OPPO F7 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Super Full Screen 2.0 ที่ให้มุมมองภาพที่กว้างกว่าเดิม และให้ความคมชัดระดับ Full HD+ ดูหนังได้เต็มตา และเล่นเกมได้สนุกมากขึ้น
OPPO F7 เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอกย้ำว่า OPPO เดินหน้าพัฒนาและนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานรุ่นใหม่ ทั้งการเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญทางด้านการถ่ายภาพ Selfie ด้วยเทคโนโลยี AI และหน้าจอแสดงผลเวอร์ชั่นใหม่ Super Full Screen 2.0 มาดูกันว่าหน้าจอที่กว้างขึ้นนี้จะช่วยให้การใช้งานดีขึ้นอย่างไรบ้าง
ดีไซน์ตัวเครื่องมีการผสมผสานระหว่างวัสดุระดับพรีเมียมและแฟชั่นอย่างลงตัว โดยด้านหลังของตัวเครื่องสีเงิน (Moonlight Silver) ในบทความนี้มีความสวยงามด้วยการสะท้อนแสงและเปลี่ยนโทนสีตามสภาพแสงรอบๆ จึงทำให้รุ่นนี้มีความโดดเด่น ดูหรูหรา
หน้าจอของ F7 ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล มีสัดส่วน 19:9 คิดเป็นสัดส่วนของพื้นที่หน้าจอแสดงมากถึง 88% ของพื้นที่ด้านหน้า ซึ่งมีความกว้างมากกว่าเดิม เมื่อเทียบกับ F5 ของปีที่แล้ว Full Screen 1.0 ที่มีสัดส่วน 18:9 และกว้างขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับสัดส่วน 16:9
ข้อดีของหน้าจอที่มีสัดส่วนกว้าง จะช่วยให้การดูหนังหรือวิดีโอต่างๆ สามารถแสดงผลให้เห็นได้แบบเต็มตามากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป และปัจจุบันคอนเทนท์วิดีโอส่วนใหญ่ เช่น แอพพลิเคชั่น YouTube ก็ได้ออกอัพเดทให้วิดีโอแสดงผลได้แบบเต็มจอ ไม่มีขอบดำอีกต่อไปแล้ว
สำหรับการเล่นเกมแล้ว หน้าจอที่กว้างถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะไม่เพียงแต่เห็นภาพแบบเต็มตาเท่านั้น มุมมองของเกมก็แสดงผลได้กว้างกว่าด้วย มองเห็นสิ่งตอบตัวได้มากขึ้น ช่วยให้การเล่นได้เปรียบมากกว่าหน้าจอทั่วไป
ภาพเปรียบเทียบการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนทั่วไปที่ไม่ใช่หน้าจอ Super Full Screen 2.0 จะเห็นมุมมองเกมที่แคบกว่า ในขณะที่หน้าจอ Super Full Screen 2.0 ทำให้การเล่นเกมทำได้สนุกมากขึ้นเพราะหน้าจอกว้างมากขึ้นเป็น 19:9 ทำให้เห็นภาพในเกมได้กว้าง การเห็นพื้นที่ที่กว้างขึ้นจะช่วยให้เห็นศัตรูที่อยู่รอบๆ มากขึ้น ทำให้สามารถเตรียมความพร้อมในการต่อสู้ได้ดีกว่า
ระหว่างเล่นเกมไม่ต้องกังวลว่าจะมีสายโทรเข้าแล้วจะทำให้การเล่นเกมสะดุด เพราะมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Game Mode ที่จะมีการแจ้งเตือนสายโทรเข้าเป็นเป็นหน้าต่างเล็กๆ ไม่รบกวนช่วงเวลาสำคัญในการเล่นเกม โดยเฉพาะช่วงเวลาสำคัญระหว่างการต่อสู้ในเกม
