รีวิว Huawei P9 ดีไซน์พรีเมียม อะลูมิเนียมสุดบาง พร้อมกล้องหลังคู่ Leica เพื่อคนรักการถ่ายภาพ

Huawei P9 สมาร์ทโฟนกล้องคู่ที่ร่วมพัฒนากับไลก้า ผู้ผลิตกล้องระดับโลก ดีไซน์ตัวเครื่องสุดบาง มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว Full HD ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Kirin 955 กับแรม 3GB และแบตเตอรี่ 3,000 mAh

สรุปข้อมูลและสเปค Huawei P9

  • ราคาเปิดตัว 16,990 บาท (มิถุนายน 2016)
  • ขนาดตัวเครื่อง 145 x 70.9 x 6.95 มม.
  • น้ำหนัก 144 กรัม
  • ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด (2 x Nano SIM)
  • เครือข่าย 2G/3G/4G LTE
  • หน้าจอแสดงผล 5.2 นิ้ว Full HD 1080p
  • รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow กับ EMUI 4.1
  • ชิปเซ็ต Kirin 955
  • ซีพียู Octa-core (Quad-core 2.5 GHz Cortex-A72 และ Quad-core 1.8 GHz Cortex-A53)
  • จีพียู Mali-T880 MP4
  • แรม 3 GB
  • ความจำภายในตัวเครื่อง 32 GB เพิ่มได้ด้วย microSD card (ใส่ช่องซิม 2)
  • กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล + 12 ล้านพิกเซล ที่ร่วมกันพัฒนากับไลก้า
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
  • รองรับ Wi-Fi ac, Bluetooth 4.2
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
  • รองรับระบบ GPS, A-GPS/Glonass/BDS
  • แบตเตอรี่ 3,000 mAh ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง

 

ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล

Huawei P9 มีดีไซน์แบบ Ultra Modern ซึ่งตัวเครื่องมีความเพรียวบางเพียง 6.95 มม. ถือว่าบางมาก ๆ และมีน้ำหนัก 144 กรัม โดยวัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะอะลูมิเนียมทั้งตัวแบบไร้รอยต่อ (Unibody) จึงให้สัมผัสที่พรีเมียม และมีความแน่นหนา

หน้าจอของ Huawei P มีขนาด 5.2 นิ้ว เป็นขนาดที่พอเหมาะมือ ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป โดยมีความละเอียดหน้าจอระดับ Full HD 1080p ความหนาแน่นของจุดพิกเซลประมาณ 423 พิกเซลต่อนิ้ว (PPI) ใช้แผงหน้าจอแบบ IPS-NEO LCD ซึ่งหน้าจอชนิดนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของคอนทราสต์ที่ให้สีดำที่ดำสนิท และให้มุมมองที่กว้าง แม้จะมองจากด้านข้างก็ยังเห็นสีดำที่ดำสนิท

 

สัดส่วนหน้าขอของ Huawei P9 ให้มาประมาณ 72.9% ของสัดส่วนตัวเครื่อง ซึ่งกระจกที่ครอบหน้าจอเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนจะมีขอบที่โค้งมนแบบ 2.5D

 

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าขนาดความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ลำโพงสำหรับเสียงสนทนา โดยจะมีไฟ LED สำหรับแจ้งเตือนสถานะต่าง ๆ ซ่อนอยู่ในช่องลำโพงนี้ด้วย และเซ็นเซอร์ Proximity สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

 

ล่างหน้าจอมีโลโก้ HUAWEI ส่วนปุ่มนำทางทั้ง 3 ปุ่มจะอยู่บนหน้าจอแสดงผล

 

ขอบด้านบนตัวเครื่องมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน

 

ขอบด้านล่างตัวเครื่องมีช่องสำหรับหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม., ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียงของตัวเครื่อง ซึ่งข้อดีของการวางตำแหน่งของลำโพงมาไว้ที่ขอบตัวเครื่องแบบนี้จะทำให้เสียงไม่ถูกบดบัง เมื่อวางเครื่องกับพื้น

 

ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับกดเพื่อปิด-เปิดเครื่อง หรือกดเพื่อปิด-เปิดหน้าจอ

