โทรศัพท์มือถือรุ่นยอดนิยมนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาและความนิยมของผู้ใช้ และนี่คือ 10 โทรศัพท์มือถือรุ่นยอดนิยม น่าซื้อ น่าใช้ ประจำเดือนมีนาคม 2568
มือถือรุ่นยอดนิยม ประจำเดือนมีนาคม 2568:
vivo iQOO 13
iQOO 13 5G สมาร์ตโฟนเรือธงสายเกมมิ่งที่มาพร้อมชิป Snapdragon 8 Elite + ชิป Supercomputing Q2 มีหน่วยความจำที่แรงที่สุด LPDDR5X Ultra + UFS 4.1 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6150mAh + ชาร์จไว 120W FlashCharge เล่นเกมได้ถึงใจ ไม่น้อยหน้าใคร อีกทั้งยังมีลูกเล่นในด้านดีไซน์ที่เรียบหรูแรงบันดาลใจจาก BMW M Motorsport พร้อมไฟ Monster Halo เพิ่มสีสันและฟิลลิ่งได้ดีสุดๆ
iQOO 13 5G ได้รวมเทคโนโลยี Zero-Latency Frame Interpolation และ High-Fidelity Frame Interpolation เพื่อเพิ่มความไวในการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำ อัลกอริทึมการซิงค์เฟรมทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงเวลาการเรนเดอร์ภาพ ทำให้แต่ละเฟรมปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ได้เปรียบในการแข่งขันให้กับผู้เล่นด้วยการเล่นเกมที่ราบรื่น
HONOR X9c
HONOR X9c 5G ได้มาตรฐาน HONOR Anti-Drop รุ่นใหม่ ที่ให้ความต้านทานต่อการตกจากที่สูงไม่เกิน 2 เมตร เพื่อให้มั่นใจว่าโทรศัพท์ยังคงสามารถใช้งานได้ปกติในสถานการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การเกิดอุบัติเหตุ อย่างการล้ม การทำโทรศัพท์หลุดมือ หรือตกจากที่สูง โดยกระจกนิรภัยพิเศษและแผงป้องกันด้านหลังทำงานร่วมกันเพื่อการปกป้องอย่างครอบคลุม
เรื่องการถ่ายภาพ HONOR X9c 5G ก็ไม่ธรรมดาเพราะ ได้กล้องหลัก Ultra-sensing ความละเอียด 108MP พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.67″ เก็บรายละเอียดได้อย่างดีในทุกสภาพแสง ด้วยรูรับแสงขนาดใหญ่ f/1.75 และระบบกันสั่น OIS นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ HONOR AI Motion Sensing ที่สามารถบันทึกช่วงเวลาได้อย่างแม่นยํา ในกิจกรรมต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น การกระโดด เพื่อให้ได้ภาพสแนปชอตที่น่าสนใจ
vivo V50
vivo V50 สมาร์ตโฟนที่บางที่สุดที่ให้แบตเตอรี่มาถึง 6000mAh มาพร้อมหน้าจอแบบโค้ง 4 ด้าน Quad-Curved ขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2392 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz พร้อมความสว่างสูงสุดถึง 4500 นิต โดยฟีเจอร์กล้องหลักๆ คือการมี ZEISS Multifocal Portrait ในระยะต่างๆ พร้อมการเบลอตามแบบฉบับของ ZEISS ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 กะกล่องมาพร้อม Android 15 ครอบทับด้วย Funtouch OS 15 และรองรับการชาร์จเร็ว 90W FlashCharge
vivo V50 มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัยตามแบบฉบับสมาร์ตโฟน V Series ด้วยตัวเครื่องบางเพียง 7.39 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 189 กรัม เสริมความพิเศษด้วยดีไซน์โมดูลกล้องรูปแบบใหม่ ‘Dual-Ring’ ซึ่งสะท้อนเอกลักษณ์การออกแบบอันประณีตของ V Series ด้วยการจัดวางเลนส์กล้องและไฟออร่าในรูปแบบวงแหวนอย่างสมดุล
