โนเกีย (Nokia) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) ออกแถลงการณ์หลังถูกกูเกิล (Google) กล่าวหาว่าร่วมมือกันตั้งบริษัทตัวแทนขึ้นมาทำลายอนาคตแอนดรอยด์ โนเกียโต้ว่าข้อกล่าวหานี้ “ไร้สาระ” และไม่เป็นความจริง ขณะที่ไมโครซอฟท์ตอกหน้ากูเกิลว่าเป็นเล่ห์กลที่เข้าข่าย “สิ้นคิด” ของกูเกิล
แฟ้มภาพงานแถลงความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์และโนเกีย วันนี้ทั้งสองออกโรงโต้กูเกิลที่กล่าวหาว่าทั้งคู่ร่วมมือกันเพื่อให้สามารถฟ้องร้องผู้ผลิตอุปกรณ์แอนดรอยด์ในอนาคต
ยักษ์ใหญ่บริการเสิร์ชเอนจินผู้พัฒนาแอนดรอยด์อย่างกูเกิล ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หรือ European Commission เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา (ตรงกับวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายนในประเทศไทย) ใจความสำคัญคือ การกล่าวหาว่าไมโครซอฟท์ และโนเกีย กำลังร่วมมือกันใช้สิทธิบัตรเทคโนโลยีที่แต่ละฝ่ายถืออยู่มาเป็นเครื่องมือต่อสู้กับคู่แข่งรายอื่นในตลาดสมาร์ทโฟนอย่างไม่เป็นธรรม กูเกิลจึงต้องการขอความเป็นธรรมจากอียูเพื่อป้องกันไม่ให้พันธมิตรผู้ผลิตสินค้าแอนดรอยด์ต้องเผชิญกับภัยโจมตีด้านกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้ผู้ผลิตแอนดรอยด์มีต้นทุนเพิ่มขึ้น และผู้บริโภคก็จะเป็นผู้รับเคราะห์ต้องซื้อโทรศัพท์มือถือราคาแพงขึ้นในที่สุด
คำร้องของกูเกิลระบุว่า ไมโครซอฟท์และโนเกียได้ตั้งบริษัทตัวแทนนาม “โมเซด เทคโนโลยีส์ (Mosaid Technologies)” โดยโอนสิทธิบัตรเทคโนโลยีกว่า 1,200 รายการไปยังบริษัทนี้ การโอนสิทธิบัตรที่เกิดขึ้นมีโอกาสสูงมากในการเกิดกรณีฟ้องร้องกูเกิลและผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ เพราะโมเซดฯ อาจเป็นบริษัทผู้ถือสิทธิบัตรที่จะดำเนินการโจมตีด้านกฎหมายต่อผู้ละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีขั้นเด็ดขาด และรับรายได้จากส่วนแบ่งการฟ้องร้องที่เกิดขึ้น
ไมโครซอฟท์โต้ข้อหา “ร่วมกับโนเกียเพิ่มต้นทุนสินค้าพกพาสำหรับผู้บริโภค” ว่า กูเกิลร้องเรียนปัญหาสิทธิบัตรทั้งที่ตัวเองไม่มีการตอบสนองต่อหน่วยงานผู้กำกับดูแลรวมถึงศาลและเจ้าหน้าที่รัฐหลายประเทศ ที่กังวลเรื่องการนำสิทธิบัตรมาตรฐานไปใช้ในทางที่ผิดของกูเกิลมากขึ้นเรื่อยๆ แถมข้อร้องเรียนนี้ยังพูดถึงการผูกขาดตลาดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ซึ่งกูเกิลเองเป็นผู้ควบคุมตลาดโมบายล์เสิร์ชและธุรกิจโฆษณาบนอุปกรณ์พกพามากกว่า 95% ทั้งหมดนี้ทำให้ข้อเรียกร้องของกูเกิลเป็นเหมือน “desperate tactic” หรือเล่ห์กลที่สิ้นคิด
ด้านโนเกียระบุว่า ทั้งโนเกียและไมโครซอฟท์นั้นเก็บรักษาสิทธิบัตรเทคโนโลยีแยกจากกัน และมีนโยบายให้อิสระในการกำหนดยุทธศาสตร์สิทธิบัตรของแต่ละบริษัทอย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้โนเกียระบุว่า บริษัทฯ ได้ยกเลิกการถือครองสิทธิบัตรทั่วไปในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ดั้งเดิมของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
โฆษกโนเกียยังให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ว่า แม้บริษัทจะยังไม่ได้รับเอกสารการร้องเรียนนี้ แต่ก็สามารถยืนยันได้ว่าข้อสังเกตของกูเกิลที่ว่าโนเกียและไมโครซอฟท์กำลังรวมสิทธิบัตรเทคโนโลยีเข้าด้วยกันนั้นไม่เป็นความจริงเลย
ที่มา : manager