การดูคอนเทนท์ในหน้าเว็บไซต์บนหน้าจอที่มีสัดส่วน 19:9 ยังช่วยให้เห็นคอนเทนท์ได้มากกว่า ซึ่งจะตอบโจทย์มากๆ สำหรับผู้ที่ชอบอ่านบทความบนสมาร์ทโฟน ไม่ต้องแตะเลื่อนหน้าจอบ่อยๆ
App Notification Bar ฟังก์ชั่นใหม่ที่ช่วยให้การใช้งานบนหน้าจอ Super Full Screen มีความสะดวก และง่ายมากขึ้น โดยจะมีการแสดงไอคอนแอพ รายการแจ้งเตือนที่แถบบาร์ สามารถอ่านและตอบกลับข้อความได้โดยไม่ต้องสลับหน้าจอไปมา เพราะระบบจะเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาแบบ Picture-in-Picture ลอยอยู่เหนือหน้าจอที่กำลังใช้งาน ไม่ขัดจังหวะการดูคลิปวิดีโอและเล่นเกม ซึ่งขณะนี้รองรับแอพยอดนิยมหลายแอพ เช่น WhatsApp, Messenger, LINE และ WeChat
เมื่อมีหน้าจอที่กว้างขึ้น ก็สามารถทำอะไรได้มากขึ้นด้วยฟีเจอร์การแบ่งหน้าจอ (Split Screen) สำหรับแบ่ง 2 หน้าจอ ใช้งานแอพพลิเคชั่นได้พร้อมกัน 2 แอพ เช่น เล่นเกมพร้อมกับแชทคุยกับเพื่อนๆ หรือดูวิดีโอและคุยแชทกับเพื่อนก็ทำได้ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงฟีเจอร์ด้านจอแสดงผล Super Full Screen 2.0 เท่านั้น ก็จัดมาเต็มและอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่ล้วนแล้วออกมาตอบโจทย์การใช้งานสำหรับทุกคนด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ จึงทำให้ OPPO F7 ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ยอดจองถล่มทลายสูงกว่ารุ่นที่แล้วอย่าง OPPO F5 ถึง 3 เท่า
ภาพบรรยากาศงาน First Sale Day OPPO F7 ที่ทุกคนตั้งตารอคอย หลายคนมายืนต่อแถวอย่างใจจดใจจ่อ ตั้งแต่ห้างเปิด เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้แล้ว F7 ยังมาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปที่มีเทคโนโลยี AI Beauty 2.0 อีกขั้นของการถ่ายรูปเซลฟี่แบบใหม่ ที่อัพเกรดมาจาก AI Beauty เวอร์ชั่นแรก สามารถเรียนรู้และปรับแต่งใบหน้าโดยแบ่งใบหน้าออกเป็น 25 โซน และ 296 จุด จึงทำให้การเซลฟี่ออกมาสวยเป็นธรรมชาติตามเอกลักษณ์ของเพศหญิงหรือเพศชายก็ไม่ลบหนวดเคราออก เป็นต้น
และด้วยกล้องหน้าที่มีความละเอียดสูงสุด 25 ล้านพิกเซล กับ Sensor HDR พร้อมระบบ AI ยังช่วยให้การเซลฟี่ในสภาพย้อนแสงหรือในสภาพแสงที่แตกต่างกันมากๆ ให้มีความสมดุลย์ของแสง สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบทั้งภาพ
OPPO F7 รันระบบปฏิบัติการ Color OS 5.0 บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo เวอร์ชั่นล่าสุดตั้งแต่แกะออกจากกล่อง รองรับการใช้งาน 4G ทั้ง 2 ซิม (เป็นถาดซิมแบบ 3 Slot) โดยรุ่นแรม 4GB ความจุ 64GB วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท รับประกันตัวเครื่อง 24 เดือน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ออปโป้ แบรนด์ ช็อป และ ตัวแทนจำหน่ายทุกสาขาทั่วประเทศ หรือเว็บไซด์หลัก www.oppo.com