เหนือกว่าด้วย Wi-Fi 6 ด้วย HUAWEI Wi-Fi AX Series
ส่วนหนึ่งกลยุทธ์ AI ไร้รอยต่อสำหรับทุกสถานการณ์ของหัวเว่ย คือการมอบโซลูชันส์ในการเชื่อมต่อบนช่องทางออนไลน์ ตัวอย่างเช่น Wi-Fi routers customer-premise equipment (CPE) และโมดูลการสื่อสาร ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการเชื่อมต่อตามแนวทางการสร้างอีโคซิสเต็ม 1+8+N เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจแก่ผู้ใช้ ปลอดภัย ตอบสนองตรงความต้องการ ชาญฉลาด และมาพร้อมความเร็วสูงในการเชื่อมต่อ
ในฐานะผู้นำเทคโนโลยี 5G หัวเว่ยเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการหลัก ซึ่งได้กำหนดมาตรฐานของ Wi-Fi 6 โดยปัจจุบัน กลุ่มทำงานมาตรฐาน IEEE 802.11ax ได้รวมเอาผู้เชี่ยวชาญจากผู้ให้บริการต่างๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของหัวเว่ย จำนวน 5 คน เข้าร่วม ซึ่งหนึ่งในกลุ่มนี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานของกลุ่ม จาก 260 ผู้ให้บริการ ซึ่งคิดเป็น 15% ของการนำเสนอทั้งหมดในโปรเจค Wi-Fi 6 (802.11ax) หัวเว่ยถือเป็นอันดับให้บริการที่ให้ความร่วมมือในอุตสาหกรรม โดดเด่นเป็นอันดับสองของกลุ่ม
การยกระดับการทำงานร่วมกันระหว่างชิปเซ็ตที่มีสิทธิบัตรรับรองและการพัฒนาซอฟท์แวร์ให้ดีที่สุด หัวเว่ยได้พัฒนา Wi-Fi 6+ จากมาตรฐานของ Wi-Fi 6 โดย Wi-Fi 6+ นั้นรองรับช่วงสัญญาณของช่อง (channel bandwidth) ที่กว้างถึง 160MHz มาพร้อมเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะ dynamic narrowband เมื่อผสาน 2 นวัตกรรมนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดความเร็ว Wi-Fi และให้สัญญาณที่ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น
ระหว่างงานถ่ายทอดสดงานแถลงข่าว หัวเว่ยยังเปิดตัว Gigahome 650 และ Kirin W650 ชิปเซ็ต Wi-Fi 6+ ล่าสุดที่ออกแบบมาสำหรับเราท์เตอร์และสมาร์ทโฟนตามลำดับ ซีรีส์ HUAWEI Wi-Fi AX3 ใหม่นั้นประกอบด้วยชิปเซ็ต Gigahome 650 ซึ่งสามารถรองรับระบบปฏิบัติการ dual-band dual-concurrent (DBDC) ที่ความเร็วสูงสุด 3000Mbps ได้ เมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของหัวเว่ยที่รองรับ Wi-Fi 6+ เราท์เตอร์ HUAWEI Wi-Fi AX3 จะสามารถส่งมอบสัญญาณที่ครอบคลุมได้ดียิ่งขึ้นและให้ความเร็วที่มากกว่าเราท์เตอร์ Wi-Fi 6
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดตัว HUAWEI 5G CPE Pro 2 CPE มาตรฐาน Wi-Fi 6+ ใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนถึง 30% และการอัพเกรดอื่นๆ รวมถึงการรองรับ 5G 11 ย่านความถี่ และเทคโนโลยี Super Uplink ของหัวเว่ย ซึ่งได้พัฒนาในส่วนของความเร็วในการอัพโหลดและความหน่วงขึ้นเป็นอย่างมาก
เปิดประสบการณ์ใหม่ในโลกแอปพลิเคชันด้วย HUAWEI AppGallery
หัวเว่ยยังคงนำศักยภาพทั้งในด้านการพัฒนาชิป ดีไวซ์ และคลาวด์ มาผสานกันเป็นหนึ่งเพื่อสรรสร้างอีโคซิสเต็มครบวงจรมารองรับดีไวซ์ทุกรุ่นของหัวเว่ยต่อไป ผ่านทางแพลตฟอร์ม HMS โดยอีโคซิสเต็มดังกล่าวนี้จะมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมการใช้งานในทุกขั้นตอน ทุกสถานการณ์ รองรับการเผยแพร่แอปพลิเคชันให้กับผู้ใช้ทั่วโลกอย่างเต็มพิกัด และสนับสนุนการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์และบริการอย่างสมบูรณ์ตลอดวงจรชีวิตในตลาด ในฐานะองค์ประกอบสำคัญของยุทธศาสตร์ “All-scenario Seamless AI Life” ของหัวเว่ย ที่พร้อมมอบชีวิตในยุค AI ที่รองรับทุกโจทย์การใช้งานอย่างไร้รอยต่อ
