รีวิว HUAWEI WATCH FIT 3 สมาร์ทวอทช์ดีไซน์แฟชันรุ่นใหม่ ด้วยหน้าจอ AMOLED ทรงสี่เหลี่ยมใหญ่ 1.82″, ตัวเรือนบางเฉียบเหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน, มาพร้อมระบบจัดการด้านสุขภาพแบบยกระดับใหม่ทั้ง TruSeen และ TruSleep รอบด้าน, รองรับการใช้งานยาวนานสูงสุด 10 วัน และที่สำคัญรองรับการเชื่อมต่อกับทั้ง iOS และ Androids ผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI Health อีกด้วย!
เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ทวอทช์ที่ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบจริง ๆ ครับ การใช้งานจริงเป็นอย่างไร ที่ว่าดีไซน์เด่นนี่เด่นแค่ไหน ติดตามได้จาก รีวิว HUAWEI WATCH FIT 3 นี้เลยครับ!
คุณสมบัติ HUAWEI WATCH FIT 3
- ขนาดตัวเครื่อง : 43.2 x 36.3 x 9.9 มม.
- น้ำหนัก : ประมาณ 26 กรัม
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.82″ (480 x 480 พิกเซล)
- แบตเตอรี่ : 400mAh
- เซ็นเซอร์ : Accelerometer sensor 9 แกน, Gyroscope sensor, Magnetometer sensor, PPG Heart Rate Sensor, Ambient Light Sensor
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
- แอปพลิเคชั่นเชื่อมต่อ : HUAWEI Health (รองรับ HarmonyOS, iOS 9 ขึ้นไป และ Android 6.0 ขึ้นไป)
- มาตรฐานกันน้ำ : 5ATM
- สีสัน : ดำ, ชมพู, เขียว, ขาวมูนไวท์, เทา (สายไนลอน), ขาว (สายหนัง)
แกะกล่อง HUAWEI WATCH FIT 3
ก่อนอื่นเรามาเช็กอุปกรณ์ในกล่องกันก่อนเลย ตัวกล่องจะเป็นสีขาวมาตรฐานของ HUAWEI ที่ด้านหน้าจะมีชื่อรุ่นพร้อมภาพประกอบของ WATCH FIT 3 ที่ตรงกับสีในกล่องเลย และสีที่เราได้มารีวิวก็เป็นสีเทาที่มีสายไนลอนด้วย สวยแน่!
แกะกล่องออกมาเราจะเจอกับ HUAWEI WATCH FIT 3 วางนอนอยู่อย่างเรียบร้อย ลึกลงไปอีกก็จะมีอุปกรณ์เสริมอีก 2 อย่างรวมเป็น 3 อย่างดังนี้ครับ
- HUAWEI WATCH FIT 3
- สายชาร์จ
- เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.82″
ได้เวลายลโฉม HUAWEI WATCH FIT 3 กันแบบเต็ม ๆ แล้วครับ ขอเริ่มที่หน้าจอที่เป็นไฮไลท์ใหม่ของรุ่นนี้ก่อนเลย เพราะรอบนี้มีการปรับอัตราส่วนหน้ามาให้เป็นสี่เหลี่ยมจัตรุสแล้ว ได้ความสมมาตรและสวยงามขึ้นกว่าเดิม
ตัวหน้าจอจะใช้ชนิด AMOLED ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.82″ ทำให้เวลาเรายกข้อมือขึ้นมาจะได้ความเต็มตาแบบที่ถูกใจ ความละเอียดจอสูงถึง 480×480 พิกเซล และยังได้ความสว่างหน้าจอสูงถึง 1500nits ช่วยให้เราใช้งานกลางแจ้งได้สบายตามาก ๆ
หน้าปัดแบบใหม่หมด