OPPO Reno13
OPPO Reno13 5G มาในดีไซน์ใหม่สวยสุดเทรนดี้เช่นเดียวกัน ฝาหลังลวดลายปีกผีเสื้อสีขาว Plume White และวงแหวน Luminous Loop ในสีฟ้า Luminous Blue ให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัย พร้อมฝาหลังกระจกแกะสลักชิ้นเดียวดีไซน์ขอบเหลี่ยมจับถนัดมือ เพื่อให้ใช้งานสะดวกและมั่นคงในทุกการสัมผัส มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5600mAh และชาร์จไว 80W SUPERVOOC
ด้านฟีเจอร์ AI ก็ให้มาครบเครื่องระดับเรือธงในราคาที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็น AI Editor, AI Toolbox 2.0 และ AI Studio ที่ให้เราได้สนุกกับเรื่องการตกแต่งภาพมากขึ้นแน่นอน ขณะที่ตัวชูโรงก็ยังได้ AI Livephoto ที่ให้เราได้เก็บทุกโมเมนต์ได้แบบไม่มีพลาดก็มีให้ทุกรุ่นในซีรีส์นี้
OPPO Reno13 Pro
OPPO Reno13 Pro 5G หนึ่งเดียวในซีรีส์ที่มาพร้อมระบบกล้องคมชัดเป็นพิเศษ ถ่ายภาพพอร์ตเทรตซูมไกลคมชัดทุกระยะด้วยกล้อง Telephoto 3.5 เท่า มาพร้อมดีไซน์ฝาหลังลวดลายปีกผีเสื้อสีม่วง Plume Purple และสีเทา Graphite Grey ที่เรียบหรูแมตช์ทุกสไตล์ ขอบเหลี่ยมจับถนัดมือ ดีไซน์จอโค้งไร้ขอบบางเบา พร้อมกรอบอลูมิเนียมเกรดอากาศยานที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมและทนทาน
ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเรื่อง AI ด้วยการมาพร้อม AI Imaging ที่ครอบคลุมที่สุด อย่าง AI Livephoto เปลี่ยนภาพถ่ายธรรมดาให้มีชีวิต พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่กับการถ่ายภาพใต้น้ำครั้งแรกในสมาร์ตโฟนราคาระดับกลาง พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5800mAh ชาร์จไว 80W SUPERVOOC
OPPO Reno13 F
โทรศัพท์มือถือ OPPO Reno13 F 5G มีหน้าจอแสดงผลปรับอัจฉริยะ 120Hz ตอบโจทย์เกมเมอร์ด้วยประสิทธิภาพ AI ที่ยกระดับการเล่นเกมด้วย AI LinkBoost 2.0 มาพร้อมฟีเจอร์ AI Livephoto ที่สามารถบันทึกวิดีโอสั้นความละเอียดระดับ 2K ระยะเวลา 3 วินาทีรวมช่วงก่อน-หลังการกดชัตเตอร์ ทำให้ได้ทั้งภาพพอร์ตเทรตระดับโปรพร้อมกับเก็บวิดีโอโมเมนต์แห่งความทรงจำไปพร้อมกัน และยังเป็นสมาร์ตโฟน Android เพียงรุ่นเดียวที่สามารถแชร์ Live Photos ข้ามแพลตฟอร์มจาก Android ไป iOS ได้
อีกทั้งยังมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่สุดเทรนดี้ที่สะท้อนความโดดเด่นและสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยฝาหลังที่สะท้อนถึงความโชคดีกับลวดลายปีกผีเสื้อในสีม่วง Plume Purple โดดเด่นด้วยวงแหวนสะท้อนแสง Luminous Loop ในสีฟ้า Luminous Blue ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างอย่างทันสมัย และสีเทา Graphite Grey ที่เรียบหรูแมตช์ได้กับทุกลุค และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5800mAh รองรับชาร์จไว 45W SUPERVOOC
Samsung Galaxy S25 Ultra
