ตลาดอุปกรณ์สวมใส่มีตัวเลขการเติบโตอย่างช้าๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานล่าสุดจาก Strategy Analytics เปิดเผยยอดจัดส่งในไตรมาสแรกของปี 2017 พบว่า Apple ขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 1 ด้วยยอดจัดส่งทั่วโลกสูงถึง 3.5 ล้านชิ้น แซงเจ้าเดิมอย่าง Fibit
| รายชื่อผู้จัดจำหน่ายจัดส่งทั่วโลก (ล้านหน่วย) | Q1 ’16 | Q1 ’17 |
| Apple | 2.2 | 3.5 |
| Xiaomi | 3.8 | 3.4 |
| Fitbit | 4.5 | 2.9 |
| อื่นๆ | 7.7 | 12.2 |
| ทั้งหมด | 18.2 | 22.0 |
| ส่วนแบ่งทางการตลาดอุปกรณ์สวมใส่ทั้งโลก | Q1 ’16 | Q1 ’17 |
| Apple | 12.1% | 15.9% |
| Xiaomi | 20.9% | 15.5% |
| Fitbit | 24.7% | 13.2% |
| อื่นๆ | 42.3% | 55.5% |
| ทั้งหมด | 100.0% | 100.0% |
| การเติบโตปีต่อปี (YoY) | 74% | 21% |
| ข้อมูลจาก : Strategy Analytics |
อัตราการเติบโตของอุปกรณ์สวมใส่จาก Apple เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2016 และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 15.9% ในขณะที่ส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งหมดของอุปกรณ์สวมใส่ทั้งโลกมีอัตราการเติบโตขึ้นเพียง 21% ด้วยจำนวนการจัดส่งทั้งโลกในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 22 ล้านชิ้น
หากดูแบรนด์อุปกรณ์สวมใส่รายอื่นอย่างเช่น Xiaomi ที่เคยมียอดจัดส่งในไตรมาสแรกของปี 2016 อยู่ที่ 3.8 ล้านชิ้น แต่ในไตรมาสแรกของปี 2017 ลดลงมาเหลือ 3.4 ล้านชิ้น ในขณะที่ Fitbit เคยทำยอดจัดส่งในไตรมาสแรกของปี 2016 อยู่ที่ 4.5 ล้านชิ้น แต่ในไตรมาสแรกของปี 2017 ลดลงมาเหลือเพียง 2.9 ล้านชิ้น
สำหรับ Xiaomi เป็นแบรนด์เจ้าตลาดอุปกรณ์สวมใส่ที่เป็นรูปแบบสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ในขณะที่ Fitbit เป็นเจ้าตลาดอุปกรณ์สวมใส่ด้านการติดตามข้อมูลฟิตเนสและสมาร์ทวอชที่ไม่ใช่แพลตฟอร์ม Android Wear ส่วน Apple มีเฉพาะสมาร์ทวอชเท่านั้น
ตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดของอุปกรณ์สวมใส่จะมาจากอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย ในขณะที่ Apple Watch 2 มียอดขายสูงที่สุดในตลาดอเมริกา สหราชอาณาจักร และอีกหลายประเทศ