 

ปุ่ม Power ของ Huawei P9 ยังใส่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไปด้วย โดยการดีไซน์ให้มีลวดลายและให้สัมผัสถึงลวดลายที่ตัวปุ่ม ซึ่งไม่เพียงแต่จะให้ความสวยงามแล้ว ยังจะช่วยให้การใช้งานปุ่มนี้หาได้ง่ายขึ้นด้วยเมื่อใช้งานในที่มืด คือคลำหาแล้วทราบได้เลยว่าคือปุ่ม Power

 

ขอบด้านซ้ายตัวเครื่องมีช่องสำหรับถาดใส่ซิม รองรับซิมการ์ดขนาด Nano SIM ทั้ง 2 ช่อง หรือจะเลือกใส่ microSD card ในช่องซิม 2 ก็ได้เช่นกัน สำหรับเพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้กับตัวเครื่องได้สูงสุด 128GB

 

ด้านหลังของตัวเครื่องมีลักษณะผิวเรียบ โดยตัวเครื่องในรีวิวนี้เป็นสีเทา (Titanium Gray) สำหรับเครื่องที่วางจำหน่ายในไทยจะมีให้เลือกอีก 2 สี ได้แก่ สีทอง และสีเงิน ซึ่งฝาหลังไม่สามารถแกะเปิดได้ เพราะเป็นการขึ้นรูปจากโลหะอะลูมิเนียมชิ้นเดียว ภายในมีแบตเตอรี่ขนาดความจุ 3,000 mAh

 

กล้องหลังของ Huawei P9 เป็นเลนส์คู่ขนาดความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้ง 2 เลนส์ เป็นการร่วมกันพัฒนากับ Leica บริษัทผู้ผลิตกล้องระดับโลก และมีระบบเลเซอร์ช่วยโฟกัส พร้อมแฟลชแบบ Dual-LED ซึ่งในส่วนนี้จะครอบด้วยกระจกกันรอยขีดข่วน และมีข้อความ Leica เพื่อยืนยันถึงคุณภาพตัวกล้องของรุ่นนี้

 

กล้องด้านหลังไม่เพียงแต่เป็นเลนส์คู่ แต่ยังได้รับการออกแบบไม่ให้นูนออกจากตัวเครื่อง ทำให้เวลาวางเครื่องกับพื้น กล้องก็จะไม่เป็นรอย

 

ถัดลงมาจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ การประมวลผลนั้นถือว่าทำได้รวดเร็วมาก และได้รับการพัฒนาให้รองรับการแตะสแกนนิ้วถึง 4 ระดับ เก็บถึงระดับความขรุขระของนิ้วมือ เพื่อความปลอดภัยที่ดีที่สุด

 

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

Huawei P9 รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย EMUI เวอร์ชั่น 4.1 ที่มีหน้าตาดูสวยงามในแบบเรียบง่าย โดยในหน้าล็อกสกรีนจะมีภาพวอลเปเปอร์สลับเปลี่ยนให้ไม่ซ้ำในทุกครั้งที่ปิด-เปิดหน้าจอ และสามารถปลดล็อกเข้าใช้งานกล้องถ่ายรูปได้ด้วย

 

การปรับแต่งภาพในหน้าล็อกสกรีนก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการปัดขอบด้านล่างขึ้นในหน้าล็อกสกรีนจะมี Lockscreen Quick โผล่ขึ้นมา แล้วเลือกเมนู “หน้าปก” ซึ่งสามารถเพิ่มรูปภาพได้เอง และไม่เพียงแต่สามารถตั้งค่าภาพล็อกสกรีนได้ ยังสามารถเรียกใช้งานเครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย และกล้องถ่ายรูปได้ด้วย

 

ในหน้าโฮมรองรับการเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, เพิ่มวิดเจ็ต, เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์การเลื่อนหน้าจอ และการตั้งค่าต่าง ๆ ซึ่ง Huawei P9 จะไม่มีในส่วนของ App Drawer ดังนั้นไอคอนแอพพลิเคชั่นทุกตัวจะถูกจัดวางไว้ในหน้าโฮมทั้งหมด

