ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศจีนไม่มีการเติบโต แถมยังหดตัวลงทำให้ยักษ์ใหญ่ของวงการสมาร์ทโฟนไม่สามารถทำยอดขายและกำไรได้ตามเป้าหมาย ซึ่งวิกฤตนี้เริ่มส่งผลกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung เช่นกัน
ล่าสุดได้มีรายงานจากประเทศเกาหลีใต้ว่าทาง Samsung อาจตัดสินใจจะปิดโรงงานในประเทศจีน 1 แห่งในช่วงปลายปี 2561 เนื่องจากความยากลำบากในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Huawei และ Xiaomi ที่ใช้กลยุทธ์ในการตลาดด้านราคาที่ผลิตสมาร์ทโฟนราคาประหยัดแต่คุณภาพเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม
รอยเตอร์รายงานว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของ Samsung ลดลงจาก 20% เมื่อ 5 ปีก่อนมาเหลือน้อยกว่า 1% ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลจากแรงกดดันทางการตลาดของ Huawei และ Xiaomi โดยโรงงาน Samsung มีอยู่ในจีน 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานเทียนจิน และเมืองซานเหว่ย ซึ่งโรงงานเทียนจินมีกำลังการผลิตสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 36 ล้านเครื่องต่อปี และโรงงานในเมืองซานเหว่ยมีกำลังการผลิตสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 72 ล้านเครื่องต่อปี
แต่ถึงกระนั้น Samsung ยังมีฐานการผลิตขนาดใหญ่ที่รองรับการผลิตได้ในประเทศเวียดนาม ที่มีกำลังการผลิตสูงถึง 240 ล้านเครื่องต่อปี และในประเทศอินเดีย ที่ทาง Samsung เพิ่งจะลงทุนเปิดโรงงานผลิตที่เมือง โนอิดา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดียซึ่งจะสามารถผลิตได้ 120 ล้านเครื่องภายในปี 2564 ที่จะถึง ดังนั้นการสั่งปิดโรงงานในประเทศจีนของทาง Samsung ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบกับสายการผลิตสมาร์ทโฟนอย่างแน่นอน
ที่มา gsmarena