หลังจากเปิดตัว Nokia 6 รุ่นแรกครั้งแรกในจีนไปเมื่อเดือนมกราคมปี 2017 ภายใต้การดำเนินงานโดย HMD Global ล่าสุดประกาศเปิดตัว Nokia 6 รุ่นใหม่สำหรับปี 2018 อย่างเป็นทางการแล้ว มาพร้อมสเปคและดีไซน์ที่ไฉไลกว่าเดิม
ด้านการดีไซน์ Nokia 6 Gen 2nd ใช้อะลูมิเนียมเกรด 6000 ขึ้นรูปตัวเครื่องแบบยูนิบอดี้ไร้รอยต่อ ตัดขอบแล้วเพิ่มสีสันให้มีความโดดเด่น และการจัดวางโมดูลกล้องหลังแบบใหม่คล้ายกับรุ่น Nokia 5 แล้วนำเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาไว้ด้านหลังตัวเครื่องถัดจากเลนส์กล้อง โดยมีโลโก้ Nokia สลักข้อความในแนวตั้ง
Nokia 6 Gen 2nd มีขนาดตัวเครื่อง 148.8 x 75.8 x 8.15 มิลลิเมตร มีความเพรียวบางกว่ารุ่นแรก มีให้เลือก 2 สี ได้ สีดำ และสีเงิน มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว IPS LCD อัตราส่วนหน้าจอแบบ 16:9 ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ครอบด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 3 ขอบโค้งมน 2.5D
ด้านประสิทธิภาพการทำงาน Nokia 6 Gen 2nd รันระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat (ยืนยันได้อัปเดท Android Oreo เร็วๆ นี้) ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 630 Octa-core ซีพียูความเร็วสูงสุด 2.2GHz มีแรมขนาด 4GB LPDDR4 และแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 30 นาทีสามารถชาร์จได้ 50% โดยมีให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่ 32GB และ 64GB เพิ่มได้ด้วย microSD card ด้วยถาดซิมแบบไฮบริด
กล้องถ่ายรูปของ Nokia 6 Gen 2nd ด้านหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล แฟลช Dual-LED และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ให้มุมกว้าง 84 องศา พร้อมฟีเจอร์ Bothie ถ่ายจากกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกันเหมือนกับในรุ่น Nokia 8 และ Nokia 7 รวมไปถึงฟีเจอร์การบันทึกเสียงรอบทิศทาง OZO ด้วยไมโครโฟน 2 ตัว มีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C ยังคงมีช่องหูฟัง 3.5mm รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0, 4G LTE และ Wi-Fi
สำหรับราคาของ Nokia 6 (2018) รุ่นความจุ 32GB อยู่ที่ 1,499 หยวน (ประมาณ 7,400 บาท) และรุ่นความจุ 64GB ราคา 1,699 หยวน (ประมาณ 8,400 บาท) เริ่มวางจำหน่ายในจีนวันที่ 10 มกราคมนี้เป็นต้นไป