พรีวิว Vivo NEX 3 ที่สุดของสมาร์ทโฟนไร้ขอบ พร้อมจัดเต็มด้วย Snapdragon 855+ และกล้องหลังสูงสุด 64MP

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Vivo NEX 3 ในประเทศไทยที่ถือว่าเป็นตระกูล NEX รุ่นแรกที่ให้ชาวไทยได้สัมผัสด้วยสเปคระดับเรือธงของ Vivo รวมไปถึงตัวชูโรงอย่างหน้าจอแสดงผลแบบ Waterfall FullView Display ไร้ขอบ, ไร้ปุ่ม และไร้รอยบาก ทำให้มีขนาดกว้างถึง 6.89 นิ้ว พร้อมพื้นที่การแสดงผลถึง 99.6%

ด้านดีไซน์ก็ถือว่าค่อนข้างแปลกใหม่เลยทีเดียวสำหรับหน้าจอโค้งขั้นสุดแบบ Waterfall FullView Display ที่ไม่มีปุ่มด้านข้างทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มล็อคเครื่อง โดยจะใช้เป็นการสัมผัสแทนทั้งหมด ขณะที่ฝาหลังก็ใช้สีเพียงสีเดียว คือ Glowing Night ที่ให้ความคลาสสิกของสีที่เข้มขรึมมากๆ

 

ทั้งนี้ แม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ให้ไร้ขอบทั้งหมด แต่การจับถือก็ยังสะดวกเหมือนเดิมแน่นอน

 

ด้านหน้าจอแสดงผลของ Vivo NEX 3 มาแบบโค้งขั้นสุด ทั้งยังมีขอบดำด้านบนและล่างที่บางมากๆ ทำให้มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.89 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2256 × 1080 พิกเซล) ทั้งยังใช้ชนิดหน้าจอแบบ Super AMOLED และรองรับ HDR10 อีกด้วย

 

สำหรับใครที่กลัวว่าจะจับแล้วมือลั่นแล้วระบบจะเด้งแอปพลิเคชั่นมั่วๆ หรือไม่ ก็หายกังวลได้เลย เพราะภายในจะใช้ AI ในการช่วยคำนวณว่าเรากำลังถืออยู่ในลักษณะไหนทำให้ไม่มีอาการมือลั่นแน่นอน ซึ่งจากที่ลองเครื่องจริงต้องบอกว่าทำได้ดีมากๆ ในส่วนนี้

 

แม้ไร้ปุ่มแต่ก็ยังมีให้เราสัมผัสข้างๆ ได้ โดยจะมีสัญลักษณ์ ‘เพิ่มเสียง’, ‘ล็อค/ปลดล็อคเครื่อง’ และ ‘ลดเสียง’ ให้เราสามารถกดได้ตรงจุด ซึ่งเมื่อเราสัมผัสลงไปก็จะมีการสั่นเบาๆ ให้เรารู้สึกเหมือนกับการกดปุ่มอยู่นั่นเอง

 

Vivo NEX 3 ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอด้วย

 

บริเวณเหนือหนน้าจอแสดงผลของ Vivo NEX 3 จะมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่เพียงอย่างเดียว

 

ที่ฝั่งซ้ายและขวาจะไม่มีหลงเหลือปุ่มกดใดๆ หลงเหลืออยู่

 

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีไมโครโฟน, อินฟราเรด, ตัวซ่อนกล้อง Pop-Up และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

 

ส่วนด้านล่างมีช่องใส่ซิมการ์ดจำนวน 2 ช่อง, ไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก

 

และที่ด้านหลังจะมีกล้องหลัง 3 เลนส์อยู่ในกรอบทรงกลม และถัดลงมาจะมีไฟแฟลช LED อยู่

 

สำหรับกล้องของ Vivo NEX 3 ก็มีฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายด้วยความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล, ถ่ายด้วยเลนส์ Ultra-Wide 120 องศา, สามารถซูมไกลได้สูงสุดแบบดิจิตอล 20 เท่า และสามารถถ่ายแบบ Macro ได้ใกล้สุดๆ 2.5 เซนติเมตรเลยทีเดียว

 

สรุปสเปค Vivo NEX 3

  • หน้าจอแสดงผล Waterfall FullView Display แบบ Super AMOLED กว้าง 6.89 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2256 × 1080 พิกเซล) รองรับ HDR 10 และมีพื้นที่การแสดงผลถึง 99.6%
  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 855+ Octa Core ความเร็ว 2.96 GHz
  • GPU : Adreno 640
  • ความจุ RAM 8GB + ROM 128GB (UFS 3.0)
  • กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น
    • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
    • เลนส์ Ultra Wide- Angle กว้าง 120 องศา ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5
    • เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5
  • กล้องหน้า Pop-Up ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย Funtouch 9.1
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับ Vivo Flash Charge 22.5W

สำหรับ Vivo NEX 3 สนนราคาอยู่ที่ 24,999 บาท โดยเริ่มเปิดพรีออเดอร์แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 30 กันยายนนี้ ผ่านช่องทางออนไลน์ของ LAZADA www.lazada.co.th/products/-i426316119-s810002217.html และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 กันยายนนี้เช่นกัน

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

ปรับใหม่ ! vivo X Fold4 อาจใช้สแกนลายนิ้วมือข้างเครื่องแทนที่ใต้จอ เพื่อความบางของเครื่อง

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 1 – 7 ก.พ. 68

vivo อินเดียยืนยันเปิดตัว V50 วันที่ 17 ก.พ. นี้ พร้อมสโลแกน ZEISS Portrait So Pro

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Read More