แน่นอนว่าพอเปลี่ยนอัตราส่วนของหน้าจอแล้ว หน้าปัดหรือ Watch Faces ก็ต้องเป็นชุดใหม่ด้วย ซึ่ง HUAWEI WATCH FIT 3 นั้นมีหน้าปัดสวย ๆ ให้เลือกเพียบเหมือนเดิม ทั้งแบบข้อมูลเยอะ ๆ ให้หน้าเดียว, แบบแฟชั่นเข้ากับตัวเรือน, หรือเราจะเลือกรูปถ่ายไปใส่เองก็ได้เช่นกัน ซึ่งรูปแบบที่ติดมาจะมีให้ 10 แบบ แต่ถ้ายังไม่พอก็ยังสามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้ เพราะมีให้เลือกเพิ่มอีกกว่า 200 แบบเลยทีเดียว
มี Watch Faces ใหม่อย่าง Emoji ที่จะแสดงอารมณ์แตกต่างกันไปเมื่อเรายกข้อมือขึ้นมา ช่วยสร้างคสามเพลิดเพลินและมีชีวิตชีวาระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
และความดีงามของ Watch Faces ในรอบนี้ก็คือเราสามารถปรับแต่งได้มากขึ้นในหน้าปัดหลัก อย่างเช่นเปลี่ยนสีสันของพื้นหลัง, เปลี่ยนรูปแบบจากเข็มเป็นตัวเลข หรือทางลัดที่แสดงบนจอหลักเป็นต้น ช่วยให้เราปรับให้เข้ากับตัวเองที่สุดได้เลย
ดีไซน์สวยแบบ Ultra-Slim
รอบนี้ HUAWEI ปรับโฉมให้ WATCH FIT ใหม่หมดใช้ดีไซน์แบบ Ultra-Slim เน้นความบาง-เบามากกว่าเดิม มีความบางเพียง 9.9 มม.และน้ำหนักเพียง 26 กรัมเท่านั้น ทำให้สวมใส่ได้สบายข้อมือสุด ๆ ครับ
แต่ถึงแม้จะบางและเบา แต่วัสดุงานประกอบของ HUAWEI WATCH FIT 3 ก็ไม่ธรรมดาเพราะเฟรมตรงกลางเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์ที่หรูหราผสานสไตล์เข้ากับความทนทานเพื่อรูปลักษณ์อันประณีตกว่าที่เคย ทำให้แค่เห็นก็รู้สึกถึงความพรีเมี่ยมในการออกแบบไม่น้อยเลยจริง ๆ
ปุ่ม Digital Crown ใหม่มอบประสบการณ์ตอบโต้ที่ดีที่สุด
นอกจากจะปรับทรงของตัวเรือนใหม่แล้ว HUAWEI WATCH FIT 3 ยังได้ปุ่ม Digital Crown มาใหม่ เป็นครั้งแรกของ WATCH FIT Series อีกด้วย ช่วยให้เราได้หมุนเลื่อนตัวเลือกได้แบบเดียวกับ WATCH GT Series เลย แถมตอบเลื่อนก็จะมีการสั่นตอบโต้ให้ความรู้สึกเป็นรุ่นใหญ่ขึ้นมาอีกต่างหาก
และที่พิเศษอีกอย่างคือสีเทาที่เราได้มารีวิวจะมีปุ่ม Digital Crown เป็นสีแดงอันโดดเด่นที่ตัดกับสีเทาของตัวเรือนได้เป็นอย่างดี และที่ตัวปุ่มยังระบุคำว่า HUAWEI WATCH ไว้ภายในด้วยนะเท่มาก
สายมีให้เลือก 3 รูปแบบตามสีเครื่อง
ส่วนสายที่ใช้บน HUAWEI WATCH FIT 3 จะมีให้เลือก 3 แบบตามสีเครื่องที่วางจำหน่ายเลย ประกอบด้วย
- สาย Fluoroelastomer ในสีดำ, เขียว, ชมพู, ขาวมูนไวท์ ใช้
- สายไนลอน ในสีเทา (สีที่รีวิว)
- สายหนัง ในสีขาว
ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวก็เป็นสีเทาที่เป็นสายไนลอนนั่นเองครับ โดยสายไนลอนนั้นเป็นที่ยอมรับในเรื่องของความเบา และปรับขนาดได้หลากหลาย เหมาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟซึ่งให้ความสำคัญกับความ ยืดหยุ่นและการสวมใส่ที่ง่าย
ตัวสายมีความนุ่มและรองรับข้อมือเราได้ดีเลยจริง ๆ ส่วนดีไซน์ก็เท่มาก เพราะตรงปลายจะมีแถบสีแดงพร้อมโลโก้ HUAWEI อยู่ด้วย พออยู่รวมกับองค์ประกอบทั้งปุ่ม Digital Crown และตัวเรือนเทาแล้วดูลงตัวเอามาก ๆ ครับ
