ASUS ZenFone Selfie สมาร์ทโฟนที่ชูจุดเด่นด้วยกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Dual-LED สำหรับการเซลฟี่โดยเฉพาะ ส่วนสเปคตัวเครื่องก็แรงไม่แพ้กันด้วยขุมพลัง Qualcomm Snadpragon 615 ซีพียู Octa-core กับแรม 3GB และความจุ 32GB ซึ่งเพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD card สูงสุด 128GB
สรุปข้อมูลและสเปค ASUS ZenFone Selfie (ZD551KL)
- ราคาเปิดตัว 8,990 บาท (กันยายน 2558)
- ขนาดตัวเครื่อง 156.5 x 77.2 x 10.8 มม.
- น้ำหนัก 170 กรัม
- 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz
- 3G : HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 MHz
- 4G :LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 20(800)
- รองรับ 2 ซิม (micro SIM + micro SIM)
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว IPS Full HD ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop
- ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615
- ซีพียู 64 บิต Octa-core (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53)
- กราฟิก (GPU) Adreno 405
- หน่วยความจำ RAM 3 GB
- หน่วยความจำ ROM 32 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล แฟลช Dual-LED, เลเซอร์ออโต้โฟกัส
- กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล แฟลช Dual-LED มุมกว้าง 88 องศา
- รองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n/ac, Bluetooth 4.0
- GPS/ A-GPS
- แบตเตอรี่ Li-Po 3,000 mAh
ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล
ASUS ZenFone Selfie มีขนาดตัวเครื่อง 156.5 x 77.2 x 10.8 มม. ซึ่งมีดีไซน์ด้านหลังโค้งเว้า ทำให้ขอบด้านข้างบางสุดเพียง 3.9 มม. หนัก 170 กรัม และอีกหนึ่งจุดเด่นในส่วนของดีไซน์จาก Asus ก็คือ Concentric-circle ซึ่งเป็นดีไซน์วงกลมที่สะท้อนเข้าหาศูนย์กลางที่ขอบด้านล่างหน้าจอและปุ่มกด ได้แก่ ปุ่ม Power, และปุ่มปรับระดับเสียง
ฝาหลังของ ZenFone Selfie จะแตกต่างจากฝาหลัง Zenfone 2 ตรงที่ไม่ได้มีลาย Brushed-metal หรือลวดลายขนแปรงขัดที่ทำให้ดูเหมือนโลหะ และด้วยกรอบเครื่องที่มีความโค้ง ทำให้การหยิบจับใช้งานทำได้ถนัดและกระชับมากขึ้น
หน้าจอของ ZenFone Selfie มีขนาด 5.5 นิ้ว IPS Full HD ความหนาแน่นของพิกเซล 403 พิกเซลต่อนิ้ว และให้มุมคมชัดได้กว้าง 178 องศา ปกป้องหน้าจอด้วยการครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 4 และมีสารเคลือบจอที่ช่วยไม่ให้หน้าจอเป็นลายนิ้วมือ
เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Dual-LED ซึ่งเป็นแฟลชแบบ True Tone หรือ 2 สี และลำโพงสำหรับเสียงสนทนา โดยที่มุมขวาบนจะมีไฟแจ้งเตือนดวงเล็ก ๆ ด้วย
ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มกดนำทางแบบสัมผัส 3 ปุ่ม เริ่มทางซ้ายสุด ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps โดยปุ่มทั้ง 3 ไม่มีไฟส่องสว่าง อาจมองไม่เห็นเมื่อใช้งานในที่มืด
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม., ปุ่มปิด/เปิดเครื่อง และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ขอบด้านล่างมีพอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายเคเบิล และไมโครโฟนสำหรับเสียงสนทนา
ขอบด้านซ้ายและขวาไม่มีปุ่มใด ๆ ซึ่งมีความบางเพียง 3.9 มม.
