ในวันนี้ OnePlus ได้เปิดตัว OnePlus 10 Pro ออกมาอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีนครับ ซึ่งสเปคต่างๆ ถือว่าจัดเต็มสมการรอยคอย รวมถึงดีไซน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่ทั้งหมดของ OnePlus 10 Pro จะมีอะไรเปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมอย่าง OnePlus 9 Pro บ้าง วันนี้เราจะมาสรุปกันไปทีละหัวข้อครับ
ดีไซน์
เริ่มด้วยดันที่ดีไซน์ก่อนเลยครับ OnePlus 10 Pro มีการเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดชัดเจนมากๆ ซึ่งตัวกรอบเลนส์จะอยู่ติดกับขอบเครื่องฝั่งซ้ายและยื่นเข้ามาที่ฝาหลังอย่างสวยงาม มี 3 เลนส์กล้องขนาดใหญ่ พร้อมด้วยแบรนด์กล้องอย่าง Hasselblad
ขณะที่ OnePlus 9 Pro จะมีโมดูลกล้องทั่วไป โดยมีเลนส์กล้อง 2 เลนส์ขนาดใหญ่ และมีเลนส์รองอีก 2 เลนส์อยู่ด้านล่างครับ แต่ก็ยังมีแบรนด์ Hasselblad ปรากฏเหมือนกัน
ส่วนขนาดตัวเครื่อง OnePlus 10 Pro จะมีขนาดที่บางลงครับ แต่มีความยาวที่มากกว่าเดิม โดย OnePlus 10 Pro มีขนาดที่ 163 x 73.9 x 8.55 มม. ส่วน OnePlus 9 Pro อยู่ที่ 163.2 x 73.6 x 8.7 มม. ทั้งนี้ 2 รุ่นยังคงมาตรฐานกันน้ำ-ฝุ่น IP68 เหมือนกัน
หน้าจอแสดงผลเหมือนเดิมแต่ปรับปรุงบางจุด
OnePlus 10 Pro และ OnePlus 9 Pro ให้หน้าจอแสดงผลที่เหือบจะเหมือนกัน ตั้งแต่พาเนล Fluid AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รวมถึง Refresh Rate ตั้งแต่ 1-120Hz เท่ากัน
อย่างไรก็ตาม OnePlus 10 Pro จะได้เรื่องการประหยัดพลังงานจากหน้าจอ LTPO 2.0 รวมถึงฟีเจอร์ Dual Colour Calibration ที่ช่วยให้สีสันมีความคมชัดและแสดงผลได้ตรงแบบธรรมชาติมากขึ้น
สเปคภายใน
ในเรื่องของสเปคมีความแตกต่างกันแน่นอน โดย OnePlus 10 Pro ได้อัปเกรดขึ้นมาใช้ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 1 มี RAM 8/12GB และมีความจุ 128/256GB ขณะที่ OnePlus 9 Pro จะมีความจุเหมือนกันแต่ต่างที่ CPU จะใช้ Snapdragon 888 ที่สำคัญการรองรับ 5G ก็ยังมีเหมือนเดิมเช่นกัน
ทั้งนี้ ในเรื่องของแบตเตอรี่ OnePlus 10 Pro ให้มาใหญ่กว่าเดิมอยู่ที่ 5000mAh ส่วน OnePlus 9 Pro อยู่ที่ 4500mAh แถม OnePlus 10 Pro ยังชาร์จได้เร็วกว่าที่ 80W SUPERVOOC พร้อมชาร์จไร้สาย 50W AirVOOC (เป็นชื่อการค้าทางฝั่งจีน) แต่ OnePlus 9 Pro ชาร์จเร็วที่ 65W
กล้อง
เรื่องกล้องหลัง แม้ว่า OnePlus 10 Pro จะมีจำนวนเลนส์ที่น้อยกว่าแต่ฟีเจอร์ก็จัดเต็มมากๆ โดยให้มาที่ความละเอียด 48 (เลนส์หลัก) + 50 (Ultra-Wide มุมกว้าง 150 องศา) + 8 (Telephoto) ล้านพิกเซล โดยในรุ่นใหม่สามารถถ่ายภาพที่สี 12-bit RAW ได้ รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นถ่ายวิดีโอ Movie Mode ที่ปรับค่า ISO, ความเร็วชัตเตอร์ และสีตามสไตล์ของ Hasselblad ได้
ขณะที่ OnePlus 9 Pro มี 4 เลนส์ความละเอียด 48 (เลนส์หลัก) + 50 (Ultra-Wide) + 8 (Telephoto) + 2 (Monochrome) ล้านพิกเซล
นอกจากนี้ ก็ต้องมาดูราคาอย่างเป็นทางการของฝั่ง Global กันครับว่าจะคุ้มค่าและแตกต่างจากรุ่นเดิมขนาดไหน แต่ถ้าที่จีนจะเริ่มต้นอยู่ที่ 4,699 หยวน หรือประมาณ 24,600 บาทครับ
ที่มา : pocket-lint