Galaxy S25 Ultra ปีนี้ปรับโฉมใหม่อีกครั้ง แม้ภายนอกถ้าดูก็คิดว่าเหมือนเดิมนี่นา แต่เมื่อลองสัมผัส จะรู้สึกว่าการจับถือที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนชัดเจน ทุกอย่างดูเรียบขึ้น ตัดเหลี่ยมมากกว่าเดิม มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับทุกรุ่นของ Galaxy S ทำให้เราถือใช้งานได้สบายมือมากขึ้นจริง ๆ ถ้าใครถือ S24 Ultra จนชิน มาถือ S25 Ultra จะรู้สึกได้เลยว่าเบาลงชัดเจน
ของใหม่ที่ Samsung ชูเป็นพิเศษเลยก็คือ ผู้ช่วย Galaxy AI ที่พัฒนาร่วมกับ Gemini ของ Google นี่แหละครับ เข้าถึงได้ง่ายและใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมาก และกล้องถ่ายรูปเกือบทั้งหมดยังใช้ชุดเดิมทั้งหมด จุดที่อัปเกรดขึ้นมาจริง ๆ จะเป็นกล้อง Ultra Wide จาก 12MP มาเป็น 50MP แล้ว ซึ่ง Samsung ให้เหตุผลว่าจากการสำรวจกล้องมุมกว้างนั้นถูกใช้งานมากที่สุดรองจากกล้องหลัก เลยมาเน้นอัปเกรดในปีนี้นั่นเอง
Samsung Galaxy S25
เรียกได้ว่าเป็น Galaxy ที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุด มาพร้อมประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบหลายปี แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นรุ่นที่มีการอัปเดตใหม่น้อยที่สุดด้วยเช่นกัน นั่นคือชิปการเลือกใช้ชิปเซ็ตใหม่อย่าง Snapdragon 8 Elite เหมือนกับรุ่นพี่นั่นเอง และชิปรุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับ Galaxy ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก และยังรองรับตัวเลือกการเชื่อมต่อใหม่ๆ เช่น Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 อีกด้วย
Galaxy S25 ยังเป็นโทรศัพท์ที่ได้รับมาตรฐานกันฝุ่นกันน้ำระดับ IP68 พร้อมแผง Gorilla Glass Victus 2 และกรอบอะลูมิเนียม มีหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X 1080p ขนาด 6.2 นิ้วพร้อมรูเจาะขนาดเล็ก และกล้องหลัง 3 ตัว เป็นกล้องหลัก 50MP OIS, กล้องเทเลโฟโต้ 3x OIS 10MP และกล้องอัลตราไวด์ 12MP โดยมีแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับการชาร์จแบบมีสาย 25W แบบไร้สาย 15W และการชาร์จแบบไร้สายย้อนกลับสูงสุด 4.5W
HONOR Magic7 Pro
Magic7 Pro เป็นอีกรุ่นหนึ่งของโทรศัพท์ระดับไฮเอนด์ปี 2025 ที่มีฮาร์ดแวร์ระดับสูงสุดและเน้นที่ประสิทธิภาพกล้อง มาพร้อมตามมาตรฐานสูงในการกันฝุ่นกันน้ำระดับ IP69 ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite พร้อมหน้าจอ 6.8 นิ้ว LTPO OLED มีกล้องเซลฟี่และสแกนใบหน้า 3 มิติที่ไม่สามารถหาได้ใน Android หลายรุ่น ลำโพงที่ดังกระหึ่มเป็นจุดขายอีกด้วย และรองรับ Wi-Fi 7, IR blaster
นอกจากนี้แล้ว กล้องก็ให้มาครบไม่แพ้เรือธงรุ่นอื่นด้วยกล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 200MP และได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล มาพร้อมฟีเจอร์ AI อัจฉริยะที่ช่วยยกระดับการใช้งานสมาร์ทโฟนให้ล้ำหน้ากว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็น AI Translation และ AI Deepfake Detection เจ้าแรกของโลก ที่ปกป้องข้อมูลส่วนตัวด้วย AI ตรวจจับเนื้อหาปลอมแปลง
Redmi Note 14
