HUAWEI P40 Series ทั้ง 3 รุ่นจะมีการเปิดตัวในวันนี้ หรือ 26 มีนาคม 2563 เวลา 20.00 น. แล้ว เราจะมาสรุปสเปคแบบรวบรัดให้ชมกันแบบง่ายๆ กันครับว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
HUAWEI P40
- หน้าจอแสดงผล Punch Hole ไม่โค้ง ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) Refresh Rate 60Hz
- หน่วยประมวลผล : Kirin 990 5G
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB เพิ่ม NM Card ได้
- กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น
- เลนส์หลัก UltraVision ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 พร้อมเซ็นเซอร์ RYYB
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Telephoto 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับ OIS
- กล้องหน้า 2 เลนส์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล + Depth
- แบตเตอรี่ : 3800mAh รองรับ Fast Charge 22.5W
HUAWEI P40 Pro
- หน้าจอแสดงผล Punch Hole แบบโค้ง ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2640 x 1080 พิกเซล) Refresh Rate 90Hz
- หน่วยประมวลผล : Kirin 990 5G
- RAM : 8GB
- ROM : 128/256GB เพิ่ม NM Card ได้
- กล้องหลัง 4 เลนส์ แบ่งเป็น
- เลนส์หลัก UltraVision ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 พร้อมเซ็นเซอร์ RYYB
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Periscope SuperSensing 5x ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.4 รองรับ OIS
- เลนส์ ToF
- กล้องหน้า 2 เลนส์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล + ToF + เซ็นเซอร์อินฟราเรด (Face Unlock)
- แบตเตอรี่ : 4200mAh รองรับ Fast Charge 40W และ Wireless Charge 27W
HUAWEI P40 Pro+ หรือ Pro Plus
- หน้าจอแสดงผล Punch Hole แบบโค้ง ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3160 x 1440 พิกเซล) Refresh Rate 120Hz
- หน่วยประมวลผล : Kirin 990 5G
- RAM : 12GB
- ROM : 512GB
- กล้องหลัง 5 เลนส์ แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 52 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับ OIS
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Periscope 10x ระยะ 240 มม. รูรับแสง f/4.0 รองรับ OIS
- เลนส์ Telephoto 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับ OIS
- เลนส์ ToF
- กล้องหน้า 2 เลนส์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล + ToF + เซ็นเซอร์อินฟราเรด (Face Unlock)
- แบตเตอรี่ : 5500mAh รองรับ Fast Charge 55W และ Wireless Charge 27W
ใครที่รอการเปิดตัวทั้ง 3 รุ่นนี้ ก็สามารถรับชมได้ผ่านทาง 3 ช่องทาง ได้แก่ Facebook, YouTube และเว็บไซต์ของ Huawei ครับ
ที่มา : huaweicentral