รีวิว Xiaomi Mi Pad แท็บเล็ตพลัง NVIDIA Tegra K1 สำหรับคอเกม

Xiaomi Mi Pad แท็บเล็ตจากแดนมังกร ดีไซน์สุดเรียบหรู มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 7.9 นิ้ว ขุมพลัง NVIDIA Tegra K1 พร้อมจีพียู 192-core Kepler เอาใจคอเกม Unreal Engine 4 และแบตเตอรี่ 6,700 mAh

สรุปข้อมูลและสเปค Xiaomi Mi Pad

  • ราคาเปิดตัว 9,190 บาท (สิงหาคม 2558)
  • ขนาดตัวเครื่อง 202.1 x 135.4 x 8.5 มม.
  • น้ำหนัก 360 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลขนาด 7.9 นิ้ว IPS ความคมชัด 2048 x 1536 พิกเซล
  • ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 KitKat
  • ชิปเซ็ต NVIDIA Tegra K1
  • ซีพียู Cortex-A15 Quad-core 2.2 GHz
  • กราฟิก (GPU) 192-core Kepler
  • หน่วยความจำ RAM 2GB LPDDR3
  • หน่วยความจำ ROM 16 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB
  • กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
  • รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.0
  • แบตเตอรี่ 6,700 mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)

 

อุปกรณ์ภายในกล่อง ได้แก่ Xiaomi Mi Pad ความจุ 16GB, อะแดปเตอร์, สาย USB 2.0, ใบรับประกัน, คู่มือการใช้งาน และเข็มสำหรับจิ้มถาดใส่ microSD card

 

ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล

Xiaomi Mi Pad มีดีไซน์เรียบ ๆ ตัวเครื่องเป็นพลาสติกผิวมัน ตัวเครื่องหนา 8.5 มม. และหนัก 360 ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนาและหนักเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบัน แต่ก็ช่วยให้ผู้ใช้งานจับถนัดมือมากกว่าแท็บเล็ตบาง ๆ

หน้าจอแสดผลมีขนาด 7.9 นิ้ว เป็นจอ IPS ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล ความหนาแน่นของจุดพิกเซลประมาณ 326 พิกเซลต่อนิ้ว ปกป้องหน้าด้วยกระจก Gorilla Glass 3 ให้สัดส่วนหน้าจอมาประมาณ 70.7% ของตัวเครื่อง

 

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

 

ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มนำทางแบบสัมผัส 3 ปุ่ม เริ่มจากทางด้านซ้าย ได้แก่ ปุ่ม Recen Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

 

ขอบด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.

 

ขอบด้านล่างมีพอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB

 

ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับปิด/เปิดเครื่องหรือกดเพื่อปิด/เปิดหน้าจอ

 

ส่วนทางด้านซ้ายไม่มีปุ่มใด ๆ มีเพียงช่องสำหรับใส่ microSD card ความจุสูงสุด 128GB

 

ด้านหนังมีลักษณะผิวเรียบมัน มีเลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ไมโครโฟน 2 ตัว ช่วยตัดเสียงรบกวน และช่องโพงซ้าย-ขวา

 

ฝาหลังแกะออกไม่ได้ ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 6,700 mAh

 

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

Xiaomi Mi Pad รันระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 KitKat มีแอพทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและเกมอย่าง Modern Combat 5 ติดตั้งมากับตัวเครื่องด้วย เพราะว่าแท็บเล็ตรุ่นนี้เน้นเอาใจคอเกม

 

ปลดล็อคหน้าจอด้วยการปัดขึ้น เมื่อเข้าสู่หน้าจอหลักจะพบกับหน้าแสดงวิดเจ็ตที่เป็นปฏิทิน เครื่องคิดเลข นาฬิกา และอื่น ๆ ซึ่งตรงนี้สามารถปรับแต่งใหม่เองได้

 

ไอคอนแอพก็จัดเรียงกันแบบ 6 x 4 แถวในแนวนอน ปัดซ้ายขวาเพื่อเลื่อนหน้าจอ

 

สามารถแตะค้างที่ไอคอนแอพแล้วลากลงถังขยะเพื่อลบการติตตั้งแอพที่ไม่ต้องการได้

 

Xiaomi Mi Pad รองรับบริการทั้งหมดจาก Google รวมถึง Play Store แหล่งดาวน์โหลดคอนเทนท์ต่าง ๆ ก็ติดตั้งมาให้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี Amazon App Store รวมถึง NVIDIA TegraZone สำหรับคอเกมอีกด้วย

