สรุปสเปค ราคา วันวางจำหน่าย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus อย่างเป็นทางการ

เป็นไปตามคาด iPhone 6 รุ่นใหม่มาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น มีทั้งหมด 2 รุ่นคือ iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว ซึ่งไม่ใช่แค่ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ยังมีตัวเครื่องบางลง และชิปประมวลผลตัวใหม่ Apple A8 สถาปัตยกรรม 64-bit พร้อมชิปประมวลผลร่วม M8

การออกแบบ

ตัวเครื่อง iPhone 6 ทั้ง 2 รุ่นเป็นอะลูมิเนียมชุบผิวสแตนเลสสตีล ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่และบางสุด 6.9 มม. สำหรับ iPhone 6 และ 7.1 มม. สำหรับ iPhone 6 Plus พร้อมด้วยกระจกจอภาพที่โค้งลงมาบรรจบกับด้านข้างของตัวเครื่องที่ทำจากอะลูมิเนียมชุบผิวทำให้ไร้ขอบ ไร้ช่องว่าง

จอภาพ

จอภาพของ iPhone 6 เป็นจอภาพ Multi-Touch แบบ LED-backlit ไวด์สกรีน ขนาด 4.7 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี IPS ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซลที่ 326 ppi ความหนาแน่นพิกเซลมากกว่า iPhone 5s คิดเป็น 38% ส่วน iPhone 6 Plus เป็นจอภาพ Multi-Touch แบบ LED-backlit ไวด์สกรีนเช่นกัน หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซลที่ 401 ppi ความหนาแน่นพิกเซลมากกว่า iPhone 5s คิดเป็น 185% และพิกเซลแบบ Dual-domain เพื่อการมองในมุมที่กว้างขึ้น อีกทั้งมีฟีเจอร์ Display Zoom สำหรับซูมดูแอพและคอนเทนต์ต่าง ๆ

นอกจากนี้ iPhone 6 Plus ได้ออกแบบแอพที่มาพร้อมเครื่องอย่าง Mail ปฏิทิน และหุ้นขึ้นมาใหม่เพื่อช่วยให้ทำงานในแนวนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมเช่นเดียวกับบน iPad

หน่วยประมวลผล

ชิปเซ็ต Apple A8 พร้อมด้วยสถาปัตยกรรม 64 บิต โปรเซสเซอร์ร่วม M8 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว ทำให้การประมวลผลเร็วขึ้นกว่าเดิม 25% ส่วนกราฟิกก็เร็วขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับชิปเซ็ต Apple A7 โดยชิป A8 ใช้เทคโนโลยีประมวลผลแบบ 20 นาโนเมตร เป็นชิปที่เล็กและมีประสิทธิภาพโดยภายในมีทรานซิสเตอร์ 2 พันล้านตัว และประหยัดพลังงานมากกว่าชิป A7 ถึง 50%

นอกจากนี้แล้วหน่วยประมวลผลร่วม M8 ซึ่งเป็นตัวประมวลผลการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะมาพร้อมความสามารถใหม่ในการคำนวณการขับขี่จักรยาน การวิ่ง ระยะทาง และความสูงได้ด้วย

ในส่วนของแบตเตอรี่เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนโดยรุ่น iPhone 6 Plus ใช้งานโทรผ่าน 3G ได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง และ iPhone 6 โทรผ่าน 3G ได้นาน 14 ชั่วโมง

กล้องถ่ายรูป

ทั้ง 2 รุ่นมีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่าเดิม ประกอบด้วยชุดเลนส์ 5 ชิ้น ค่ารูรับแสง f/2.2 แต่ปรับปรุงเซนเซอร์ iSight ใหม่ที่เรียกว่า”Focus Pixels” ช่วยโฟกัสได้เร็วขึ้นกว่าเดิม และแฟลช True Tone นอกจากนี้ก็สามารถถ่ายภาพในโหมดพาโนรามาขนาด 43 ล้านพิกเซล โดยระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลมีเฉพาะรุ่น iPhone 6 Plus

สามารถบันทึกวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นที่ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาทีหรือ 240 เฟรมต่อวินาทีได้ มีวิดีโอออโต้โฟกัสต่อเนื่อง พร้อมระบบระบบป้องกันภาพวิดีโอสั่นไหวระดับภาพยนตร์ และระบบตรวจจับใบหน้าที่ดีกว่าเดิม ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซลเท่าเดิม

เซ็นเซอร์

เซ็นเซอร์ยืนยันตัวบุคคลด้วยลายนิ้วมือหรือ Touch ID ติดตั้งอยู่ในปุ่มโฮมเช่นเดียวกับ iPhone 5s, Gyro 3 แกน, เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว, ระบบตรวจจับระยะ, ระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ และที่เพิ่มมาใหม่บน iPhone 6 ทั้ง 2 รุ่นคือเซ็นเซอร์วัดความดันบรรยากาศ (Barometer)

การเชื่อมต่อไร้สาย

ทั้ง 2 รุ่นรองรับซิมการ์ดขนาด Nano-SIM เชื่อมต่อผ่าน 3G, LTE, Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac เร็วขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับ 802.11n, Bluetooth 4.0, NFC, GPS, GLONASS และเชื่อมต่อผ่านสาย Lightning

[table id=16 /]

วันวางจำหน่ายสำหรับ 9 ประเทศแรก (อเมริกา, ฝรั่งเศษ, ฮ่องกง, แคนาดา, เยอรมัน, สิงคโปร์, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, และญี่ปุ่น) จองได้วันที่ 12 กันยายน และจะวางจำหน่ายทางการในวันที่ 19 กันยายนนี้

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

Apple เปิดตัว Powerbeats Pro 2 อย่างเป็นทางการ ราคา 8,500 บาท

MacBook Air ชิป M4 ใกล้เปิดตัวเร็วๆ นี้ หลังหลุดเลขรุ่นชิป M4 เรียบร้อย

Apple ออกอัปเดต iOS 18.3.1 บน iPhone แก้บัคและปิดช่องโหว่

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Read More