แนะนำ Cold Wallet เก็บเงินดิจิทัลให้ปลอดภัยจากการโดนแฮก

ปัจจุบันผู้คนหันมาให้ความสนใจสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นและมีการลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้เป็นจำนวนมาก วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมาแนะนำการเก็บรักษาสินทรัพย์ให้อยู่รอดปลอดภัยจากสแกมเมอร์ด้วย Cold Wallet

เชื่อว่านักทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนใหญ่จะเก็บอยู่ในรูปแบบ Hot Wallet ที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา เพื่อความสะดวกและง่ายในการใช้งานตลอดเวลา เช่น การเทรด การโอนระหว่างที่อยู่กระเป๋าเงิน เป็นต้น ซึ่งไม่ปลอดภัย 100%

หากเป็นการลงทุนระยะยาวหรือกลยุทธ์ HODL ที่ใช้เวลาหลายปี ไม่ควรเลือกที่จะเก็บสกุลเงินดิจิทัลไว้ในกระเป๋าเงินของกระดานเทรด แม้แต่เว็บเทรดที่ดูเหมือนน่าเชื่อถือที่สุดก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว

ใครที่ต้องการ HODL ถือกันยาวๆ ควรใช้กระเป๋า Cold Wallet หรือ Hardware Wallet ที่มีระดับการป้องกันที่เหมาะสมและควรแยกจากสิ่งรบกวนภายนอกอย่างสมบูรณ์ ไม่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าการจัดเก็บดังกล่าวนั้นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลเท่านั้นที่สามารถรับประกันความปลอดภัยในการลงทุนได้ (เว้นแต่จะลืมรหัสผ่านหรือข้อมูลสำรอง Wallet)


Ledger Nano X

Ledger Nano X เรียกได้ว่าเป็น Hardware Wallet ที่ดีที่สุดเมื่อใช้งานกับแอปสมาร์ทโฟน Ledger Live สามารถดูยอดเงินคงเหลือได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์หรือไม่ก็ตาม

Nano X ปรับปรุงจาก Nano S โดยรองรับ Bluetooth ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์และสาย USB เพื่อยืนยันธุรกรรมอีกต่อไป รองรับเหรียญดิจิทัลมากกว่า 1,800 สกุลเงิน มีจอแสดงผล OLED และมีผู้ใช้มากกว่า 2 ล้านคน


Trezor One

Trezor One เป็นกระเป๋าเงินที่รับการออกแบบโดย SatoshiLabs และผลิตในสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งในภาษาเช็กTrezor แปลตามตัวอักษรว่า “ห้องนิรภัย” มาพร้อมจอแสดงผล LED เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน

การเข้าใช้งานจำเป็นต้องระบุ PIN เพื่อความปลอดภัยอีกหนึ่งชั้น และมีระบบการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย เมื่อมีการทำธุกรรม สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Windows, Mac และ Linux และรองรับ altcoins มากกว่า 500 สกุลเงิน


Trezor Model T

เพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย Trezor Model T ซึ่งเป็น Hardware Wallet รุ่นที่สองที่เป็นนวัตกรรมใหม่โดย SatoshiLabs ที่ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้นและที่สุดของความปลอดภัย

ความแตกต่างไปจากรุ่นเดิมคืออินเตอร์เฟซหน้าจอสัมผัสง่ายต่อการใช้งาน แต่ระดับความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นที่หลายคนคิดว่ายากในการใช้งานคือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทำได้ผ่าน USB และต้องป้อน PIN ทุกครั้ง โดยรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดกู้คืน seed 12 คำ ที่ช่วยสำรองไว้ในกรณีที่ลืมรหัสผ่าน


SafePal S1

SafePal S1 เป็นกระเป๋าเงินที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ด้วยขนาดเท่าบัตรเครดิต สามารถพกกระเป๋าเงิน SafePal ติดตัวไปได้ทุกที่ โดยการโอนเหรียญและโทเค็นขให้เชื่อมต่อกับแอป SafePal โดยใช้ QR Code ไม่ต้องเสี่ยงในการทำธุรกรรมผ่าน Wi-Fi สาธารณะหรือใช้อุปกรณ์ Bluetooth

นอกจากนี้แล้ว SafePal รองรับโทเค็นและเหรียญดิจิทัลมากกว่า 10,000 รายการ นั่นก็หมายความว่ากระเป๋าเงินเดียวก็สามารถเก็บเหรียญในการลงทุนทั้งหมดได้


Ellipal Titan

Ellipal Titan เป็นกระเป๋าเงินที่อาจดูเหมือนพกมือถืออีกเครื่อง มีหน้าจอขนาดใหญ่และรองรับการแตะสัมผัส โดยคีย์ส่วนตัวจะถูกเก็บแยกและไม่มีการต่ออินเตอร์เน็ต หากพบการละเมิดผิดปกติจะลบข้อมูลส่วนตัวโดยอัตโนมัติ

Ellipal Titan สามารถทำงานคู่กับกระเป๋า Hot Wallet ของ Ellipal ได้ รองรับโทเค็น Ethereum และ Binance Smart Chain


หากมี Cold Wallet หรือ Hardware Wallet แล้ว แนะนำว่าให้สร้างกระเป๋าใหม่ ไม่ควรนำเข้าของเดิมจาก Hot Wallet และที่สำคัญที่สุดคือห้ามพิมพ์ seed หรือ key บนคอมพิวเตอร์หรือมือถือ และห้ามเก็บสำเนาไว้บนคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือคลาวด์ รวมไปถึงห้ามถ่ายรูปเก็บเอาไว้เด็ดขาด

การเก็บ seed หรือ key สำหรับกู้คืนกระเป๋าเงินที่ดีที่สุดคือการจดหรือเขียน ซึ่งปัจจุบันก็มีตัวช่วยในการเก็บรักษาด้วยแผ่นโลหะที่ทนน้ำ ทนไฟไหม้ ปลอดภัยหากเกิดน้ำท่วมหรือบ้านไฟไหม้ เช่น Billfodl และ SafePal Cypher Seed Board เป็นต้น

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

เอลซัลวาดอร์ประกาศตั้ง Bitcoin City มหานครที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว

ยูเครนเป็นประเทศที่ 2 ในโลกที่อนุมัติให้ Cryptocurrency ถูกกฎหมาย

เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกในโลกที่ถือ Bitcoin กว่า 400 เหรียญ

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Read More