ภายในงาน Apple Event หลังการเปิดตัว iPhone 16 Series ทาง Apple ได้ประกาศวันปล่อยอัปเดท iOS 18 และ iPadOS 18 ตัวเต็มให้ผู้ใช้งานทั่วไป โดยจะได้พร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 17 กันยายนนี้
ฟีเจอร์ใหม่ๆ บน iOS 18 มีดังนี้
การปรับแต่งและความสามารถที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น
ผู้ใช้มีวิธีใหม่ๆ ในการปรับแต่งหน้าจอโฮม หน้าจอล็อค และศูนย์ควบคุม โดยที่วันนี้ผู้ใช้สามารถจัดวางแอปและวิดเจ็ตไว้ตรงไหนก็ได้ที่ว่างบนหน้าจอโฮม ซึ่งรวมถึงการวางไว้เหนือ Dock เพื่อให้เรียกใช้ได้ง่าย หรือวางเป็นกรอบรอบๆ ภาพพื้นหลัง นอกจากนี้ไอคอนแอปและวิดเจ็ตยังมาในลุคใหม่ที่ปรับให้มืดหรือใส่โทนสีต่างๆ ได้ และผู้ใช้ยังสามารถทำให้ไอคอนและวิดเจ็ตดูใหญ่ขึ้นได้ด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ถูกใจผู้ใช้แต่ละคน
ศูนย์ควบคุมได้รับการออกแบบใหม่เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงสิ่งต่างๆ ที่ใช้เป็นประจำทุกวันได้ง่ายขึ้น ทั้งยังปรับแต่งได้มากขึ้นและยืดหยุ่นยิ่งกว่าเดิม โดยดีไซน์ใหม่นี้ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงกลุ่มส่วนควบคุมที่ใช้บ่อยๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การเล่นสื่อ ส่วนควบคุมของแอปบ้าน และการเชื่อมต่อ ทั้งยังสามารถปัดสลับไปมาระหว่างแต่ละส่วนได้ง่ายด้วย และวันนี้ยังสามารถเพิ่มส่วนควบคุมจากแอปของบริษัทอื่นที่รองรับเข้ามาในศูนย์ควบคุมเพื่อเปิดล็อครถหรือบันทึกคอนเทนต์สำหรับโซเชียลมีเดียได้อย่างรวดเร็วจากในที่เดียว พร้อมด้วยแกลเลอรี่ส่วนควบคุมใหม่ที่จะแสดงตัวเลือกทั้งหมดที่มี และผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งการจัดวางส่วนควบคุมได้ด้วย อย่างการปรับขนาดให้ลงตัว หรือสร้างกลุ่มส่วนควบคุมขึ้นมาใหม่เลย
แอปรูปภาพมีมุมมองที่รวมเป็นหนึ่งเดียว พร้อมด้วยคอลเลกชั่นใหม่ๆ และยังปรับแต่งได้ด้วย
แอปรูปภาพมีการปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาและย้อนดูช่วงเวลาพิเศษได้ง่าย ในมุมมองเดียวที่เรียบง่ายขึ้นซึ่งจะแสดงเป็นตารางในแบบที่คุ้นเคย พร้อมด้วยคอลเลกชั่นใหม่ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้เลือกดูตามธีมได้โดยไม่จำเป็นต้องจัดระเบียบคอนเทนต์แยกเป็นอัลบั้ม และยังสามารถปักหมุดคอลเลกชั่นเพื่อให้เข้าถึงรายการโปรดได้ง่ายด้วย ส่วนมุมมองคารูเซลใหม่ก็จะแสดงไฮไลท์ ทั้งคน สัตว์เลี้ยง สถานที่ และอีกมากมายที่คุณชื่นชอบซึ่งอัปเดตทุกวัน รวมถึงการเล่นคอนเทนต์อัตโนมัติทั่วทั้งแอปที่จะเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับคลังรูปภาพเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับช่วงเวลาดีๆ ขณะเลือกดู และเนื่องจากคลังรูปภาพของผู้ใช้แต่ละคนมีความเฉพาะตัว แอปรูปภาพจึงปรับแต่งได้โดยที่ผู้ใช้สามารถจัดระเบียบคอลเลกชั่น ปักหมุดคอลเลกชั่นที่เปิดดูบ่อยๆ และเพิ่มสิ่งที่ตัวเองใส่ใจมากที่สุดไว้ในมุมมองคารูเซล
วิธีอันทรงพลังในการต่อติดกับทุกคนด้วยแอปข้อความ
iMessage มาพร้อมเอฟเฟ็กต์แบบใหม่หมดที่จะทำให้การสนทนามีสีสันมากขึ้นโดยการเพิ่มน้ำหนักให้กับตัวอักษร คำ วลี หรืออิโมจิในแบบเคลื่อนไหวที่มีชีวีตชีวา และผู้ใช้สามารถสื่ออารมณ์ได้ดียิ่งขึ้นโดยการจัดรูปแบบตัวอักษร เช่น ตัวหนา ขีดเส้นใต้ ตัวเอียง หรือขีดฆ่า ส่วน Tapback วันนี้สามารถใช้กับอิโมจิหรือสติกเกอร์อะไรก็ได้ และผู้ใช้ยังสามารถเขียนข้อความและตั้งเวลาส่งในภายหลังได้ด้วย
แอปเมลที่ดียิ่งขึ้น