 

สามารถลากไอคอนแอพพลิเคชั่นเพื่อรวมกันเป็นโฟลเดอร์ได้ เหมาะกับการรวมแอพไว้เป็นกลุ่มและตั้งชื่อโฟลเดอร์ได้ด้วย หรือจะแตะค้างที่ไอคอนแอพแล้วลากเพื่อลบการติดตั้งก็ได้เช่นกัน ทำได้เฉพาะแอพที่ติดตั้งเพิ่มเติมเอง ส่วนแอพที่มากับระบบไม่สามารถลบออกได้

 

เมื่อลากแถบบาร์ด้านบนลงจะมา จะเป็นในส่วนของรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ ซึ่งจะแสดงเป็นแบบแบบไทม์ไลน์ เลือกแตะที่รายการเพื่อเปิดู หรือปัดซ้าย/ขวาเพื่อลบการแจ้งเตือน โดยอีกส่วนจะเป็นแผงควบคุมการทำงาน Quick Settings สำหรับปิด-เปิดการทำงานต่าง ๆ และมีเมนูสำหรับจับภาพหน้าจอให้ด้วย

 

ในส่วนของ App Switcher จะแสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานอยู่ สามารถปัดที่รายการแต่ละอันเพื่อปิดการทำงาน หรือแตะเพื่อเข้าใช้งานต่อก็ได้เช่นกัน และสามารถปิดการทำงานแอพทั้งหมดโดยแตะที่ปุ่มไอคอนถังขยะ

 

Huawei มีระบบธีมให้เลือกเปลี่ยนหลากหลายแบบ เผื่อใครเบื่อหน้าตาเดิม ๆ ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดและเปลี่ยนใช้งาน ธีมดาวน์โหลดฟรีครับ

 

หน้าจอมีให้เลือกใช้งาน 2 แบบคือแบบมาตรฐาน และแบบเรียบง่าย ซึ่งแบบเรียบง่ายจะมีไอคอนขนาดใหญ่ และตัวหนังสือเมนูต่าง ๆ ก็ใหญ่ตามไปด้วย

 

ตัวจัดการลายนิ้วมือ รองรับการจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ใช้สำหรับปลดล็อกหน้าจอ, เข้าถึงความปลอดภัย, ล็อกแอป และใช้ยืนยันการเข้าสู่ระบบ Huawei ID

 

ปุ่มนำทางบริเวณล่างหน้าจอ สามารถจัดตำแหน่งตามความถนัดของแต่ละคนได้ หรือจะเพิ่มเมนูเรียกดูการแจ้งเตือนก็ได้

 

แผงปุ่มไอคอนลัด เป็นเป็นรวมไอคอนปุ่มนำทางไว้ในปุ่มเดียว และปุ่มนี้จะลอยอยู่บนหน้าจอทุกหน้า

 

ฟีเจอร์การควบคุมการเคลื่อนไหว ได้แก่

  • คว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า หรือเสียงปลุก
  • ยกมือถือขึ้นเพื่อลดความดังของเสียงเรียกเข้า หรือเสียงปลุก
  • ยกมือถือแนบหูเพื่อรับสาย หรือโทรออก
  • แตะค้างที่ไอคอนหรือวิดเจ็ตแล้วเอียงหน้าจอเพื่อเลื่อนไปวางไว้ในหน้าถัดไป

 

การถ่ายภาพหน้าจออัจฉริยะ (Knuckle Gestures) เป็นการใช้ข้อนิ้วด้านหลังเคาะบนหน้าจอหนัก ๆ ติดกัน 2 ครั้งเพื่อจับภาพหรือวาดลายเส้นรอบพื้นที่ที่ต้องการเพื่อจับภาพหน้าจอบางส่วน ซึ่งฟีเจอร์นี้ต้องเคาะนิ้วลงหนัก ๆ ถึงจะใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้

 

การใช้งานมือเดียว เป็นการลดขนาดการแสดงผลให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กลง สามารถใช้งานมือเดียวได้ และสามารถใช้งานกับแป้นพิมพ์ Huawei ได้

 

