เทรนด์ไมโคร แถลงผลประกอบการปี 2018 รายได้สุทธิรวม 160,410 ล้านเยน พร้อมระบุว่าในปีนี้ภัยคุกคามยังน่ากลัวและเข้มข้นมากขึ้น

เทรนด์ไมโคร ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นความปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้เผยถึงผลประกอบการประจำปี 2018 สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2018  ที่ผ่านมา โดยมีรายได้สุทธิจำนวน 160,410 ล้านเยน สูงขึ้นจากปีก่อน 7.8% และมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 35,836 ล้านเยน โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) อยู่ที่ 22,980 ล้านเยน เติบโตถึง 20.2%

คุณปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  “ภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์ เป็นสิ่งที่องค์กรต่าง ๆ ยกให้อยู่ในลำดับต้น ๆ ของความสำคัญที่จะต้องคำนึง โดยในปี 2018 ที่ผ่านมานั้น ทั่วโลกต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่สร้างความเสียหายในกับระบบไอทีขององค์กร การที่ต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมหาศาลให้กับภัยแรนซั่มแวร์ ภัยคุกคามที่ขโมยเงินดิจิทัลด้วยการฝังมัลแวร์แปลก ๆ ลงในบราวเซอร์เพื่อที่จะแอบขุดเงิน Cryptocurrency Mining  รวมไปถึงองค์กรชั้นนำในยุโรปยังต้องคำนึงในส่วนของการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่บังคับใช้กันในวงกว้างเช่น General Data Protection Regulation (GDPR) จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้องค์กรไม่อาจละเลยเรื่องของการลงทุนด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้”

โดยคุณปิยธิดา ยังระบุด้วยว่า ตัวเลขของภัยคุกคามต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2018 ที่ผ่านมานั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้นและรุนแรงมากกว่าเดิม อย่างเช่น กรณีของภัยคุกคามด้วยวิธีการโจมตีแบบ Business Email Compromise (BEC) เพิ่มขึ้นเป็น 12,472 ครั้ง (ปี 2017 จำนวน 9,708 ครั้ง) เป็นเมล์ลวงที่ผู้ไม่ประสงค์ดีปลอมอีเมล์ของผู้บริหารเพื่อลวงพนักงาน เป็นต้น ถัดมาเป็นภัยที่ยังคงเกิดอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าแรนซั่มแวร์สายพันธุ์ใหม่จะพบน้อยลง แต่สายพันธุ์เก่าอย่างเช่นการกลับมาของแรนซั่มแวร์ WannaCry และตระกูลอื่น ๆ สำหรับWannaCry นั้นเป็นภัยคุกคามที่โด่งดังในช่วงปี 2017 แต่จวบจนในปี 2018 ภัยนี้ก็ไม่ได้หายไปไหน ก็ยังเติบโตเช่นกันและพบว่ามีภัยในตระกูลเดียวกับ WannaCry ถึง 616,399สายพันธุ์ (ปี 2017 อยู่ที่ 321,814 สายพันธุ์) ส่วนตระกูลอื่น ๆ อีก 126,518 สายพันธุ์ (ปี 2017 อยู่ที่ 244,716 สายพันธุ์) สำหรับในประเทศไทยเราตรวจพบว่ามีการโจมตีถึง 15,733ครั้ง ในปี 2018 ที่ผ่านมา

ภัยคุกคามอีกประเภทหนึ่งที่เรียกได้ว่าน่ากลัวไม่แพ้กันก็คือ การโจมตีโดยอาศัยการฝังมัลแวร์เพื่อทำการขุดเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency Mining ซึ่งวันนี้มีการโจมตีเลยระดับ1 ล้านครั้งไปแล้ว โดยทางเทรนด์ไมโครตรวจพบถึง 1,350,951 ล้านครั้งในปี 2018 (ปี 2017 เพียงแค่ 400,873 ครั้งเท่านั้น) โดยกระบวนการที่ผู้ไม่ประสงค์ดีกระทำนั้น ใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น มีการฝังมัลแวร์ลงบนตัวส่วนขยายของเว็บบราวเซอร์  ใช้ป๊อป-อัพ ของโฆษณา ปลั๊กอินแปลก ๆ  บ็อตเน็ต หรือการใส่โค้ดร้ายลงไปยังซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายต่าง ๆ เป็นต้น

ในส่วนของปี 2019 นี้ทางเทรนด์ไมโคร ก็ยังมองว่าภัยคุกคามยังคงสูงขึ้น และยังได้จัดทำ รายงานพิเศษชื่อว่า Mapping the Future : Dealing With Pervasive and Persistent Threats  เป็นคาดการณ์ภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นในปี 2019 ซึ่งจะมีการคุกคามและโจมตีต่อเนื่องเข้มข้นกว่าเดิม โดยมาจากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทั้งในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ แนวโน้มของตลาด และผลกระทบของอันตรายในวงกว้าง โดยมีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 7 ประการ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่

https://documents.trendmicro.com/assets/rpt/rpt-mapping-the-future.pdf

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

เทรนด์ไมโคร เผยทิศทางรับปี 2022-2023 เน้นเข้าถึงลูกค้าฉับไว ส่งแพลตฟอร์มไซเบอร์ซิเคียวริตี้ รับมือภัยคุกคามดุเดือดได้ฉับพลัน ชี้การมองเห็นความเป็นไป ช่วยป้องกันเชิงรุก

เทรนด์ไมโคร ส่ง Zero Trust โซลูชันที่ครอบคลุมสุดในอุตสาหกรรม

เทรนด์ไมโคร เปิดวิสัยทัศน์ชี้ภาพรวมภัยคุกคามครึ่งปีหลัง พร้อมเปิดตัว Vision One แพลตฟอร์มขั้นสุด สร้างเกราะป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์เชิงรุก

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Read More