ภายในปีนี้ แอปเมลจะมาพร้อมวิธีใหม่ๆ ให้ในการจัดการกับอินบ็อกซ์และติดตามข้อมูลข่าวสาร อย่างการจัดหมวดหมู่ ซึ่งจะจัดระเบียบและคัดแยกอีเมลที่เป็นเรื่องส่วนตัวและสำคัญต่อเวลาไปที่ Primary, อีเมลยืนยันและใบเสร็จไปที่ Transactions, การแจ้งเตือนข่าวสารและโซเชียลไปที่ Updates และอีเมลการตลาดและคูปองไปที่ Promotions ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานบนอุปกรณ์เท่านั้น และแอปเมลยังมีมุมมอง Digest ใหม่ที่จะรวบรวมอีเมลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจากธุรกิจหนึ่งมาเพื่อให้ผู้ใช้มองหาข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว ณ เวลานั้น
อัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Safari
Safari เป็นเบราว์เซอร์ที่เร็วที่สุดในโลก4 และวันนี้มาพร้อมวิธีที่ง่ายขึ้นในการค้นพบข้อมูลบนเว็บด้วย Highlights และประสบการณ์การใช้งาน Reader ที่ออกแบบใหม่ โดย Safari สามารถใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อดึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเว็บเพจนั้นขึ้นมาแสดงได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถอ่านสรุปเนื้อหาเพื่อให้เข้าใจสาระสำคัญของบทความ ดูตำแหน่งที่ตั้งของร้านอาหาร โรงแรม หรือสถานที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว หรือฟังแทร็คของศิลปินจากในบทความที่เขียนเกี่ยวกับเพลงหรืออัลบั้มนั้นได้ทันที ในขณะที่ Reader ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้ผู้ใช้มีอีกหลายวิธีในการเพลิดเพลินกับบทความโดยไม่มีสิ่งรบกวนสายตา พร้อมด้วยสรุปเนื้อหาและสารบัญสำหรับบทความยาวๆ
ขอแนะนำแอปรหัสผ่าน
แอปรหัสผ่านใหม่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Keychain ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อกว่า 25 ปีที่แล้ว โดยแอปนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงรหัสผ่าน, พาสคีย์, รหัสผ่าน Wi-Fi และรหัสยืนยันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ยิ่งกว่านั้นแอปนี้ยังเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับจุดอ่อนที่พบได้โดยทั่วไป เช่น รหัสผ่านที่เดาง่าย หรือใช้ซ้ำๆ กันหลายที่ รวมถึงรหัสผ่านที่ปรากฏในข้อมูลที่ทราบว่ามีการรั่วไหล
คุณสมบัติใหม่ด้านความเป็นส่วนตัวที่ออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้ใช้
iOS 18 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมได้มากขึ้นโดยใช้เครื่องมือสำหรับจัดการว่ามีใครบ้างที่เห็นแอปของตน มีการแชร์รายชื่อผู้ติดต่ออย่างไร และ iPhone เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร
แอปที่ล็อคและซ่อนไว้ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้ใช้ว่าข้อมูลที่ต้องการเก็บเป็นส่วนตัว เช่น การแจ้งเตือนและคอนเทนต์ของแอป จะไม่แสดงขึ้นมาให้ผู้อื่นเห็นโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยวันนี้ผู้ใช้สามารถล็อคแอปได้แล้ว และหากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก ก็สามารถซ่อนแอป ซึ่งจะเป็นการย้ายแอปนั้นไปยังโฟลเดอร์แอปที่ล็อคและซ่อนไว้ และเมื่อมีการล็อคหรือซ่อนแอป เนื้อหาอย่างข้อความหรืออีเมลภายในแอปนั้นก็จะถูกซ่อนไว้ไม่ให้แสดงในผลการค้นหา การแจ้งเตือน และที่อื่นๆ ทั่วทั้งระบบ
Apple Intelligence พลิกโฉมประสบการณ์การใช้งาน iPhone
