แกะกล่องพรีวิว OPPO R17 Pro มีกล้องหลัง TOF และ Super VOOC ชาร์จ 10 นาทีได้ 40%

OPPO R17 Pro เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยแล้ว สุดยอดสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง 3 ตัว TOF และสีสันตัวเครื่องสวยงาม มาดูเครื่องจริงกับแกะกล่องพรีวิวรุ่นนี้กันเลย

 

OPPO R17 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่มาสานต่อความสำเร็จจากรุ่น R15 Series ที่นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยมีมาก่อนบนสมาร์ทโฟนของ OPPO โดยตัวเครื่องจะมาในกล่องสีน้ำเงินและมีชื่อรุ่นระบุอยู่บนฝากล่อง

 

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

  • ตัวเครื่อง OPPO R17 Pro และแบตเตอรี่ในตัว
  • อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ
  • สายเคเบิลแบบ USB Type-C
  • หูฟัง USB Type-C ไม่ต้องใช้ตัวแปลงต่อเพิ่มให้ยุ่งยาก
  • เคส
  • คู่มือการใช้งาน
  • เข็มจิ้มถาดใส่ซิม

 

สำหรับอะแดปเตอร์ที่ให้มาในกล่องจะเป็นแบบ Super VOOC Flash Charge จ่ายไฟได้สูงสุด 10V/5A หรือกำลังไฟสูงสุดถึง 50W ซึ่งเป็นเจ้าแรกของโลกเลยทีเดียวที่สามารถชาร์จไฟให้กับสมาร์ทโฟนได้รวดเร็วขนาดนี้

 

สายเคเบิลที่ให้มาในกล่องก็เป็นสายที่รองรับ Super VOOC Flash Charge ด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากหัวของสายจะเป็นสีส้ม ซึ่งถ้าเป็นระบบชาร์จ VOOC Flash Charge ที่มีในสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ของ OPPO จะมีหัวเป็นสีเขียว

 

ตัวเครื่องที่นำมาเข้ามาวางจำหน่ายในไทยจะมีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สี Radiant Mist เป็นการไล่เฉดสีที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า โดยเฉดสีด้านหลังจะไล่ระดับโค้งเว้าเป็นรูปตัว S สวยงาม ในขณะที่สี Emerald Green จะเป็นโทนสีเขียวเข้มคล้ายหยกที่ให้มุมมองความเข้มของสีสันแตกต่างกันออกไปตามมุมที่มอง

 

สี Radiant Mist ยังมีการไล่เฉดสีมาถึงกรอบตัวเครื่องด้วย ทำให้สีสันที่มองจากด้านข้างตัวเครื่องก็ยังเห็นว่ามีการไล่เฉดสีที่สวยงาม

 

ความสวยงามของฝาหลังยังได้รับการออกแบบให้มีความโค้ง 3D Glass ทำให้ดูพรีเมียม และเวลาจับใช้งานกระชับกับอุ้งมือมากขึ้น

 

สำหรับหน้าจอแสดงผลของรุ่นนี้มีขนาด 6.4 นิ้ว ซึ่งครอบด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 6 ตัวใหม่ล่าสุดด้วย ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีกระจกหน้าจอแข็งแรงทนทานมากๆ มีเพียงไม่กี่รุ่นที่มาพร้อมกระจกรุ่นใหม่นี้

 

รอยบากบริเวณขอบบนหน้าจอเป็นแบบหยดน้ำหรือ Water drop ที่กินพื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งขอบจอมีความบางมากๆ จีงทำให้มีสัดส่วนของหน้าจอแสดงผลคิดเป็น 91.5% ของพื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่อง ทำให้ได้มุมมองของภาพที่ใหญ่เต็ม

 

นอกจากนี้ก็มีการใส่เทคโนโลยีการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอมาให้ด้วย ไม่ต้องมีปุ่มสแกนนิ้วด้านหลังตัวเครื่องแล้ว ทำให้ตัวเครื่องดูสะอาดตา สวยงามมากขึ้นด้วย

 

สำหรับถาดใส่ซิมจะอยู่ขอบด้านล่างตัวเครื่องเหมือนกับ OPPO Find X โดยเป็นถาดซิมแบบ Dual Nano SIM ไม่มีช่องใส่ microSD card ซึ่งทาง OPPO น่าจะมองแล้วว่าความจุตัวเครื่องขนาด 128GB เพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว

 

มาถึงไฮไลท์ด้านการถ่ายรูปด้วยหลัง 3 ตัวของรุ่นนี้ ประกอบด้วยเลนส์ต่างๆ ดังนี้

  • TOF 3D Camera : เทคโนโลยี TOF (Time Of Flight) สำหรับกล้องหลัง เป็นการปล่อยแสงลักษณะเรียบออกไปกระทบกับผิววัตถุก็จะสะท้อนกลับมายังตัวเซ็นเซอร์ ทำให้ระบบทราบถึงรูปร่างของวัตถุนั้นๆ จากระยะเวลาที่สะท้อนกลับมานั่นเอง ซึ่งไม่เพียงแต่ทราบรูปร่างแบบ 2 มิติในแบบแกน X และ Y เท่านั้น แต่ยังได้ข้อมูลความลึกของวัตถุนั้นในแบบแกน Z ด้วย ทำให้ระบบสามารถสร้างข้อมูลในรูปแบบ 3 มิติได้
  • เลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซล f/1.5 และ f/2.4 : เป็นครั้งแรกของ OPPO ที่มีการใส่ฟีเจอร์สลับรูรับแสงได้ด้วยฮาร์ดแวร์สำหรับกล้องหลัง โดยเมื่อถ่ายในที่แสงน้อยตัวกล้องจะสลับรูรับแสงให้กว้าง f/1.5 และเมื่อถ่ายกลางแจ้งที่แสงจ้าก็จะสลับรูรับแสงแคบ f/2.4 ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับม่านตาของคนเราที่มีการเปิดกว้างเมื่อยู่ในที่มืดหรือหรี่ตาลงเมื่อเจอแสงจ้านั่นเอง
  • เลนส์ 20 ล้านพิกเซล f/2.6 : เป็นเลนส์สำหรับซูมเก็บระยะความชัดลึกของภาพในการทำเอฟเฟ็กต์โบเก้ให้กับภาพถ่าย

