ต้นทุนการผลิตที่สูงเป็นประวัติการณ์ของ iPhone 15 ซึ่งสูงกว่า iPhone 14 ในปีที่แล้วอย่างชัดเจน อาจส่งผลให้ iPhone 16 มีราคาสูงขึ้นในปี 2024 ตามรายงานของ Nikkei Asia
iPhone 15 Pro Max มีราคาต้นทุนอยู่ที่ 558 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับรุ่น iPhone 14 Pro Max ที่เปิดตัวในปี 2022 เรียกได้ว่าสูงเป็นประวัติการณ์สำหรับต้นทุนรวมของส่วนประกอบของ iPhone ตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2021 ที่มีต้นทุนรวมของชิ้นส่วนสำหรับ iPhone รุ่น “Pro Max” ของ Apple อยู่ระหว่าง 400-450 ดอลลาร์สหรัฐ ต้นทุนส่วนประกอบเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ในปี 2022 ก่อนที่จะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปัจจุบันที่ 558 ดอลลาร์สหรัฐ
ราคาของกล้องเทเลโฟโต้ของ iPhone 15 Pro Max ตอนนี้อยู่ที่ 30 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 380% จากรุ่นก่อนหน้า ในขณะที่กรอบไทเทเนียมมีราคา 50 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับกรอบสแตนเลสของรุ่นก่อนๆ รวมไปถึงชิป A17 Pro ที่มีราคา 130 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับชิป A16 Bionic
รุ่นอื่นๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 15 ก็เพิ่มขึ้นของราคาต้นทุนเช่นกัน ส่วนประกอบมาตรฐานของ iPhone 15 มีราคา 423 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับ iPhone 14 และ iPhone 15 Plus มีราคาอยู่ที่ 442 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 10% ในขณะที่ iPhone 15 Pro เพิ่มขึ้น 8% เป็น 523 ดอลลาร์สหรัฐ
แม้จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ Apple ก็ไม่ได้ขึ้นราคาขายปลีกของ iPhone ในปีนี้ และเลือกที่จะรับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียวคือการยกเลิกรุ่น 128GB สำหรับรุ่น Pro Max ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ที่ปกติจะซื้อรุ่น 128GB ก็จะจ่ายเงินเพิ่ม 100 ดอลลาร์เพื่อได้ความจุเริ่มต้นที่เยอะขึ้น
Nikkei และบริษัทวิจัย Fomalhaut Techno Solutions ในโตเกียว เชื่อว่าหาก Apple ยังคงรับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ผลประกอบการของบริษัทก็จะได้รับผลกระทบในไม่ช้า เป็นผลให้ในที่สุด Apple อาจเลือกที่จะขึ้นราคาขายปลีก iPhone เมื่อเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 16 ในปีหน้า
ที่มา: Nikkei Asia