รีวิว i-mobile IQ X PRO 2 มาพร้อมกล้อง 30 ล้าน, แรม 3GB, รองรับ 4G และดูทีวีได้ไม่ต้องต่อเน็ต

i-mobile IQ X PRO 2 สมาร์ทโฟนต่อยอดความสำเร็จจากรุ่น IQ X PRO รุ่นแรก อัปเกรดหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 5.5 นิ้ว Full HD ขุมพลัง Snapdragon 615 ซีพียู Octa-core กับแรม 3GB โดดเด่นด้วยกล้องหลัง 30 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังรองรับ 4G LTE และดูฟรีทีวีได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

สรุปข้อมูลและสเปค i-mobile IQ X PRO 2

  • ราคาเปิดตัว 9,900 บาท (กรกฎาคม 2558)
  • ขนาดตัวเครื่อง 152.5 x 76 x 8.59 มม.
  • น้ำหนัก 147 กรัม
  • 2G : 900 / 1800 MHz
  • 3G : 850 / 900 / 2100 MHz
  • 4G : LTE band 1(2100), 3(1800), 40(2300)
  • รองรับ 2 ซิม (Micro SIM + Nano SIM)
  • หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว IPS + OGS ความคมชัด Full HD 1080p
  • ระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop
  • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 615 MSM8939
  • ซีพียู 64 บิต Octa-core 1.5 GHz (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53)
  • กราฟิก (GPU) Adreno 405
  • หน่วยความจำ RAM 3 GB
  • หน่วยความจำ ROM 32 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 64 GB (Class 10)
  • กล้องหลัง 30 ล้านพิกเซล แฟลช LED (เซ็นเซอร์จริง 20.7 ล้านพิกเซล) รูรับแสง f/1.8
  • กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล แฟลช LED
  • รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.0
  • GPS, GLONASS
  • รองรับการดูทีวีผ่านระบบ Digital TV (DVB-T2)
  • วิทยุ FM
  • แบตเตอรี่ Li-Po 2500 mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)

 

แกะกล่องและอุปกรณ์ในกล่อง

  • ตัวเครื่อง i-mobile IQ X PRO 2 พร้อมแบตเตอรี่ในตัว
  • สาย micro USB สำหรับชาร์จไฟแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูล
  • อะแดปเตอร์รุ่น CH-88
  • หูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
  • เสาอากาศสำหรับ DTV
  • คู่มือการใช้งาน
  • ฟิลม์กันรอย
  • เคสพลาสติกซิลิโคนแบบใส
  • ตัวติดด้านหลังตัวเครื่องสำหรับวางตั้ง
  • เข็มสำหรับเปิดถาดซิม

ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล

i-mobile IQ X PRO 2 มีขนาดตัวเครื่อง 152.5 x 76 x 8.59 มม. น้ำหนัก 147 กรัม ตัวเครื่องเป็นพลาสติกผิวเรียบ ขอบด้านข้างโค้งมน ช่วยให้จับกระชับมือ และถือว่าไม่หนักมากหากเทียบกับขนาดตัวเครื่องที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว

หน้าจอแสดงผลของ IQ X PRO 2 มีความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล เป็นหน้าจอแบบ IPS ให้สีสันการแสดงผลคมชัดในมุมมองที่กว้างขึ้นทั้งแนวตั้งและแนวนอน อีกทั้งเป็นจอที่มีการรวมเซ็นเซอร์รับสัมผัสเอาไว้ในเนื้อกระจกหรือที่เรียกว่า OGS ทำให้ตัวจอบางและเบากว่าเดิม

 

เหนือหน้าจอมีไฟแฟลชด้วย ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ i-mobile, ช่องลำโพงเสียงสนทนา และเลนส์กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล

 

ขอบด้านล่างหน้าจอมีปุ่มสัมผัส 3 ปุ่ม มีไฟส่องสว่าง ช่วยให้การใช้งานในที่มืดสะดวกขึ้น โดยปุ่มตรงกลางซึ่งเป็นโฮมยังทำหน้าที่เป็นไฟแจ้งเตือนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟแจ้งสถานะการชาร์จแบตเตอรี่, ไฟกระพริบสำหรับแจ้งเตือนที่ค้างอยู่ซึ่งยังไม่เปิดอ่าน เป็นต้น

 

ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.

