมาตรฐานให้กับ Android ทุกรุ่น

 

9. บริการ Apple Store

หากเครื่องมีปัญหา เดินเข้า Apple Store เพื่อกับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาได้ในไม่กี่ชั่วโมงแทนที่จะต้องรอ 1-2 วันโดยที่ไม่มี iPhone ใช้งาน ซึ่งทาง Gotta Be Mobile บอกว่ามีความยืดหยุ่นในการให้บริการ และข้อเสนออื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีที่สุด

10. iPhone ใช้ง่ายกว่า Android

เหตุผลข้อนี้เขาบอกว่า iPhone ยังคงใช้งานง่ายกว่าสมาร์ทโฟน Android หลายรุ่นในท้องตลาด ซึ่งจากการช่วยสอนเพื่อนและคนในบ้านใช้งานพบว่า iPhone ดูจะเข้าใจง่ายมากกว่า โดยเขาเสริมว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้งานที่เป็น Power User

11. หูฟังใช้สั่งงานได้

หูฟัง iPhone ใช้สั่งงานหรือควบคุมการเล่นเพลงและอื่น ๆ บน iPhone ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นหูฟังของ Apple เอง และจากแบรนด์อื่น ๆ ที่ทำออกมาให้รองรับการใช้งานร่วมกับ iPhone

 

12. iMessage และ FaceTime

Apple ทำให้การติดต่อกันเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ใช้งาน iPhone และ iPad ด้วยบริการ iMessage, FaceTime แบบโทรเห็นหน้า และ FaceTime แบบโทรด้วยเสียง

13. แชร์แอพ แพลง หนัง และอื่น ๆ ได้ง่าย

Apple มีบริการ Family Sharing ในระบบปฏิบัติการ iOS 10 ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์แอพ เพลง หนัง หนังสือ และปฏิทิน กับสมาชิกในครอบได้ง่าย ๆ เรียกได้ว่าซื้อครั้งเดียวใช้ได้หลายคน ซึ่งไม่ต้องบอกอีเมลและรหัสผ่านให้คนอื่นรู้ด้วย

14. ควบคุมการแจ้งเตือนได้ดีกว่า

iPhone ยังคงจัดการการแจ้งเตือนต่าง ๆ และสามารถดูข้อมูลแบบสรุปรายวันได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในแต่ละวัน เพียงแตะลงบนวันที่ในการแจ้งเตือน ซึ่ง Android ยังไม่มีฟังก์ชั่นสำหรับเลือกดูเหตุการณ์รายวันได้

15. พื้นที่จัดเก็บข้อมูล

ไม่ว่าจะเดินไปซื้อ iPhone ที่ใดในโลก ก็จะมีรุ่นความจุเหมือนกันทุกร้าน อย่างเช่นในรุ่น iPhone 6s ความจุ 64GB จะเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุดเมื่อเทียบกับ Android ที่มีความจุเท่ากัน ถึงแม้ Android จะสามารถเพิ่ม microSD card ได้ แต่บางรุ่นก็ไม่สามารถใช้เป็นพื้นที่จ้ดเก็บเดียวกับตัวเครื่องได้ และหากย้ายการติดตั้งแอพไปไว้บน microSD card ก็อาจมีปัญหาในการเรียกใช้งานแอพได้

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเหตุผลทั้ง 15 ข้อที่บอกว่า iOS ดีกว่า Android เพื่อน ๆ เห็นด้วยกับเว็บไซต์ Gotta Be Mobile หรือไม่ ร่วมแสดงความเห็นกันได้ ^^

ที่มา : Gotta Be Mobile

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

Apple ออกอัปเดต iOS 18.3.1 บน iPhone แก้บัคและปิดช่องโหว่

Gurman เผย iPhone SE รุ่นใหม่ มาแน่สัปดาห์นี้ !

ระวังแอป SparkCat ! พบมัลแวร์ที่มีโค้ดการอ่านหน้าจอในแอป iOS เป็นครั้งแรก (Android ก็มี)

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Read More