เซ็นเซอร์ที่ด้านหลังพร้อมที่ชาร์จ
ด้านหลังของ HUAWEI WATCH FIT 3 ก็ยังให้เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อม PIN สำหรับชาร์จแบตเตอรี่กับที่ชาร์จแบบแม่เหล็กที่ติดมาให้ในกล่องเหมือนเดิมครับ
และเรื่องความทนทาน HUAWEI WATCH FIT 3 ก็ได้มาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM คือลงน้ำลึกได้ที่ 50 เมตรเลย ไม่ใช่แค่กันละอองน้ำหรือล้างน้ำได้ แต่ยังกันแรงดันน้ำได้เป็นอย่างดีจนสามารถใส่ว่ายน้ำได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องใส่ออกกำลังกายแล้วเหงื่อออกแล้วเนาะระดับนี้แล้ว
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ HUAWEI WATCH FIT 3 ก็ถือว่าเป็นการปรับโฉมใหม่ที่น่าสนใจจริง ๆ เปลี่ยนภาพจำของ WATCH FIT Series ที่มักจะเรียบง่ายเน้นฟีเจอร์การใช้งานเป็นหลัก ให้เป็นสมาร์ทวอทช์สายแฟชั่นที่ทรงสวยบาง-เบา หน้าจอเต็มตา สีสันสวยงามขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มที่ต้องการความสวยงามและฟีเจอร์ขี้นมากเลยล่ะครับ!
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทุกระบบผ่านแอป HUAWEI Health
สำหรับการเชื่อมต่อ HUAWEI WATCH FIT 3 ก็สามารถเชื่อมได้กับสมาร์ทโฟนทุกระบบไม่ว่าจะเป็น HarmonyOS ของ HUAWEI เอง, Android หรือ iOS ก็ได้ด้วย โดยแอปที่ใช้ในการจัดการคือ HUAWEI Health นั่นเองครับ
ซึ่งในแอปจะเป็นศูนย์รวมข้อมูลสุขภาพของเราจากที่เครื่องเก็บมาได้ รวมถึงหน้าอุปกรณ์ที่ให้เราเช็กสถานะของ HUAWEI WATCH FIT 3 เอง เลือกดาวน์โหลด Watch Faces อื่น ๆ การตั้งค่าการแจ้งเตือน รวมไปถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์ก็รวมไว้ในแอปนี้หมดแล้วครับ
จัดการค่าสำคัญด้านสุขภาพรอบด้าน
เข้าสู่เรื่องฟีเจอร์ด้านสุขภาพกันบ้าง HUAWEI WATCH FIT 3 มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยตรวจจับเรื่องสุขภาพครบครัน ทั้ง HUAWEI TruSleep 4.0 เพื่อสุขภาพการนอนที่แม่นยำขึ้น หรือ HUAWEI TruSeen 5.5 เพื่อสุขภาพหัวใจที่ดีขึ้นอีกด้วย
HUAWEI TruSleep 4.0
การติดตามการนอนหลับที่แม่นยำและครอบคลุมสามารถช่วยให้เราปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับของตนเองได้ ซึ่ง HUAWEI WATCH FIT 3 ก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีติดตามการนอนล่าสุด HUAWEI TruSleep 4.0 ที่เปรียบเทียบกับมาตรฐานการประเมินคุณภาพการนอนหลับที่น่าเชื่อถือในอุตสาหกรรม เช่น Pittsburgh Sleep Quality Index (PSQI) ซึ่งปรับปรุงระบบการให้คะแนนการนอนหลับอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความแม่นยำมากขึ้น