Huawei P9 รองรับการใช้งานร่วมกับเคสที่เป็นฝาพับ ใช้งานได้กับทั้งเคสแบบมีหน้าต่าง และไม่มีหน้าต่าง

 

Huawei P9 รองรับเครือข่าย 4G LTE Cat.6 ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 300 Mbps ซึ่งใช้งาน 4G ในไทยได้ทุกค่าย และใช้งาน 4G ได้ทั่วโลก โดยช่องใส่ซิมทั้ง 2 ช่องรองรับเครือข่ายทั้ง 3G และ 4G แต่ต้องเลือกเปิดใช้งานว่าจะให้ใช้งานที่ซิมตัวใดตัวหนึ่ง แล้วอีกซิมจะเป็น 2G อัตโนมัติ สามารถสลับการใช้งานซิมได้จากเมนูในตัวเครื่อง

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Huawei P9 คือตัวเครื่อง มีตัวจับสัญาณโทรศัพท์ถึง 3 ตัว ไม่ต้องกังวลเวลามือของเราจับเครื่องแล้วสัญญาณโทรศัทพ์จะหาย

Huawei P9 (รุ่นโมเดล EVA-L19) รองรับ Dual-band Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (ไม่มี NFC) โดยมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจของรุ่น P9 คือฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Wi-Fi+ เป็นการสับเปลี่ยนระหว่างเครือข่าย Wi-Fi และเครือข่ายมือถืออย่างอัจฉริยะ อีกทั้งการจับสัญญาณ Wi-Fi ก็ทำได้เร็วขึ้น สามารถเลือกสัญญาณที่ดีที่สุดให้อัตโนมัติ และจดจำเครือข่ายที่เคยเชื่อมต่อ

การเชื่อมต่อ Bluetooth เป็นเวอร์ชั่น 4.2 กับ A2DP และประหยัดพลังงาน ส่วนการเชื่อมต่อผ่านสายจะใช้พอร์ตแบบ USB Type-C

 

Huawei P9 มีแบตเตอรี่ขนาดความจุ 3,000 mAh ฝังมากับตัวเครื่อง มีโหมดสำหรับจัดการพลังงานให้เลือกใช้งานด้วย ได้แก่ โหมดปกติ/โหมดอัจฉริยะ จะมีการปรับการทำงานของซีพียูและจัดการรวมถึงปิดการทำงานเบื้องหลังด้วย ซึ่งก็ใช้งานฟังก์ชั่นได้ปกติทุกผังก์ชั่นแต่จะช่วยยืดระยะการใช้งานได้ยาวนานขึ้น

โหมดประหยัดพลังงานขึ้นสูง จะใช้งานได้เฉพาะฟังก์ชั่นพื้นฐาน เช่น การโทร ข้อความ เป็นต้น และหน้าจอแสดงผลจะเปลี่ยนเป็นขาวดำเพื่อแลกกับการยืดระยะเวลาให้ใช้งานได้นานขึ้น เหมาะสำหรับยามฉุกเฉินที่ไม่สามารถหาที่ชาร์จแบตได้

สำหรับโหมดประหยัดพลังงาน ROG จะเป็นการลดความละเอียดหน้าจอเป็น HD 720p เพื่อลดการใช้พลังงาน นอกจากนี้แล้ว Huawei P9 ยังรองรับระบบชาร์จแบบ Dual-IC Rapic Charge ช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้น

 

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช

  • Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
  • Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
  • Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
  • Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
  • Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
  • รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด

 

ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน

Huawei P9 รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง HiSilicon Kirin 955 Octa-core แบ่งการทำงานซีพียูออกเป็น 2 ระดับ Quad-core 2.5GHz Cortex-A72 ซึ่งตัวนี้เองจะเป็นการเรียกทำงานในระดับที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด และ Quad-core 1.8 GHz Cortex-A53 จะเน้นการทำงานทั่วไปเพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งทั้ง 2 ตัวจะรวมกันหรือสลับซีพียูตามโหมดการทำงานไปมา กับจีพียู Mali-T880 MP4 และความจำแรม 3GB

โดยผลการทดสอบ AnTuTu v6.1.4 ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 91,542 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าสูงมาก

 

