หลังจากเปิดตัว Samsung Galaxy S10 Series ทั้ง 3 รุ่นไปแล้ว หลายคนอาจลังเลใจเพราะสเปคของ Galaxy S10+ นั้นจัดเต็มที่สุดจริงๆ แล้วถ้าใช้ Galaxy Note9 และ Galaxy S9+ อยู่แล้ว ควรอัพเกรดไปรุ่นใหม่หรือไม่
ตารางเปรียบเทียบสเปค Galaxy S10+, Note9 และ S9+
| Galaxy S10+ | Galaxy Note9 | Galaxy S9+ |
|
|
|
| – | S Pen | – |
| Exynos 9820 Octa (8 nm) | Exynos 9810 Octa (10 nm) | Exynos 9810 Octa (10 nm) |
| แรม 8GB / 12GB | แรม 6GB | แรม 6GB |
| ความจุ 128GB / 512GB / 1TB | ความจุ 128GB / 512GB | ความจุ 64GB / 256GB |
3 กล้องหลัง
|
2 กล้องหลัง
|
2 กล้องหลัง
|
2 กล้องหน้า
|
1 กล้องหน้า
|
1 กล้องหน้า
|
|
|
|
|
|
|
| กันฝุ่นกันน้ำ IP68 | กันฝุ่นกันน้ำ IP68 | กันฝุ่นกันน้ำ IP68 |
| สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ | สแกนนิ้วมือด้านหลัง | สแกนนิ้วมือด้านหลัง |
|
|
|
สรุปฟีเจอร์ใหม่ Samsung Galaxy S10+ ถ้าชอบ ควรอัพเกรด
- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้ว Infinity-O Dynamic AMOLED ความคมชัด Quad HD+ หน้าจอกว้างขึ้นในอัตรส่วน 19:9 และรองรับ HDR10+ เป็นรุ่นแรกของโลก มีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูงที่สุด 1:2,000,000
- สแกนนิ้วบนหน้าจอด้วย Ultrasonic Fingerprint รุ่นแรกของโลก โดยใช้คลื่นเสียงในการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งมีดีกว่าระบบสแกนนิ้วบนหน้าจอแบบ Optical ทั่วไป
- ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie กับ One UI ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง ไม่ต้องรออัพเดท
- ซีพียู Exynos 9820 Octa ขนาด 8nm มีประสิทธิภาพการทำงานของ CPU ดีขึ้น 19% และ GPU ดีขึ้น 37%
- แรมสูงสุด 12GB และความจุสูงสุด 1TB ใส่เมมเพิ่มได้อีก 512GB จัดเต็มทุการใช้งาน
- สำหรับคนเล่นเกมต้องชอบ Dolby Atmos 3D Sound ให้เสียงรอบทิศทางสมจริงมากขึ้น และเป็นครั้งแรกของโลกที่เป็นการจับมือกับ Unity เกมเอนจินแบบข้ามแพลตฟอร์มที่จะทำให้การเล่นเกมบมีประสิทธิดีขึ้น
- กล้องหลัง 3 เลนส์ 12 + 12 + 16 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปได้ครบทุกรูปแบบ
- Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล Zoom 2X มีระบบกันสั่น OIS
- Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น OIS มุมกว้าง 77 องศา
- Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 123 องศา
- กล้องหน้า 2 เลนส์ 10 + 8 ล้านพิกเซล มีระบบโฟกัสแบบ Dual Pixel เหมือนกล้องหลัง ทำให้โฟกัสใบหน้าหรือจุดที่ต้องการรวดเร็วเหมือนถ่ายด้วยกล้องหลัง และเป็นรุ่นแรกของโลกที่กล้องหน้าบนสมาร์ทโฟนถ่ายวิดีโอ 4K ได้
- Galaxy S10+ เป็นรุ่นเดียวของ Samsung ในขณะนี้ที่มีระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ซึ่งเป็นการออกแบบภายในที่ระบายความร้อนได้ดีที่สุดในมือถือเพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหล
- รองรับ Wi-Fi 6 รุ่นแรกของโลก ตามเทคนิคแล้วจะมีความเร็วสูงสุดถึง 10Gbps เร็วกว่า Wi-Fi 5 (802.11ac) และรองรับ MU-MIMO สามารถตอบสนองได้รวดเร็วและลดสัญญาณรบกวนในพื้นที่ Wi-Fi ที่หนาแน่นได้
- แบตเตอรี่ 4100mAh ที่มาพร้อม Wireless PowerShare ระบบชาร์จไร้สายให้กับมือถือเครื่องอื่นได้แค่เอาด้านหลังมาประกบกัน
สรุปเหตุผลควรเลือก Samsung Galaxy Note9
- เป็นสมาร์ทโฟนกับการเขียนบนหน้าจอด้วยปากกา S Pen และขอบโค้งหน้าจอจะมีความตรงมากกว่าใน Galaxy S10+
- แบตเตอรี่ 4000mAh ถือว่ายังตอบโจทย์การใช้งานได้ยาวนาน
- ชอบสแกนนิ้วด้านหลัง
- มีเซ็นเซอร์ระบบ Iris สำหรับสแกนม่านตา
สรุปเหตุผลควรเลือก Samsung Galaxy S9+
- ความคมชัดหน้าจอเท่ากับ Galaxy Note9
- ราคาไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับ Galaxy S10+
สำหรับใครที่ลังเลอยู่ว่าควรจะเลือก Samsung Galaxy S10+ ดีหรือไม่ เหตุผลที่ฟีเจอร์ที่แนะนำนี้น่าจะพอช่วยเพื่อนๆ ตัดสินใจได้นะครับ