Apple Intelligence ซึ่งผสานรวมเป็นหนึ่งเข้ากับ iOS 18 ในทุกๆ ส่วน และสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวตั้งแต่แรกเริ่ม พร้อมแล้วที่จะปลดล็อควิธีใหม่ๆ เพื่อยกระดับการเขียนและการสื่อสารของผู้ใช้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วย Writing Tools ใหม่เอี่ยมที่ผสานรวมเข้ากับ iOS 18 ทั้งระบบ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับสำนวนการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความได้เกือบทุกที่ที่เขียน ไม่ว่าจะเป็นแอปเมล, โน้ต, Pages หรือแอปของบริษัทอื่น
พบกับความสามารถใหม่ๆ ด้านภาพที่จะทำให้การสื่อสารและถ่ายทอดความคิดเป็นเรื่องสนุกยิ่งขึ้น นั่นคือ Image Playground ที่ให้ผู้ใช้สร้างภาพเก๋ๆ ได้ในไม่กี่วินาทีโดยเลือกจาก 3 สไตล์ที่มีให้ ได้แก่ Animation, Illustration หรือ Sketch และ Image Playground ยังใช้ง่าย รวมเป็นส่วนหนึ่งในแอปต่างๆ อย่างแอปข้อความ หรือจะใช้งานในแอปที่สร้างมาโดยเฉพาะก็ได้
คุณสมบัติความทรงจำในแอปรูปภาพให้ผู้ใช้สร้างเรื่องราวที่อยากเห็นได้เพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย จากนั้น Apple Intelligence จะเลือกภาพและวิดีโอที่ดีที่สุดตามคำอธิบาย นำมารังสรรค์เป็นสตอรีไลน์แยกออกเป็นบทต่างๆ ตามธีมที่พบในภาพ แล้วจึงนำทั้งหมดมาร้อยเรียงเข้าด้วยกันเป็นภาพยนตร์ที่มีโครงเรื่องเป็นของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือ Clean Up ใหม่ที่สามารถระบุและลบวัตถุรบกวนสายตาออกจากฉากหลังในวิดีโอโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเผลอแก้ไขตัวแบบโดยไม่ตั้งใจ
Siri ก้าวล้ำไปอีกขั้นโดยอาศัยขุมพลังของ Apple Intelligence เพื่อทำให้การพูดคุยเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เข้ากับบริบท และตรงใจผู้ใช้ โดยผู้ใช้สามารถพิมพ์โต้ตอบกับ Siri และสลับไปมาระหว่างข้อความและเสียงพูดเพื่อสื่อสารกับ Siri ด้วยวิธีไหนก็ได้ที่สะดวกสำหรับช่วงเวลานั้น
Apple ยังได้สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านความเป็นส่วนตัวสำหรับ AI ด้วย Private Cloud Compute ที่สามารถรีดพลังและขยายขีดความสามารถในการคำนวณระหว่างการประมวลผลบนอุปกรณ์ กับโมเดลบนเซิร์ฟเวอร์ที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ Apple Silicon ที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะ และเมื่อมีการส่งคำขอไปยัง Private Cloud Compute ก็จะไม่มีการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวหรือเปิดให้ Apple เข้าถึงแต่อย่างใด และจะนำไปใช้เพื่อทำตามคำขอของผู้ใช้เท่านั้น ส่วนผู้เชี่ยวชาญอิสระก็สามารถตรวจสอบยืนยันความเป็นส่วนตัวนี้ได้
นอกจากนี้ การเข้าถึง ChatGPT ยังได้รับการผนวกรวมเข้ากับ Siri และ Writing Tools ทั้งระบบในทุกแพลตฟอร์มของ Apple ผู้ใช้จึงสามารถเข้าถึงความเชี่ยวชาญของ ChatGPT รวมทั้งความสามารถในการเข้าใจรูปภาพและเอกสาร โดยไม่จำเป็นต้องสลับไปมาระหว่างเครื่องมือต่างๆ
iPhone ที่รองรับ iOS 18
- iPhone SE (รุ่นที่ 2 และ 3)
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone 12 mini
- iPhone 12
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 13 mini
- iPhone 13
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro
- iPhone 14 Pro Max
- iPhone 15
- iPhone 15 Plus
- iPhone 15 Pro
- iPhone 15 Pro Max
- iPhone 16
- iPhone 16 Plus
- iPhone 16 Pro
- iPhone 16 Pro Max
iPad ที่รองรับ iPadOS 18
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 2 และใหม่กว่า)
- iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1 และใหม่กว่า)
- iPad Air (รุ่นที่ 3 และใหม่กว่า)
- iPad (รุ่นที่ 6 และใหม่กว่า)
- iPad mini (รุ่นที่ 5 และใหม่กว่า)
ที่มา : Apple