Samsung Galaxy Note 5 แฟบเล็ตรุ่นที่ 5 เพิ่งเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กันไปสด ๆ ร้อน ๆ แน่นอนว่าย่อมส่งผลให้รุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy Note 4 ต้องตกรุ่นไปโดยปริยาย เราลองมาดูกันว่า 2 รุ่นนี้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ตัวเครื่อง และดีไซน์
Galaxy Note 5 ตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งตัวแล้วครอบด้วยกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จากเดิม Galaxy Note 4 จะมีเพียงกรอบตัวเครื่องเท่านั้นที่เป็นโลหะ ส่วนฝาหลังเป็นพลาสติก แกะออกได้ โดยในแง่ของดีไซน์ Galaxy Note 5 จะดูหรูหรากว่า แต่ด้วยกระจกก็จะเกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย เหมือนกับ Galaxy S6 และ S6 edge
Galaxy Note 5 บางลงมาเหลือ 7.6 มม. เมื่อเทียบกับ Galaxy Note 4 ที่มีความบาง 8.5 มม. มาพร้อมปากกา S Pen ที่ใช้การกดคลิกให้ปากกาเด้งออกมาแล้วค่อยดึงออกมาใช้งาน ส่วนปุ่มโฮมก็มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ ใช้ชำระเงินผ่าน PayPal ได้
หน้าจอแสดงผล
ทั้งคู่มีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล Quad HD Super AMOLED ครอบด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 4 แต่ขนาดตัวเครื่องของ Note 5 จะเล็กกว่าทำให้สัดส่วนหน้าจอจึงมีมากกว่าเล็กน้อย ส่วนความหนาแน่นของจุดพิกเซลก็เท่ากันคือ 518 พิกเซลต่อนิ้ว
ประสิทธิภาพการทำงาน
Galaxy Note 5 เลือกใช้ชิปประมวลผลตัวล่าสุดจาก Samsung นั่นก็คือ Exynos 7420 Octa-core สถาปัตยกรรม 64 บิต แบ่งเป็น Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 กับ Quad-core 2.1 GHz Cortex-A57 ใช้กระบวนการผลิตที่ 14 นาโนเมตร กับจีพียู Mali-T760MP8 ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับบน Galaxy S6 และ S6 edge
แน่นอนว่าต้องเร็วและแรงกว่า Galaxy Note 4 ที่ใช้ชิปประมวลผล Exynos 5433 Octa-core (Quad-core 1.3 GHz Cortex-A53 กับ Quad-core 1.9 GHz Cortex-A57)
หน่วยความจำ
ในที่สุด Galaxy Note 5 ก็ไม่ช่องใส่ microSD card อีกต่อไป มี 2 ความจุให้เลือกคือ 32GB และ 64GB ในขณะที่ Galaxy Note 4 รองรับ microSD card ความจุสูงสุด 128GB ส่วนความจำแรมใส่มาให้ Note 5 มากถึง 4GB ถือว่ามากที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนจาก Samsung และเป็นประเภท LPDDR4
กล้องถ่ายรูป
กล้องหลัง Note 5 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีระบบกันภาพสั่นไหว ออโต้โฟกัส และแฟลช LED รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K เช่นเดียวกับบน Note 4 แต่กล้องหน้าขยับขึ้นมาเป็น 5 ล้านพิกเซล จากเดิม 3.7 ล้านพิกเซล และค่ารูรับแสงกว้างขึ้น f/1.9
การเชื่อมต่อ
Galaxy Note 5 รองรับซิมการ์ดขนาด Nano-SIM เชื่อมต่อข้อมูลผ่านเครือข่าย 3G, 4G LTE Cat.9 ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 450Mbps ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดในขณะนี้ และ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, GPS/AGPS และ NFC
Note 5 ถูกตัดอินฟราเรดออกไป ซึ่งก็น่าจะใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรลเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้ แต่ Note 4 มีอินฟราเรด
เซ็นเซอร์
Galaxy Note 5 ไม่มีเซ็นเซอร์วัดรังสี UV แล้ว ส่วนเซ็นเซอร์อื่น ๆ ก็มีเหมือนกันกับ Note 4 ได้แก่ Accelerometer, Gyro, Proximity, Compass, Barometer, Heart rate และ SpO2
แบตเตอรี่
ฝาหลัง Galaxy Note 5 รองรับการชาร์จแบตไร้สาย และแบตเตอรี่ใส่มาให้ 3,000 mAh แกะถอดเองไม่ได้แล้ว และลดลงจากเดิม 220 mAh
ราคา
Galaxy Note 5 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Black Sapphire, Gold Platinum, Silver Titan และ White Pearl ความจุ 32GB ราคาเปิดตัว 25,900 บาท ซึ่งเปิดราคามาเท่ากับตอนเปิดตัว Galaxy Note 4 และความจุ 64GB ราคา 29,900 บาท
ทั้งหมดนี้ก็น่าพอให้เห็นภาพกันว่า Galaxy Note 5 และ Galaxy Note 4 มีสเปคแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