 

แท็บเล็ตที่เน้นไปทางการเล่นเกม แต่ความจุตัวเครื่องให้มาเพียง 16GB เท่านั้น เหลือใช้จริงประมาณ 11.3GB คงต้องพึ่ง microSD card ที่สามารถรองรับได้สูงสุด 128GB โดยเจ้า Xiaomi Mi Pad รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth 4.0 และ USB OTG

 

เมื่อปัดแถบด้านบนลงมาจะเป็นในส่วนของการแจ้งเตือนต่าง ๆ และเมื่อปัดหน้าจอไปทางด้านซ้ายก็จะเป็นในส่วนของ Control Panel ซึ่งเป็นแผงควบคุมการปิด/เปิดการทำงานต่าง ๆ ของระบบ รวมถึงเข้าสู่เมนูการตั้งค่าตัวเครื่องได้ด้วย

 

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช

  • Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
  • Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
  • Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
  • Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
  • รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด

 

ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน

Xiaomi Mi Pad รันระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 KitKat ใช้ชิปเซ็ต NVIDIA Tegra K1 ซีพียู Cortex-A15 Quad-core 2.2 GHz กับกราฟิก 192-core Kepler และหน่วยความจำแรม 2GB LPDDR3 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตที่เน้นการเล่นเกมโหด ๆ เลยทดสอบจัดหนักให้เลย มาดูกันว่าในเรื่องของประสิทธิภาพและกราฟิกจะเป็นอย่างไร

 

ผลการทดสอบ AnTuTu ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม (RAM) และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู (GPU) ทำคะแนนรวมได้ 49,209 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าเร็วแรงอีกใช้ได้เลยเมื่อเทียบกับราคาแท็บเล็ตไม่ถึงหมื่น

 

ทดสอบ 3DMark เพื่อดูประสิทธิภาพการทำงานของกราฟิกรวมถึงการเล่นเกม 3D ซึ่งเป็นการทดสอบที่ความละเอียด 720p สามารถทำคะแนนได้ 25,058 คะแนน

 

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะด้วย GFXBench ผลคะแนนจะนับเป็น PFS (Frame per Second)

1. Manhattan ใช้ OpenGL ES 3.0 เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด ทำได้ 19 FPS

2. 1080p Manhattan Offscreen ทดสอบเหมือนในข้อ 1  แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด Full HD ทำได้ 27 FPS

3. T-Rex เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด แต่ใช้ OpenGL ES 2.0 ทำได้ 38 FPS

4. 1080p T-Rex Offscreen เป็นการทดสอบเหมือนในข้อ 3 แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด Full HD ทำได้ 52 FPS

 

จากการทดสอบเล่นเกมลื่นไหลดีเลยทีเดียว แต่พอเล่นไปสักพักประมาณ 30 นาทีขึ้นไปก็จะพบว่ามีอาการเครื่องเริ่มร้อน แต่โดยรวมถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่เหมาะกับคอเกมอีกหนึ่งรุ่นเลยครับ

 

กล้องถ่ายรูป

Xiaomi Mi Pad มีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony BSI ค่ารูรับแสง f/2.0 ขนาดภาพสูงสุด 3264 x 2448 พิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 1080p และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล

 

ตัวอย่างภาพถ่าย

 

สรุปจุดเด่น

  • หน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว IPS
  • ชิปเซ็ต NVIDIA Tegra K1 ซีพียู Cortex-A15 Quad-core 2.2 GHz กับกราฟิก 192-core Kepler เล่นเกมได้ลื่นไหล
  • มีกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่ 6,700 mAh ใช้งานทั่วไปได้สบาย ๆ

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก

ตัวเครื่องรับประกันนาน 1 ปี โดยบริษัท อีซี่ คอมเมิร์ซ (ไทยแลนด์) จำกัด (EZ Commerce (Thailand) Co., Ltd.) ตัวแทนจำหน่าย Xiaomi Mi Pad อย่างเป็นทางการ

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

Redmi Note 14 Series – The Iconic Moment แฟนๆ ใกล้ชิด แบมแบม กันต์พิมุกต์

หลุดข้อมูล Xiaomi 15 รุ่น Global ทั้ง RAM ความจุ และตัวเลือกสี

หลุดสเปค Redmi Turbo 4 Pro จอใหญ่ 6.8x” l 1.5K l ขอบบางเฉียบ 4 ด้าน

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Read More