ด้านหลังมีเลนส์กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แฟลช Dual-LED เหมือนกับกล้องด้านหน้า โดยตัวกล้องทั้งคู่ใช้เซ็นเซอร์จาก Toshiba ประกอบด้วย 5 ชิ้นเลนส์ โดยด้านหลังจะมีพิเศษกว่าเพราะมีเลเซอร์ออโต้โฟกัส ช่วยโฟกัสภาพได้เร็วขึ้น
ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งมีดีไซน์แบบ Concentric-circle และการที่ปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ที่ด้านหลังช่วยให้การใช้งานมือเดียวสามารถกดสั่งงานได้สะดวกขึ้น แต่จากการใช้งานก็มักจะพบว่านิ้วมือมักจะไปสัมผัสโดนหน้าเลนส์กล้อง ทำให้มีรอยนิ้วมือติดหน้าเลนส์
ถัดลงมาบริเวณส่วนล่างของด้านหลังจะมีช่องลำโพง และการที่มีลำโพงอยู่ด้านหลังย่อมส่งผลให้เสียงเบาลงเมื่อวางไว้บนพื้น แต่ยังดีที่ฝาหลังของ ZenFone Selfie มีความโค้งเว้าทำให้มีช่องว่างให้เสียงลำโพง แต่ก็ส่งผลให้เสียงเบาอย่างเลี่ยงไม่ได้ นอกจากจะวางคว่ำหน้าจอลง
ฝาหลังแกะออกมาได้ ภายในมีแบตเตอรี่ชนิด Li-Po ขนาด 3,000 mAh สามารถถอดออกได้
ZenFone Selfie มีช่องใส่ซิมขนาด micro SIM จำนวน 2 ช่อง ทั้งคู่รองรับทั้งเครือข่าย 2G/3G/4G ซึ่งสามารถเข้าไปสลับการรับสัญญาณภายหลังได้จากเมนูการตั้งค่าตัวเครื่อง และช่องใส่ microSD card ความจุสูงสุด 128GB
อัปเดท : Asus Zenfone Selfie ล็อตใหม่จะมีฝาหลังแบบลายขนแปรงขน ซึ่งดูคล้ายโลหะ
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
ZenFone Selfie รัน Android 5.0.2 Lollipop ครอบทับด้วย ZenUI ถ้าใครใช้ ZenFone อยู่แล้วก็คุ้นตากับอินเตอร์เฟซดี ปลดล็อคหน้าจอด้วยการแตะแล้วปัด โดยในหน้าโฮมก็จะเป็นหน้าสำหรับการจัดเรียงไอคอนแอพพลิเคชั่น, วิดเจ็ตต่าง ๆ
เมื่อจีบ 2 นิ้วเข้าหากันในหน้าโฮม จะเข้าสู่การจัดการหน้า สำหรับเพิ่มหรือลบหน้าโฮม และสามารถจัดการแก้ไขได้โดยการแตะค้างไว้ที่หน้าโฮมนั้น ๆ
นอกจากนี้แล้วก็ยังสามารถเรียกเมนูจัดการหน้าโฮมโดยการแตะค้างบริเวณพื้นที่ว่าง ๆ หรือปัดจากขอบด้านล่างหน้าจอขึ้นมาก็ได้ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, เอฟเฟ็กการเลื่อนหน้า รวมถึงธีมก็เปลี่ยนได้จากเมนูส่วนนี้เช่นกัน
ระบบธีมก็มีให้เลือกใช้งานเยอะเหมือนกัน ซึ่งทุกตัวดาวน์โหลดได้ฟรี
เมื่อเลื่อนแถบบาร์ด้านบนลงมาจะเป็นในส่วนของการแสดงรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ และแผง Control panel สำหรับปิด/เปิดการทำงานเมนูระบบต่าง ๆ โดยไม่ต้องเข้าเมนูการตั้งค่าให้ยุ่งยาก
ASUS ZenFone Selfie รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ไม่ว่าจะใส่ซิมที่ช่องใดก็สามารถสลับใช้งานเครือข่าย 2G/3G/4G ได้ หากเลือกซิม 1 ให้ใช้งานเครือข่าย 3G/4G อีกซิมก็จะสลับไปเครือข่าย 2G อัตโนมัติ
ZenMotion หรือการใช้ท่าทางในการสั่งงาน ไดแก่ เคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปิด/เปิดหน้าจอ, วาดตัวอักษรขณะหน้าจอปิดอยู่เพื่อเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่น และเคาะปุ่มโฮม 2 ครั้งเพื่อลดขนาดหน้าจอให้เล็กลงสำหรับใช้งานมือเดียว
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและ
ความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม - Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน
ZenFone Selfie รุ่นที่ใช้งานในการรีวิวนี้ รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop ซึ่งเป็น 64 บิต, ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 ซีพียู 64 บิต Octa-core กับจีพียู Adreno 405 และแรม 3 GB