ผลการทดสอบด้วย Geekbench v3.4.1 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Huawei ทำคะแนน Single-Core ได้ 1,776 และ Multi-Core ทำได้ 6,230 คะแนน ผลคะแนนที่ออกมาอยู่ในระดับทำได้ดีกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา และสูงกว่าเรือธงรุ่นของค่ายอื่นด้วย

 

ทดสอบ 3DMark เพื่อดูประสิทธิภาพการทำงานของกราฟิกรวมถึงการเล่นเกม 3D

  • Sling shot ES 3.0 ทดสอบประสิทธิภาพที่ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล ทำได้ 855 คะแนน
  • Ice Storm Unlimited วัดประสิทธิภาพของจีพียู และประสิทธิภาพของซีพียูเปรียบเทียบกันชิปต่อชิป ซึ่งใช้ OpenGL ES 2.0 แบบ Offscreen ด้วยความละเอียดเดียวกันโดยไม่สนใจความละเอียดของตัวเครื่องที่ 720p ทำได้ 18,525 คะแนน

 

วัดประสิทธิภาพของจีพียู และประสิทธิภาพของซีพียู ซึ่งใช้ OpenGL ES 2.0 ในส่วนของ Ice Storm ทำคะแนนทะลุเกินไป (Maxed out) และ Ice Storm Extreme ทำได้ 9,595 คะแนน

 

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะด้วย GFXBench ผลคะแนนจะนับเป็น PFS (Frame per Second)

  1. Car Chaseใช้ OpenGL ES 3.1 with Android Extension Pack เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด ทำได้ 3.9 FPS
  2. Car Chase Offscreen ใช้ OpenGL ES 3.1 with Android Extension Pack เพื่อทดสอบการประมวลผลที่ความละเอียด 1080p ทำได้ 3.8 FPS
  3. Manhattan ใช้ OpenGL ES 3.1 เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด ทำได้ 3.3 FPS
  4. 1080p Manhattan Offscreen ทดสอบเหมือนในข้อ 3 แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด 1080p ทำได้ 5.7 FPS
  5. Manhattan ใช้ OpenGL ES 3.0 เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด ทำได้ 9.5 FPS
  6. 1080p Manhattan Offscreen ทดสอบเหมือนในข้อ 5 แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด 1080p ทำได้ 9.0 FPS
  7. T-Rex เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด แต่ใช้ OpenGL ES 2.0 ทำได้ 22 FPS
  8. 1080p T-Rex Offscreen เป็นการทดสอบเหมือนในข้อ 7 แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด 1080p ทำได้ 21 FPS

ภาพรวมผลการทดสอบในส่วนของคะแนน Huawei P9 ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งตัวระบบปฏิบัติการและ EMUI ที่ใส่เข้ามาให้นั้นก็ได้รับการออกแบบให้ทำงานเข้ากันได้อย่างลื่นไหล และการจัดการในส่วนของหน่วยความแรมนั้นทำได้ดีมาก ไม่พบอาการแรมรั่วจนหมด

 

กล้องถ่ายรูป

Huawei P9 มีกล้องหลังขนาดความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้ง 2 ตัว โดยตัวหนึ่งจะจับภาพสีเก็บรายละเอียดทั้งหมด ส่วนเลนส์อีกตัวหนึ่งจะเก็บภาพขาวดำและเก็บรายละเอียดมิติของภาพ ซึ่งเซ็นเซอร์ของกล้องมีขนาดใหญ่ ช่วยให้รับแสงได้มากขึ้น ทำให้การถ่ายภาพนั้นทำได้ง่ายขึ้น พร้อมระบบโฟกัสแบบ PDAF และเลเซอร์ช่วยโฟกัส, ค่ารูรับแสง f/2.2 ช่วยให้ไม่ต้องโฟกัสภาพหรือวัตถุนาน สามารถกดชัตเตอร์ถ่ายได้ทันที ถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติการถ่ายรูปในสมาร์ทโฟนด้วยการผสานนวัตกรรมของสมาร์ทโฟนเข้ากับเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพด้วยเลนส์ที่สมบูรณ์แบบ

 

