เมื่อผ่านช่วงเดือนกรกฎาคม จนถึงเดือนกันยายนช่วงเวลาดังกล่าวเราจะเรียกว่าไตรมาสที่ 3 ของปีนั้นๆ แน่นอนว่าในโลกธุรกิจจะมีการสรุปยอดขายและกำไรในแต่ละไตรมาส สำหรับวงการสมาร์ทโฟนผู้ที่ยังครอบอันดับ 1 ถึง 3 ได้แก่ Samsung, Huawei และ Apple ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดที่แตกต่างกันไป เริ่มจาก 19%, 14% และ 12% ตามลำดับ
แต่ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือเหล่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากประเทศจีนก็สามารถสร้างยอดขายในตลาดสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Oppo ทำได้ 9%, Xiaomi ทำได้ 9%, Vivo ทำได้ 8% และ Lenovo ทำได้ 3% สำหรับผู้ผลิตที่มียอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิมมากที่สุดเรียกได้ว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตมาที่สุดก็เห็นจะไม่พ้น HMD Global เจ้าของ Nokia
ถึงแม้ว่า Nokia จะไม่ได้มีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนที่มากมายนักแต่สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือการที่ Nokia มียอดขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ของปี 2017 ถึง 73% เลยทีเดียวซึ่งถือว่าเป็นยอดขายที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคต
แต่เมื่อรวมยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกในไตรมาสที่ 3 ของปี 2018 ซึ่งสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนไปได้ 380 ล้านเครื่องทั่วโลก เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2017 แล้วลดลงถึง 5% นั่นแสดงถึงการถดถอยของตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก
ถึงแม้ว่า Huawei จะครองตลาดเป็นอันดับ 2 ทั่วโลกแต่สำหรับในทวีปเอเชียแล้ว Oppo ถือได้ว่าเป็นค่ายที่มียอดขายสมาร์ทโฟนสูงสุดถึง 16% ตามมาด้วย Huawei ได้ 15% Vivo ได้ 15% และ Xiaomi ได้ 14% ส่วนในโซนประเทศในแถบอเมริกาเหนือนั้น Apple ยังเป็นผู้ครองตลาดอย่างต่อเนื่องถึง 39% รองลงมาก็คือ Samsung ได้ 26%
ส่วน Samsung นั้น มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดอยู่ในประเทศแถบยุโรป มากถึง 31% ตามมาด้วย Huawei ได้ 22% และ Apple ได้ 19% แต่ถ้านำผลกำไรแล้ว Samsung สามารถทำกำไรได้มากเป็นประวัติศาสตร์ถึง 5.7 หมื่นล้านเหรียญ ส่วนทาง Xiaomi ก็ไม่น้อยหน้าสามารถทำยอดขายได้มากในประเทศอินเดีย และเป็นเรื่องปกติที่เราจะเห็นว่า Apple ไม่สามารถทำยอดขายได้มากมายอะไรนักแต่ก็ยังสามารถสร้างกำไรได้สูงจนเป็นที่น่าพอใจเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา
ที่มา gsmarena