 

ขอบด้านล่างมีไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB รองรับ OTG และช่องลำโพง

 

ขอบทางด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มปิด/เปิดเครื่องหรือใช้สำหรับกดปิด/เปิดหน้าจอ

 

ขอบทางด้านซ้ายมีถาดใส่ซิม ซึ่งรองรับ 2 ซิม เป็มซิมขนาด Nano SIM และ Micro SIM หรือจะเลือกใส่ microSD กับ Micro SIM ก็ได้

 

ด้านหลังมีเลนส์กล้องความละเอียด 30 ล้านพิกเซล ไฟแฟลชแบบ LED ส่วนฝาหลังไม่สามารถเปิดได้ ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 2500 mAh

 

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

IQ X PRO 2 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่มีอยู่บน Android L ได้ทันที เช่น การแสดงรายงการแจ้งเตือนบนหน้าล็อคสกรีน และไอคอน รวมถึงอินเตอร์เฟซในส่วนของเมนูตั้งค่าที่เป็นแบบ Material Design

 

ในหน้าจอหลักหรือหน้าโฮมสามารถเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ เลือกรูปแบบ เพิ่มวิตเจ็ต และปรับแต่งอื่น ๆ ได้ตามต้องการ

 

ไอคอนแอพจะเรียงกันแบบ 6 x 4 แถว แตะค้างที่ไอคอนแอพเพื่อทำการลบการติดตั้ง หรือดูข้อมูลแอพ และสามารถลากไปรวมกับไอคอนแอพอื่นเพื่อเป็นโฟลเดอร์เดียวกันได้ด้วย หรือถ้าไม่ชอบแอพที่ติดมากับตัวเครื่องก็สามารถลบออกได้เช่นกัน

 

เมื่อลากแถบด้านบนลงมาจะเป็นในส่วนของการแสดงรายการแจ้งเตือน และแผงควบคุมการตั้งค่าต่าง ๆ ถ้าแตะที่ปุ่มโฮมค้างไว้จะเป็นการเรียกดูในส่วนของ App Switcher ซึ่งจะแสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานล่าสุดทั้งหมด สามารถเลื่อนดูหรือปิดการใช้งานได้

 

IQ X PRO 2 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรองรับเครือข่าย 4G LTE ในไทยด้วย สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ซิมใดเชื่อมต่อ 4G โดยอีกซิมจะสลับไปเป็น 2G อัตโนมัติ

 

ปุ่มต่าง ๆ ของตัวเครื่องสามารถกำหนดการทำงานได้ด้วย เช่น ปุ่มปิด/เปิดเครื่อง กำหนดให้เป็นปุ่มวางสาย, ปุ่มโฮม กำหนดให้สามารถเรียกใช้งานแอพกล้องได้ด้วย เมื่อกดค้างไว้ แทนการเรียกดู App Switcher เป็นต้น นอกจากนี้ไฟปุ่มกดก็สามารถตั้งค่าให้เปิดตลอดการใช้งานหรือเปิดเฉพาะเมื่อทำการแตะก็ได้

 

ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ และแบตเตอรี่ 2,500 mAh ทำให้ใช้งานได้ไม่นาน แต่ก็มีโหมดประหยัดพลังงานเข้ามาช่วย ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานระบบจะปิดการทำงานแอพเบื้องหลังทั้งหมดเพื่อลดการใช้พลังงาน อาจทำให้ไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากแอพแชทนะครับ แต่โหมดนี้ก็จะช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้น