ถ้าถือกล้องในแนวนอน ให้ปัดขอบหน้าจอด้านล่างขึ้นเพื่อเลือกโหมดถ่ายภาพ แต่ถ้าถือกล้องในแนวตั้งให้ปัดขอบด้านซ้าย เพื่อเลือกโหมดถ่ายภาพ

 

กล้องของ Huawei P9 ถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด 3968 x 2976 พิกเซล (ประมาณ 11.8 ล้านพิกเซล) ในอัตราส่วน 4:3 โดยมีลูกเล่นที่สร้างจุดเด่นให้กับกล้องของรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี นั่นคือ การเพิ่มลายน้ำของ Leica และชื่อรุ่นของ Huawei P9 ลงบนภาพถ่ายอัตโนมัติ

แอพกล้องถ่ายรูปของ Huawei P9 รองรับการแนบตำแหน่งแผนที่ลงในภาพถ่าย, ระบบตรวจจับรอยยิ้ม และระบบติดตามวัตถุ (Focus Tracking)

 

อีกหนึ่งลูกเล่นของกล้อง Huawei P9 คือการเลือกฟิลเตอร์ก่อนถ่ายรูป ซึ่งจะเห็นภาพตัวอย่างก่อนที่จะถ่ายจริง

 


โหมดขาวดำ

โหมดถ่ายรูปแบบขาวดำของ Huawei P9 และเป็นจุดเด่นของกล้อง Leica ถือเป็นจุดขายและสร้างจุดเด่นที่เรียกความสนใจจากผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี

ภาพที่ถ่ายจากโหมดขาวดำของกล้องของ P9 จะเก็บรายละเอียดและมิติของภาพได้ดีกว่า ซึ่งต่างไปจากการถ่ายภาพสีแล้วแปลงเป็นขาวดำ จะทำให้รายละเอียดของภาพบางส่วนขาดหายไป


โหมดหน้าชัด-หลังเบลอ

โหมดนี้การเลือกจุดโฟกัสให้วัตถุมีความคมชัด โดดเด่นกว่าจุดอื่น จากการทดสอบถ่ายภาพคน ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก โดยสามารถเลือกปรับค่ารูรับแสงเพื่อเพิ่มความเบลอของฉากหลังได้ หากปรับค่ารูรับแสงให้น้อยมากเท่าไหร่ (รูรับแสงจะกว้าง) จะทำให้พื้นหลังเบลอมากขึ้น แต่มีจุดสังเกตเพิ่มเติมสำหรับการปรับค่ารูรับแสงให้ต่ำสุด (รูรับแสงกว้างสุด) พบว่าทำให้ขอบของตัววัตถุด้านหน้าแหว่งไปด้วย เพราะถูกเบลอบางส่วนไป ดังนั้นเราควรปรับค่ารูรับแสงให้เบลอแบบพอเหมาะ เพื่อให้ได้ภาพที่เบลอแบบเนียน ๆ


โหมด Light Painting

Light Painting เป็นการเปิดหน้ากล้องได้นานขึ้น ใช้เป็นลูกเล่นในการจับภาพแสงไฟตามทิศทางของแสง เหมาะกับการถ่ายภาพแสงไฟรถยนต์ตามท้องถนน หรือวาดสัญลักษณ์ ตัวหนังสือต่าง ๆ ด้วยแสงไฟ เป็นต้น โหมดนี้ต้องถือเครื่องมือถือให้นิ่ง ๆ หรือใช้ขาตั้งกล้องช่วยก็ได้


โหมด HDR

เป็นการถ่ายรูปหลายรูป ที่มีค่าความสว่างของแสงแตกต่างกัน แล้วเอาภาพมารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้เวลาถ่ายภาพด้วยโหมดนี้จำเป็นต้องถือกล้องนิ่ง ๆ สักพัก เพื่อให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดครบ ทั้งพื้นที่ส่วนที่สว่างและส่วนที่มืด


