Apple เพิ่งเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่อย่าง AirPods Pro ไปสดๆ ร้อนๆ โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์หลายอย่างเข้ามาเหมือนกัน โดยหลักๆ จะเป็นเรื่องการตัดเสียงรบกวนภายนอก, การป้องกันน้ำและเหงื่อ และการเปลี่ยนมาใช้แบบ In-Ear ที่สามารถปรับจุกซิลิโคนได้หลายขนาด โดยเราจะมาเปรียบเทียบให้ดูกันครับว่าคนที่ยังใช้ AirPods 2 ควรอัปเกรดไปใช้ AirPods Pro หรือใครที่ยังไม่เคยใช้ AirPods เลย จะเลือกซื้อรุ่นไหนที่เหมาะกับเราดี
สำหรับฟีเจอร์หลักๆ ที่ AirPods Pro มี แต่ AirPods รุ่นก่อนไม่มี ได้แก่
- การตัดเสียงรบกวนภายนอก
- โหมดฟังเสียงภายนอก
- ป้องกันน้ำและเหงื่อในระดับ IPX4
- EQ ปรับแต่งเองได้
- มีจุกซิลิโคน 3 ขนาด (เล็ก, กลาง, ใหญ่)
สำหรับฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนภายนอกและโหมดฟังเสียงภายนอกจะเป็น 2 ฟีเจอร์ที่ให้เราปรับได้ตามสถานการณ์ เช่น หากเราต้องการฟังเพลงเงียบๆ คนเดียวก็สามารถเปิดโหมดตัดเสียงรบกวนออกไปได้ทันที แต่เมื่อเราเดินทางไปกับเพื่อนที่มีการพูดคุยก็สามารถใช้โหมดฟังเสียงภายนอกเพื่อนำเสียงรอบข้างเข้ามาภายในได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
ส่วนฟีเจอร์กันน้ำและเหงื่อ จะไม่มีใน AirPods รุ่นก่อนๆ โดย IPX4 จะเป็นมาตรฐานในรุ่นนี้ที่ระบุตามตัวเลขว่าสามารถกันน้ำได้ 10 นาที หรือเมื่อโดนน้ำสาดก็ยังไม่เสียหายอะไรครับ
ความแตกต่างส่วนอื่นๆ จะเป็นการควบคุมสลับโหมดตัดเสียงรบกวนภายนอกและโหมดฟังเสียงภายนอกโดยเราสามารถกดค้างเพื่อเปลี่ยนโหมดดังกล่าวได้ทันที และสิ่งที่น่าสนใจคือการให้สาย Lightning เป็น USB Type-C มาในกล่อง ต่างจากรุ่นก่อนที่เป็น Lightning เป็น USB Type-A
นอกจากนี้ เรื่องของแบตเตอรี่ AirPods Pro สามารถอยู่ได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมงเมื่อปิดโหมดตัดเสียงรบกวน และอยู่ได้นาน 4.5 ชั่วโมงเมื่อปิดโหมดดังกล่าว เทียบเท่า AirPods 2 ส่วนระยะเวลาการคุยสามารถคุยได้ต่อเนื่อง 3.5 ชั่วโมง มากกว่า AirPods 2 ที่คุยได้นาน 3 ชั่วโมง
สำหรับราคาก็ตามด้านล่านี้เลยครับ
- AirPods Pro : 9,490 บาท
- AirPods 2 : 7,490 บาท
- AirPods : 5,990 บาท
สรุปคือ : AirPods Pro จะเน้นเรื่องการตัดเสียงรบกวนและการป้องกันน้ำและเหงื่อที่เพิ่มเข้ามาครับ ใครที่กำลังซื้อก็สามารถลองชั่งใจกันได้ครับว่าจะเปลี่ยนดีหรือไม่
ที่มา : 9to5Mac