แบรนด์ Apple หยุดเติบโตแล้ว เพราะสู้แบรนด์จีนไม่ไหว

โดย Wattana S.

แบรนด์ Apple

มีข้อมูลน่าสนในใจเกี่ยวกับการเติบโตของ แบรนด์ Apple ที่เริ่มชะลอตัวแล้ว ในขณะที่แบรนด์สมาร์ทโฟนจากเอเชียอย่างแบรนด์จีนกลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ตามรายงาน การเติบโตของ แบรนด์ Apple ในตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือภูมิภาคเอเชียได้เริ่มชะงักหรือหยุดการเติบโตมาหลายปีแล้ว ตามที่เคยมีรายงานผลประกอบการการดำเนินงานลดลงในบางประเทศในภูมิภาคนี้ เนื่องจากมีการแข่งขันอย่างรุนแรงจากแบรนด์สมาร์ทโฟนหลายค่าย

แบรนด์ Apple

การแข่งขันที่ดุเดือดของแบรนด์สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่มาจากแบรนด์จีน ได้แก่ Xiaomi, OnePlus, vivo และ OPPO อย่างที่ได้เห็นกันไปแล้วว่าแม้แต่ LG ก็ต้องยอมแพ้ให้กับแบรนด์สมาร์ทโฟนจากจีน ซึ่งมีจุดขายด้านสเปคระดับไฮเอนด์ในราคาที่ถูกกว่า ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะถูกมองว่าสมาร์ทโฟสจีนมีราคาถูกแล้วใช้วัสดุที่มีคุณภาพต่ำ ล้าสมัย แต่ในปัจจุบันหลายแบรนด์กำลังพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ไม่แพ้อินเตอร์แบรนด์

ฟีเจอร์ที่แบรนด์จีนพัฒนาขึ้นมาเป็นจุดขายในปัจจุบันที่เห็นชัดเจนคือในเรื่องของกล้องถ่ายรูปด้านหน้าสำหรับเซลฟี่และแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไม่มีอยู่บน iPhone

แถบเอเชีย เช่น อินเดีย และอินโดนีเซีย ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เลือกมองหาสมาร์ทโฟนที่มีราคาต่ำกว่า 300 ดอลลาร์สหรัฐ (ราคาประมาณหมื่นบาท) ส่วนในประเทศจีน Apple เสียส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ทโฟนไปแล้ว 5% ภายใน 5 ปี จากในปี 2013 มีสัดส่วน 13% และในปี 2018 มีสัดส่วนเพียง 8%

สำหรับตลาดสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของโลกอย่างอินเดีย Apple มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 2% เท่านั้น โดยเจ้าตลาดเป็นของ Xiaomi ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 16% ภายใน 2 ปีเท่านั้น โดยในปี 2015 มีสัดส่วน 3% และในปี 2017 เพิ่มขึ้นเป็น 19% ซึ่งจุดขายของแบรนด์นี้อยู่ที่ราคาที่ทุกคนจับต้องได้ง่าย ในขณะที่ iPhone คนทั่วไปจับต้องได้ยาก

ขณะนี้แบรนด์จีนหลายค่าย เช่น Xiaomi, OPPO และ vivo เริ่มจะบุกตลาดอินเดียและอินโดนีเซียแล้ว ซึ่งสมาร์ทโฟนจากทุกค่าย ต่างก็มีฟีเจอร์ที่ไม่มีอยู่บน iPhone เช่น ฟีเจอร์ลดริ้วรอยบนใบหน้าที่ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ เป็นต้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More