โหมดโปร

โหมดโปร หรือ Manual Mode สามารถปรับค่าของถ่ายรูปได้เอง ได้แก่ จุดโฟกัส, ISO 50-3200, ความเร็วชัตเตอร์ได้นานสุด 30 วินาที, การชดเชยแสง +/-4 และค่า White Balance ซึ่งในเลือกถ่ายภาพในโหมดนี้ยังรองรับการบันทึกไฟล์ RAW ได้ด้วย


ถ่ายภาพอาหาร

การถ่ายภาพอาหารในโหมดอัตโนมัติ ระบบจะปรับสีสันของภาพให้อัตโนมัติ โดยให้เฉดฉีที่เต็มอิ่ม ทำให้ภาพอาหารดูมีสีสันน่ารับประทานมากขึ้น


กล้องหน้า

กล้องหน้าของ Huawei P9 มาโหมดปรับหน้าสวยได้ 10 ระดับ สำหรับคนชอบเซลฟี่ ซึ่งจากการทดสอบใช้งานพบว่าเก็บรายละเอียดภาพได้ดีมาก แม้จะถ่ายย้อนแสงหน้าก็ยังชัด

 

จะเห็นว่ากล้องหน้าแม้ถ่ายย้อนแสงหน้าก็ยังสว่าง ถือว่าเก็บรายละเอียดได้ดีเลยทีเดียว


ตัวอย่างภาพถ่าย


สรุปจุดเด่น

  • Huawei P9 มีดีไซน์ที่สวยงาม เพรียวบาง วัสดุโลหะอะลูมิเนียมระดับพรีเมียม และกระจกหน้าจอแบบขอบโค้งมน 2.5D ทำให้ดูสวยงามมากขึ้น
  • หน้าจอของ Huawei P9 ขนาด 5.2 นิ้ว เป็นขนาดที่กำลังพอดี จับถนัดมือ และมีความคมชัดระดับ Full HD 1080p
  • รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow กับ EMUI 4.1 พร้อมชิปเซ็ต Kirin 955 ซึ่งเป็นซีพียู Octa-core 64-bit (Quad-core 2.5 GHz Cortex-A72 และ Quad-core 1.8 GHz Cortex-A53) กับจีพียู Mali-T880 MP4 และแรม 3GB ช่วยให้การใช้งานทั่วไปทำได้ลื่นไหลดี และรองรับการเล่นเกมที่มีกราฟิกสวยงามได้สบาย
  • กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล + 12 ล้านพิกเซล ที่ร่วมกันพัฒนากับไลก้า ทำออกมาได้ดีมากสำหรับกล้องถ่ายรูปบนมือถือ และพร้อมโหลดใช้งานที่หลากหลาย ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีโหมดหน้าสวยสำหรับคนชอบเซลฟี่
  • รองรับ Wi-Fi ac, Bluetooth 4.2, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และรองรับระบบ GPS, A-GPS/Glonass/BDS
  • แบตเตอรี่ 3,000 mAh มีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกใช้งาน เพื่อช่วยให้ใช้งานได้นาวนานยิ่งขึ้น
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง ทำงานได้รวดเร็วมาก แตะสแกนเพื่อปลดล็อกหน้าจอได้ทันที โดยไม่ต้องกดเปิดไฟหน้าจอก่อน และตัวเซ็นเซอร์อยู่ห่างจากตัวเลนส์กล้อง ทำให้ไม่แตะพลาดไปโดนหน้าเลนส์กล้องด้วย

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • การเพิ่มความจำด้วย microSD card จะใส่ในช่องซิม 2 ดังนั้นต้องเลือกว่าจะใส่ซิม 2 หรือใส่ microSD card

ขอขอบคุณ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย)

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

จ่อคิวเปิดตัวเร็วๆ นี้! HUAWEI MatePad 11.5 NEW แท็บเล็ตราคาแค่หมื่นต้น ใช้งานเป็นพีซีพกพา ครบทั้งเรื่องเรียนและทำงาน

ทรงพลัง !! HUAWEI Pura 80 Ultra จะได้เซ็นเซอร์กล้องเลนส์หลัก + Periscope แบบ RYYB

Canalys เผยตลาดแท็บเล็ตปี 2024 Apple ครองตลาด ทิ้ง Samsung เกือบเท่าตัว ส่วนที่ 3 เป็น HUAWEI

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Read More