Redmi Note 14 มาพร้อมระดับการป้องกันน้ำกระเซ็น IP54 นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 120Hz ได้ชิปเซ็ต Helio G99 Ultra ถือเป็นตัวเลือกโทรศัพท์มือถือ 4G รุ่นยอดนิยมในช่วงราคานี้ โดยเป็นการอัปเกรดจาก Snapdragon 685 ของ Redmi Note 13 และลำโพงสเตอริโอรองรับ Dolby Atmos แล้ว
ด้านการถ่ายรูปมีกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 108MP, กล้อง Marco 2MP และกล้อง Depth 2MP เพียงแต่ไม่มีระบบกันสั่นแบบออปติคอลสำหรับกล้องหลักเหมือนใน Redmi Note 14 5G และไม่มีกล้องอัลตราไวด์ ส่วนกล้องเซลฟี่ได้รับการอัปเกรดเป็นเซ็นเซอร์ 20MP และความจุแบตเตอรี่เป็น 5,500mAh ชาร์จเร็ว 33W
การเลือกซื้อมือถือใหม่ให้คุ้มค่า:
การเลือกซื้อมือถือใหม่ให้คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานนั้น มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ดังนี้
1. กำหนดงบประมาณ:
- ตั้งงบประมาณที่สามารถจ่ายได้ เพื่อจำกัดตัวเลือกและป้องกันการใช้จ่ายเกินตัว
- พิจารณาว่าต้องการมือถือระดับใด: ระดับเริ่มต้น, ระดับกลาง หรือระดับเรือธง
2. ความต้องการใช้งาน:
- ใช้มือถือเพื่ออะไรเป็นหลัก: โทร, เล่นโซเชียล, ถ่ายรูป, เล่นเกม หรือทำงาน?
- ต้องการฟีเจอร์อะไรเป็นพิเศษ: กล้องคุณภาพสูง, แบตเตอรี่อึด, หน้าจอใหญ่, หน่วยความจำเยอะ หรือกันน้ำ?
3. เลือกขนาดหน้าจอ:
- ขนาดหน้าจอมีผลต่อประสบการณ์การใช้งาน: หน้าจอใหญ่เหมาะกับการดูวิดีโอและเล่นเกม, หน้าจอเล็กเหมาะกับการพกพา
- ลองจับเครื่องจริงเพื่อดูว่าขนาดหน้าจอเหมาะมือหรือไม่
4. สเปคตัวเครื่อง:
- หน่วยประมวลผล (CPU): มีผลต่อความเร็วและการตอบสนองของเครื่อง
- หน่วยความจำ (RAM): มีผลต่อการใช้งานหลายแอปพร้อมกัน
- พื้นที่เก็บข้อมูล (Storage): เลือกให้เพียงพอต่อการใช้งาน ปัจจุบันควรมีความจุ 128GB ขึ้นไป
- แบตเตอรี่: พิจารณาความจุและเทคโนโลยีการชาร์จ
5. กล้องถ่ายรูป:
- ความละเอียดของกล้อง: พิจารณาคุณภาพของเลนส์, เซ็นเซอร์ และซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพ
- ดูรีวิวจากผู้ใช้และเว็บไซต์รีวิวมือถือเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพกล้อง
6. ระบบปฏิบัติการ:
- Android: มีความหลากหลาย, ปรับแต่งได้เยอะ, แอปพลิเคชันเยอะ
- iOS (iPhone): ใช้งานง่าย, ระบบเสถียร, แอปพลิเคชันคุณภาพสูง
7. แบรนด์และรุ่น:
- อ่านรีวิวและเปรียบเทียบข้อมูลจากเว็บไซต์รีวิวมือถือและผู้ใช้
- เลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและบริการหลังการขายที่ดี
8. ตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกัน:
- ตรวจสอบระยะเวลาและเงื่อนไขการรับประกัน
- เลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- ลองจับเครื่องจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
- เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ ร้าน
- พิจารณาโปรโมชั่นและของแถม
- ตรวจสอบการรับสัญญาณโทรศัพท์ และมาตรฐานการรองรับสัญญาณ Wi-Fi เพื่อให้ตรงตามความต้องการ
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อมือถือใหม่ อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และ X @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