ผลการทดสอบ AnTuTu ในโหมด 64 บิต ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรมและประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 35,346 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากเมื่อเทียบกับรุ่นที่มีระดับราคาเดียวกันและใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกัน ส่วนผลทดสอบคะแนนรวมจาก Quadrant Standard ได้ 21,605 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลโดยรวม ผลทดสอบ Single-core ทำได้ 616 คะแนน และ Multi-core ทำได้ 2,304 คะแนน
กล้องถ่ายรูป
ASUS ZenFone Selfie มีกล้องหลังขนาดความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส ซึ่งจุดเด่นของกล้องหลังรุ่นนี้คือเลเซอร์ออโต้โฟกัสที่อยู่ข้าง ๆ เลนส์กล้อง ช่วยให้การโฟกัสภาพทำให้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายภาพในที่แสงน้อย และมีแฟลชแบบ Dual tone LED
กล้องหลังถ่ายภาพได้ขนาดสูงสุด 4096 x 3072 พิกเซล อัตราส่วน 4:3 และถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p มีระบบกันภาพสั่นไหวสำหรับวิดีโอด้วย แต่ถ้าเปิดโหมดกันกสั่นจะรองรับการบันทึกวิดีโอได้เพียง HD 720p
โหมดกล้องก็มีให้ใช้งานหลากหลาย ได้แก่ โหมดกำหนดเอง, HDR, ความละเอียดพิเศษ, ระยะชัดลึกและชัดตื้น, พาโนรามา สามารถแนบแผนที่ลงในภาพถ่ายได้ (Geo-tagging), แตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส (Touch focus), และตรวจจับใบหน้า (Face detection)
ภาพถ่ายโหมดกำหนดเอง (Pro Mode)
1/2 sec, ISO 400
โหมดกำหนดเอง หรือ Pro Mode ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นของรุ่นนี้ เพราะช่วยให้สามารถควบคุมค่า White Balanc, ชดเชยแสง, ISO, ความเร็วชัตเตอร์ และระยะโฟกัส ทำให้มีอิสระในการถ่ายภาพมากขึ้นนั่นเอง
ภาพถ่ายโหมด Auto
ภาพถ่ายโหมด HDR
โหมด HDR ส่วนใหญ่จะใช้กับการถ่ายภาพย้อนแสง ซึ่งระบบจะทำการถ่ายรูปหลายรูป ที่มีค่าความสว่างของแสงแตกต่างกัน แล้วเอาภาพมารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้เวลาถ่ายภาพด้วยโหมดนี้จำเป็นต้องถือกล้องนิ่ง ๆ สักพัก เพื่อให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดครบ ทั้งพื้นที่ส่วนที่สว่างและส่วนที่มืด
ภาพโหมดพาโนรามา
โหมดพาโนรามา เป็นการแพนกล้องไปในแนวตั้งหรือแนวนอน ซึ่งระบบจำนำหลาย ๆ ภาพมาต่อกันเป็นภาพใหญ่ภาพเดียว เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวเพื่อให้ได้ภาพมุมกว้างที่สุด
ตัวอย่างวิดีโอ Full HD
ตัวอย่างวิดีโอโหมดช่วงเวลาหรือเริ่งความเร็ว (Time Lapse)
กล้องหน้าของ ZenFone Selfie มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเท่ากับกล้องหลัง พร้อมแฟลช Dual tone LED ถ่ายภาพได้ขนาดสูงสุด 4096 x 3072 พิกเซล อัตราส่วน 4:3 และถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p
เพิ่มความสวยงาม
เซลฟี่พาโนรามา
โหมดกล้องหน้าที่น่าสนใจ ได้แก่ เพิ่มความสวยงาม เป็นการเพิ่มความขาวเนียนให้กับผิวหน้า เซลฟี่ได้สวยขึ้น และเซลฟี่พาโนรามา เก็บภาพได้กว้างขึ้นด้วยการรวมภาพหลายช็อตจากด้านซ้ายและด้านขวาเป็นภาพเดียว เหมาะสำหรับถ่ายเซลฟี่เป็นกลุ่ม
สรุปจุดเด่น
- รองรับ 2 ซิม 4G
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว IPS Full HD
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop
- ซีพียู 64 บิต Octa-core
- หน่วยความจำ RAM 3 GB
- หน่วยความจำ ROM 32 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล แฟลช Dual-LED, เลเซอร์ออโต้โฟกัส
- กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล แฟลช Dual-LED มุมกว้าง 88 องศา
- แบตเตอรี่ Li-Po 3,000 mAh
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ปุ่มนำทางด้านล่างหน้าจอไม่มีไฟส่องสว่าง
ขอบคุณ ASUS ประเทศไทย