HMS Core ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเวอร์ชันที่ 4 เป็นชุดเครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อให้พันธมิตรและนักพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มของหัวเว่ยสามารถสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร เข้าถึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้เต็มที่ นอกจากนี้ นักพัฒนาที่เลือกผนึกเอา HMS เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในแอปพลิเคชันด้วยชุดเครื่องมือ HMS Core 4.0 จะสามารถนำคุณสมบัติเด่นต่างๆ ที่มาพร้อมกับดีไวซ์ของหัวเว่ยมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม AI อย่าง HiAI หรือเทคโนโลยีและคุณสมบัติเพื่อการถ่ายภาพครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ใช้ปลายทาง
Cewe ผู้ให้บริการพิมพ์ภาพถ่ายรายใหญ่ที่สุดของยุโรป ได้นำ Share Kit ของหัวเว่ยไปประยุกต์ใช้ในสำนักงาน เพื่อให้กระบวนการการจับคู่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยพนักงานสามารถพิมพ์ชิ้นงานออกมาได้เร็วกว่าที่เคย เพียงนำดีไวซ์ของหัวเว่ยมาแตะที่เครื่องพิมพ์เท่านั้น ประสบการณ์เหนือระดับเช่นนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มลูกค้าองค์กรเท่านั้น แต่ยังพร้อมนำเสนอให้กับผู้ใช้ทั่วไปผ่านทาง HUAWEI AppGallery ที่มีแอปพลิเคชันระบบ HMS ให้เลือกสรรมากมาย พร้อมเสิร์ฟความสะดวกสบายที่เหนือกว่าด้วยนวัตกรรมของหัวเว่ย
นอกจากนี้ HUAWEI AppGallery ยังมอบประสบการณ์ใหม่ในรูปของ Quick Apps นวัตกรรมแอปพลิเคชันที่สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับอุปกรณ์ในยุค 5G โดยแอปพลิเคชันประเภท Quick Apps นี้ พัฒนาขึ้นตามมาตรฐานระดับโลกเพื่อให้สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งลงในเครื่อง ทั้งยังใช้หน่วยความจำน้อยอีกด้วย ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานแอปเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส และเพลิดเพลินไปกับการแสดงผลที่สวยงาม ตอบสนองราบรื่นเสมือนแอปพลิเคชันที่ติดตั้งเองในแบบทั่วไป ทั้งนี้ แอปพลิเคชันที่ใช้งานเทคโนโลยี Quick Apps นี้ กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานผ่าน HUAWEI AppGallery แล้วกว่า 1,700 แอป
นอกจากการพัฒนาแอปพลิเคชันของตนเองแล้ว หัวเว่ยยังได้คัดสรรแอปคุณภาพสูงอันเป็นที่นิยมจากทั่วโลก เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง หัวเว่ยได้ริเริ่มวางระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร เพื่อปกป้องผู้ใช้ให้ปลอดภัยจากแอปที่แฝงมาด้วยภัยร้าย โดยมีมาตรการทั้งระบบยืนยันตัวตนนักพัฒนาด้วยชื่อจริง กระบวนการตรวจสอบ 4 ขั้นตอน ระบบความปลอดภัยในการดาวน์โหลดและติดตั้ง รวมถึงกลไกการป้องกันต่างๆ ขณะใช้งานแอป
ด้วยประสบการณ์ในการรวบรวมและพัฒนาแอปพลิเคชันกว่า 9 ปีเต็ม HUAWEI AppGallery จึงเป็นตลาดแอปพลิเคชันที่ใหญ่ที่สุดระดับท็อป 3 ของโลก โดยนายหยูได้กล่าวถึงแผนการพัฒนา HUAWEI AppGallery ว่า “ในอนาคต เราจะยังคงขยายอีโคซิสเต็มของ HUAWEI AppGallery ภายใต้เป้าหมายที่ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การสร้างแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือเท่านั้น แต่ยังพร้อมมอบทางเลือกที่มากกว่าให้กับผู้ใช้งาน โดยความสำเร็จของอีโคซิสเต็มนี้ นับเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญสูงสุดของเรา”
หัวเว่ยยังคงทำงานร่วมกับนักพัฒนาแอปพลิเคชันยอดนิยมจากทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนอีโคซิสเต็มดังกล่าวให้เติบโต โดยพร้อมต้อนรับนักพัฒนาทุกคนให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอีโคซิสเต็มนี้ เพื่อร่วมกันนำประสบการณ์แอปพลิเคชันที่เหนือกว่ามาสู่ผู้บริโภคทั่วโลก