โดย HUAWEI WATCH FIT 3 สามารถรับรู้การหายใจขณะหลับได้โดยการตรวจจับความถี่ของการลดลงของออกซิเจนในเลือดและการเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการนอนหลับตลอดทั้งคืน ซึ่งพอตัวหน้าจอใหญ่และเต็มตา เราก็สามารถดูข้อมูลเบื้องต้นก่อนจากข้อมือได้โดยไม่ต้องผ่านสมาร์ทโฟนเลยด้วย
หรือจะดูอย่างละเอียดและรับคำแนะนำในการนอนเพิ่มเติมก็สามารถดูได้เต็ม ๆ ผ่านแอป HUAWEI Health บนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วยครับ
**ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ไม่สามารถวิคเราะห์ วินิจฉัยหรือรักษา ภาวะหรือโรคใด ๆ ได้ ค่าที่ตรวจวัดได้ใช้ในการอ้างอิงเบื้องต้นเท่านั้น
HUAWEI TruSeen 5.5
นอกจากเรื่องการนอนแล้ว เรื่องการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและการตรวจวัดออกซิเจนขณะออกกำลังกายของ WATCH FIT 3 ก็ดีขึ้นอย่างมาก จุดที่อัปเกรดจะมีดังนี้เลย
- การตรวจสอบหลายช่องทางช่วยให้มั่นใจถึงผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น
- อัลกอริธึมได้รับการอัปเกรดเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเรียนรู้ด้วยตนเองแบบออนไลน์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบในสถานการณ์ที่มีสัญญาณอ่อน
- UI ใหม่มีคุณสมบัติการนับถอยหลัง 25 วินาที ซึ่งหมายความว่าการวัดจะใช้เวลาไม่เกิน 25 วินาที ซึ่งเร็วกว่าเดิม
- รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่องและการตรวจสอบ SpO2 ช่วยให้ดูข้อมูลในอดีตได้ตลอดเวลา เพื่อปกป้องสุขภาพของคุณได้ดียิ่งขึ้น
โหมดออกกำลังกายกว่า 100+
ส่วนสายออกกำลังกายก็ไม่ต้องห่วงเช่นกัน เพราะ HUAWEI WATCH FIT 3 รองรับโหมดการออกกำลังกายมากกว่า 100+ และโหมดใหม่ที่มีให้ใช้งาน อาทิ ฟุตบอล, บาสเก็ตบอล, พาเดล, eSports หรือการวิ่งบนลู่วิ่ง และมีการการจดจำโหมดกีฬา 6 โหมดโดยอัตโนมัติ รวมถึงการตรวจจับสถานะการวิ่ง/การปั่นจักรยาน และการสตาร์ท-หยุดชั่วคราวการออกกำลังกายอัตโนมัติดด้วยครับ
มี Activity Ring 2.0 ช่วยให้กระตือรือร้นได้ตลอด
และใครที่ชอบ Challenge อยากมีอะไรให้พิชิตในแต่ละวัน HUAWEI WATCH FIT 3 ก็มีหน้า Activity Ring 2.0 เข้ามาให้ด้วย ช่ววบันทึกจำนวนแคลอรี่ที่เราเผาผลาญ ระยะเวลาการออกกำลังกาย และชั่วโมงการยืนในแต่ละวันโดยอัตโนมัติ ความแม่นยำของข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุงด้วยอัลกอริธึมใหม่ ช่วยให้เราเข้าใจข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เพียงสวมใส่ตลอดทั้งวันและตั้งค่ากำหนดเป้าหมายกิจกรรมที่เหมาะสม และใช้การแจ้งเตือน หาสิ่งจูงใจให้ทำกิจกรรม เพื่อให้ครบ 3 วงทุกวัน ทำให้เรามีความกระตือรือร้นและพัฒนานิสัยการออกกำลังกายที่ดี นอกจากนี้ยังมีสรุปรายวัน/รายสัปดาห์และเหรียญรางวัลใหม่ ผ่านแอป HUAWEI Health เพื่อกระตุ้นให้อยากใช้งานด้วย!