 

i-mobile ได้เพิ่ม PlayHub เข้ามาบนมือถือแล้ว ซึ่งเป็นช่องทางในการดาวน์โหลดคอนเทนต์ต่าง ๆ ทั้งแอพ และเกมส์ ได้ฟรี ซึ่งบางตัวจะขายอยู่บน Play Store แต่โหลดได้ฟรีบน PlayHub

เจ้าตัว PlayHub จะตั้งค่าเปิดการแจ้งเตือนการอัปเดทเวอร์ชั่นใหม่ของแอพ รวมถึงโฆษณาแอพต่าง ๆ ถ้าใครไม่อยากรับการแจ้งเตือนก็เข้าไปปิดได้ในเมนูการตั้งค่าของ PlayHub ครับ

 

Digital TV สามารถดูได้บน IQ X PRO 2 ซึ่งต้องใช้สายอากาศที่มีมาให้ในกล่องเพื่อรับสัญญาณทีวี การดูทีวีนี้ไม่ต้องต่ออินเตอร์เน็ตครับ และเป็นการรับสัญญาณระบบดิจิทัลทีวีด้วย

 

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช

  • Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
  • Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
  • Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
  • Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
  • Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
  • รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด

 

ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน

i-mobile IQ X PRO 2 รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 615 MSM8939 ซีพียู 64 บิต Octa-core แบ่งการทำงานเป็น Quad-core 1.5 GHz และ Quad-core 1.0 GHz กับจีพียู Adreno 405 โดยผลการทดสอบ AnTuTu ในโหมด 64 บิต ทำคะแนนรวมได้ 30,226 คะแนน และ Quadrant Standard ได้ 17,584 คะแนน

 

ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย BaseMark OS ได้ 261 คะแนน และผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 62.7 เฟรมต่อวินาที จากการทดสอบเล่นเกมอาจมีอาการกระตุกบ้างเมื่อเจอกราฟิกหนัก ๆ

 

กล้องถ่ายรูป

กล้องหลังของ IQ X PRO 2 มีความละเอียด 30 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นการขยายภาพด้วยซอฟท์แวร์ โดยเซ็นเซอร์จริงมีความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซลจาก SONY IMX220 ขนาด 1/2.3 นิ้ว ค่ารูรับแสง f/1.8 มีระบบออโต้โฟกัส และเทคโนโลยี BSI

ความเร็วในการโฟกัสและการจับภาพหลังจากกดชัตเตอร์ถือว่าทำได้เร็ว แต่ถ้าเป็นภาพถ่ายในที่มืดจะโฟกัสช้าหน่อย ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OmniVision OV8858 รูรับแสง f/2.0 มีระบบออโต้โฟกัส และเทคโนโลยี BSI

ตัวอย่างภาพถ่าย

 

สรุปจุดเด่น

  • หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความคมชัด Full HD 1080p
  • ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop
  • ซีพียู 64 บิต Octa-core 1.5 GHz
  • แรม 3GB
  • กล้องหลังเซ็นเซอร์จริง 20.7 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม และใช้งาน 4G LTE ในไทยได้
  • เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 64GB
  • ดูดิจิทัลทีวีได้โดยไม่ต้องต่ออินเตอร์เน็ต

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • ขนาดแบตเตอรี่ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่และฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานมากมาย
  • ไม่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตแบบรวดเร็ว

ขอบคุณ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน)

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

ไอ-โมบายจัดหนัก Xiaomi Supper Surprise มอบโปรส่วนลด, พรีเมี่ยมเซ็ทกว่า 7,000 บาท ที่ Open Shop และ ตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ

กระแสดีเกินคาด ไอ-โมบายปล่อยเสี่ยวมี่หมดสต็อค และเร็วนี้ ๆ อาจจะมีรุ่นใหม่เข้ามาไม่ต่ำกว่า 2-3 รุ่น

พรีวิว i-mobile Y1 สมาร์ทโฟนจอใหญ่ ราคาประหยัด

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Read More