จุดน่าสนใจแรกของกล้องหลังคือ TOF (Time Of Flight) ที่อยู่ในกล้องหลังของ OPPO R17 Pro แตกต่างไปจาก 3D Structure Light ที่มีอยู่ในกล้องหน้า เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่นี้ให้ระยะในการตรวจจับวัตถุได้ไกลมากกว่า และประหยัดพลังงานได้มากกว่า ซึ่งสามารถนำมาตรวจหาที่ตั้งเรดาร์อื่นๆ ได้ รวมไปถึงประยุกต์ใช้สำหรับโมเดล 3 มิติ หรือ AR เป็นต้น แต่ความละเอียดในสร้างข้อมูลยังไม่สามารถเทียบเท่าการสร้างจุดด้วย 3D Structure Light (รายละเอียด TOF เพิ่มเติมที่นี่)

 

สำหรับเลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซลที่สามารถสลับรูรับแสงได้ระหว่าง f/1.5 และ f/2.4 จากการทดสอบเปิดกล้องใต้โต้ะที่มีความมืด พบว่ามีการเปิดหน้าเลนส์กว้างมากขึ้น เมื่อเทียบกับการเปิดกล้องในที่แสงสว่างปกติจะมีการหุบหน้าเลนส์ให้เล็กลง

 

นอกจากนี้แล้ว OPPO R17 Pro ได้เพิ่ม Ultra Night Mode มาให้ด้วย สำหรับถ่ายภาพกลางคืนได้ง่ายมากขึ้น โดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆ โดยใช้หลักการถ่ายภาพหลายๆ เฟรมแล้วนำมารวมเป็นภาพเดียวกัน ทำให้การเก็บแสงและความคมชัดทำได้ดีมากขึ้น

 

กล้องหน้าเซลฟี่ยังถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ OPPO R17 Pro ด้วยความละเอียด 25 ล้านพิกเซล f/2.0 เซ็นเซอร์ SONY IMX576 พร้อม AI Beauty เอาใจคนรักเซลฟี่เหมือนเดิม

 

ทิ้งท้ายแกะกล่องครั้งนี้ด้วยฟีเจอร์ Super VOOC Flash Charge ที่เป็นการชาร์จด่วนที่เร็วที่สุดบนสมาร์ทโฟนในขณะนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าทำได้อย่างไรด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 50W ชาร์จได้ 40% ใช้เวลาเพียง 10 นาที ซึ่งทาง OPPO ได้ให้รายละเอียดว่าเป็นการแบ่งชาร์จแบตที่มีจำนวน 2 ก้อนใน OPPO R17 Pro แล้วชาร์จ 5V/5A พร้อมๆ กันนั่นเอง ซึ่งต้องใช้หัวอะแดปเตอร์และสายชาร์จที่มาในกล่องเท่านั้น ถ้าใช้สายอื่นก็จะชาร์จได้เหมือนกันแต่เป็นความเร็วปกติ

 

เทคโนโลยี Super VOOC Flash Charge ที่ทาง OPPO นำมาใส่ให้กับ OPPO R17 Pro น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน ตอบโจทย์การใช้งานในยุคที่ต้องเร่งรีบได้เป็นอย่างดี ชาร์จแป๊บเดียวแบตก็เต็มแล้ว ไม่ต้องรอนานอีกต่อไป

 

สรุปสเปค OPPO R17 PRo

  • ขนาดตัวเครื่อง 157.6 x 74.6 x 7.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 183 กรัม
  • หน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว OLED ความละเอียดระดับ FullHD+
  • ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบด้วย ColorOS 5.2
  • ชิพเซ็ต Qualcomm Snapdragon 710
  • แรม 8GB
  • ความจุตัวเครื่อง 128GB
  • กล้องหลัง 3 เลนส์ 12 + 20 ล้านพิกเซล + TOF
  • กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, Wi-Fi ac, Bluetooth 5.0, NFC
  • แบตเตอรี่ 3700mAh (1850mAh x 2 ก้อน) ชาร์จไว Super VOOC Flash Charge

สำหรับรีวิวแบบเต็มๆ เจาะลึกความสามารถของกล้องถ่ายรูป TOF รวมไปถึงภาพถ่ายกลางคืนที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ และอื่นๆ รอติดตามในบทความต่อๆ ไปเร็วๆ นี้ครับ

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

น้ำตาล – ฟิล์ม เสิร์ฟโมเมนต์รับวาเลนไทน์ไปกับ OPPO Reno13 Series 5G มาพร้อม AI Livephoto เปลี่ยนทุกภาพถ่ายให้มีชีวิต เก็บครบทุกโมเมนต์หวาน

DXOMARK ปล่อยรีวิวกล้อง OPPO Find X8 Pro มาแรง! ขึ้นที่ 4 ร่วมกับ iPhone 16 Pro Max

ลืออีก! OPPO Find X8 mini จะมาพร้อมหน้าจอ 6.3″ ได้ปุ่ม Alert Button และมีลุ้นเปิดตัวพร้อม Find X8 Ultra เดือนหน้า!?

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Read More