วันนี้ ASUS เปิดตัว Zenfone 12 Ultra เรือธงรุ่นใหม่ของแบรนด์ที่มาใน 3 ภูมิภาคก่อน คือ ยุโรป ไต้หวัน และฮ่องกงครับ ซึ่งสเปคต่างๆ มีการพัฒนาให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งภายในและดีไซน์
Zenfone 12 Ultra ได้ใช้ดีไซน์ที่เป็นขอบเหลี่ยมทั้ง 4 ด้านของเครื่อง โดยโมดูลกล้องหลังจะเป็มแบบสี่เหลี่ยมแนวนอน พ้รอมด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ครับ ซึ่งสีสันของตัวเครื่องจะมี 3 สี ได้แก่ สีเขียว Sage Green, สีดำ Ebony Black และสีขาว Sakura White
หน้าจอแสดงผลรุ่นนี้จัดเต็มด้วยพาเนล SAMSUNG E6 Flexible AMOLED LTPO ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate ปรับได้ตั้งแต่ 1-120Hz แต่สูงสุด 144Hz ในการเล่นเกมครับ ส่วนความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 2500 นิต รองรับค่าสี 107.37% DCI-P3, 145.65% sRGB, 103.16% NTSC และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2
ภายในใช้เป็นหน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Elite, RAM 12/16GB LPDDR5X + ROM 256/512GB UFS 4.0 พร้อมด้วยแบตเตอรี่ 5500mAh ชาร์จเร็ว 65W พร้อมชาร์จไร้สาย 15W (Qi1.3) โดยชาร์จเร็วจาก 0-100% ในเวลาเพียง 39 นาที และรันบน Android 15
กล้องหลังมีทั้งหมด 3 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลัก 50MP, รูรับแสง f/1.9 เซ็นเซอร์ Sony Lytia 700 รองรับกันสั่น Gimbal OIS รุ่นที่ 4 แบบ 6 แกน (พัฒนาดีขึ้นจากเดิม 66%)
- เลนส์ Ultra-Wide 13MP มุมกว้าง 120 องศา
- เลนส์ Telephoto 3x 32MP, รูรับแสง f/2.4 รองรับการซูม 10-30x HyperClarity
ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP
ฟีเจอร์อื่นในรุ่นนี้จะเน้นไปที่การใช้งาน AI 2 แบบ คือ On-device และ Cloud AI โดย Zenfone 12 Ultra มาพร้อมกับโมเดล Llama 3 8B จาก Meta ซึ่งทำงานบนอุปกรณ์และใช้สำหรับการสรุปข้อความคุณภาพสูงครับ ทั้งยังมีฟีเจอร์ AI Call Translator 2.0 ที่ใช้งานบนสมาร์ทโฟนได้เลย ซึ่งจะทำการแปลด้วยเสียงแบบเรียลไทม์เมื่อใช้งานผ่านแอปโทรศัพท์และแอปส่งข้อความของบุคคลที่ 3 ที่รองรับการโทรผ่าน VoIP รวมถึงแอป Recorder ยังได้ AI Transcript 2.0 ที่ระบุผู้พูดหลายคน การสรุป และการแปล นอกจากนี้ยังสรุปบทความและเอกสารได้อีกด้วย
Zenfone 12 Ultra วางจำหน่ายในยุโรป ไต้หวัน และฮ่อง โดยราคาเราขอเทียบจากฝั่งไต้หวันแล้กันครับ โดยอยู่ที่ 29,900 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ หรือประมาณ 30,900 บาท
สรุปสเปค ASUS Zenfone 12 Ultra
- หน้าจอแสดงผล SAMSUNG E6 Flexible AMOLED LTPO ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate ปรับเองได้ตั้งแต่ 1-120Hz (สูงสุด 144Hz ในการเล่นเกม) ความสว่างสูงสุด 2500 นิต รองรับค่าสี 107.37% DCI-P3, 145.65% sRGB, 103.16% NTSC และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2
- CPU: Qualcomm Snapdragon 8 Elite Octa-core ความเร็ว 4.3GHz
- GPU : Adreno 830
- RAM : 12/16GB LPDDR5X
- ROM : 256/512GB UFS 4.0
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ดังนี้
- เลนส์หลัก 50MP, รูรับแสง f/1.9 เซ็นเซอร์ Lytia 700 รองรับกันสั่น Gimbal OIS รุ่นที่ 4
- เลนส์ Ultra-Wide 13MP มุมกว้าง 120 องศา
- เลนส์ Telephoto 3x 32MP, รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้า 32MP
- ระบบปฏิบัติการ Android 15
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 (802.11 be/ax/ac/a/b/g/n), Bluetooth 5.4, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5500mAh ชาร์จเร็ว 65W พร้อมชาร์จไร้สาย 15W