แอปใหม่ Stay Fit บรรลุเป้าหมายด้วยการจัดการแคลลอรี่
HUAWEI WATCH FIT 3 มาพร้อมแอปตัวใหม่ชื่อ “Stay Fit” จะแสดงแดชบอร์ดการบริโภคโปรตีน/น้ำตาล/ไขมัน ด้วยความก้าวหน้าเหล่านี้ เราไม่เพียงแต่สามารถวัดความสำเร็จตามเป้าหมายรายวันแล้วเช็คเข็มไมล์ได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ยังครอบคลุมสำหรับจัดการอาหารและบรรลุเป้าหมายด้านฟิตเนสอีกด้วย การรวมคุณสมบัติการจัดการแคลอรี่ควบคู่ไปกับการนับแคลอรี่ การตรวจสอบการขาดดุลและแผนการลดน้ำหนักส่วนบุคคล ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเรามีทุกสิ่งที่ต้องการเพื่อให้บรรลุสุขภาพและความสมบูรณ์แข็งแรงที่ดีที่สุดได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 10 วัน
และปิดท้ายด้วยเรื่องแบตเตอรี่ เห็นตัวเรือนบาง ๆ แบบนี้แต่ HUAWEI WATCH FIT 3 นั้นสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 10 วันเลยทีเดียว หรือถ้าใช้งานแบบทั่วไปมีการตรวจจับการออกกำลังกายอยู่ตลอด ๆ ก็ใช้งานได้ 7 วันเลย เป็นอายุการใช้งานที่ยอดเยี่ยมครับ เท่าที่เราลองใช้งานจริงก็ทำได้ตามที่เคลมครับ ตกวันละ 10% ใช้สัก 5 วันชาร์จ 1 ครั้งก็แฮปปี้มาก ๆ เลยล่ะ
หรือถ้าวันไหนใช้จนเกลี้ยงจริงแล้วลือชาร์จก็ขอเวลาสัก 10 นาทีก็สามารถใช้งานต่อได้อีก 1 วันแล้ว เป็นแบตเตอรี่และระบบชาร์จเร็วที่ไม่ธรรมดาเลยว่าไหมล่ะครับ
ราคาและโปรโมชั่น HUAWEI WATCH FIT 3
HUAWEI WATCH FIT 3 วางจำหน่าย 2 รุ่นราคาดังนี้
- รุ่นสาย Fluoroelastomer ราคา 3,990 บาท
- รุ่นสายไนลอน/สายหนัง ราคา 4,990 บาท
มีโปรโมชันพิเศษเมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายนรับฟรีหูฟัง HUAWEI FreeBuds SE 2 มูลค่า 1,499 บาท
วาร์ปที่นี่ (Shopee) >> https://bit.ly/3V5abpP
สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทวอทช์ที่เชื่อมชีวิตยุคใหม่ด้วยดีไซน์สวยล้ำและฟีเจอร์ยกระดับสุขภาพอย่างแท้จริง”
สรุปแล้ว HUAWEI WATCH FIT 3 ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่เชื่อมชีวิตยุคใหม่ด้วยดีไซน์ทันสมัยมีความแฟชั่นใส่ได้ทุกสถานการณ์ แถมบาง-เบาและหรูหราด้วยวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ มีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมาครบพร้อม UI ที่ปรับใหม่หมด สดใหม่น่าใช้ แบตเตอรี่ที่อึดใช้งานได้เป็นสัปดาห์แบบไม่ต้องกังวล ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์สักเรือนที่มากกว่าสมาร์ทแบนด์และฟีเจอร์ครบ อยากได้จอใหญ่เต็มตาหน่อยแต่ก็ไม่เต็มข้อมือจนเกินไป เราว่า HUAWEI WATCH FIT 3 นี่แหละตรงโจทย์สุด ๆ เพราะรุ่นนี้เป็นตัวเลือกตรงกลางที่ลงตัวระหว่าง HUAWEI Band กับ HUAWEI WATCH GT จริง ๆ ครับ!