iOS 16 เวอร์ชั่นเต็มปล่อยอัปเดตให้ผู้ใช้ทั่วไปเรียบร้อย มาพร้อมความสามารถใหม่หลายอย่างทั้ง Lockscreen ที่ปรับแต่งได้มากขึ้น, แก้ไขข้อความใน iMessage, ปรับปรุง Focus mode และอีกหลายอย่าง แต่ก็ยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่จะทยอยปล่อยมาให้ใช้งานเพิ่มเติมด้วย วันนี้เราก็รวบรวม 10 ฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาในปลายปีนี้มาฝากกัน มีอะไรบ้างติดตามกันเลย! ชมคลิปที่นี่
1.iCloud Shared Photo Library
เริ่มที่ฟีเจอร์แรกกับ iCloud Shared Photo Library ที่เปิดตัวในงาน WWDC22 ที่ผ่านมา คือการแชร์ภาพร่วมกับผ่านสมาชิกครอบครัวในแอป Photos โดยตรง ง่ายสำหรับภาพถ่ายในทริปที่ใครถ่ายก็ไปรวมกันในนั้นทันที ไม่ต้องมาส่งต่อให้วุ่นวาย ซึ่งฟีเจอร์นี้ทีแรกจะมาพร้อม iOS 16 เลยแต่มีการเลื่อนออกไปเป็นช่วงปลายปีนี้แทนครับ
2.Live Activities
อีกความสามารถที่เปิดตัวมาพร้อม iOS 16 แต่ยังไม่มีให้ใช้ในเวอร์ชั่นเต็มตอนนี้ก็คือ Live Activities หรือการแจ้งเตือนแบบสดจากแอปต่าง ๆ อาทิ แจ้งเตือนการมาของไรเดอร์, ผลสกอร์การแข่งกีฬา ผ่านหน้า Lockscreen หรือ Dynamic Island บน iPhone 14 Pro ครับ
3.ข้อความฉุกเฉินผ่านสัญญาณดาวเทียม
ฟีเจอร์นี้จะเป็นความสามารถใหม่ที่เพิ่มเข้ามาบน iPhone 14 ทั้ง 4 รุ่นกับข้อความฉุกเฉินผ่านสัญญาณดาวเทียม ที่ Apple ชูมาอย่างโดดเด่น หากเราไปในที่ที่ไม่มีสัญญาณมือถือจริง ๆ เราสามารถส่งข้อความฉุกเฉินกลับมาได้ ทั้งนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวจะปล่อยให้อัปเดตกันในช่วงปลายปีนี้เช่นกัน
**หมายเหตุฟีเจอร์นี้จะใช้ได้แค่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาก่อนครับ**
4.Apple Music Classical
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Apple ประกาศซื้อกิจการบริการเพลงคลาสสิก Primephonic และกล่าวว่ามีแผนจะเปิดตัวแอป Apple Music Classical โดยเฉพาะในปี 2022 ซึ่งรวม UI ของ Primephonic เข้ากับคุณสมบัติเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ตอนนี้เรายังไม่เห็นแอปดังกล่าวในอัปเดตปัจจุบัน แต่เชื่อว่าในปลายปีนี้อาจจะมีอัปเดตเพิ่มเติมครับ
5.การชาร์จด้วยพลังงานสะอาด
iOS 16.1 จะมาพร้อมฟีเจอร์ Clean Energy Charging หรือการชาร์จพลังงานสะอาดใหม่ที่ Apple กล่าวว่า “มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของ iPhone โดยปรับเวลาในการชาร์จให้เหมาะสมกับใช้แหล่งพลังงานที่สะอาดกว่า” แต่ฟีเจอร์นี้ยังใช้ได้แค่ในสหรัฐอเมริกาก่อนครับ
6.Apple Fitness+ สำหรับผู้ใช้ที่ไม่มี Apple Watch
Apple Fitness+ จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ iPhone ที่ไม่มี Apple Watch โดยเริ่มตั้งแต่ iOS 16.1, iPadOS 16.1 และ tvOS 16.1 หากไม่มี Apple Watch ผู้ใช้ iPhone จะไม่เห็นตัววัดแบบเรียลไทม์ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจและแคลอรีที่เผาผลาญระหว่างการออกกำลังกาย
7.Freeform
Apple เตรียมเปิดใช้งานแอปไวท์บอร์ดดิจิทัลใหม่ที่ชื่อว่า Freeform สำหรับ iPhone และ iPad ในปลายปีนี้ โดยคุณสมบัติเด่นของแอปนี้คือให้ผู้ใช้สามารถดู แชร์ และทำงานร่วมกันได้ในที่เดียวโดยไม่ต้องกังวลกับรูปแบบและขนาดหน้า พร้อมรองรับ Apple Pencil อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย
8.อุปกรณ์เสริม Matter บนแอป Home
Matter เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้อุปกรณ์เสริมใน Smart Home ที่เข้ากันได้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นในหลายแพลตฟอร์ม รวมถึง HomeKit ของ Apple, Alexa ของ Amazon และ Google’s Home บน iPhone, iPad และ Mac Apple กล่าวว่าการสนับสนุน Matter กำลังจะมาในการอัปเดตแอป Home ในปลายปีนี้
9.ไอคอนแบตเตอรี่ที่รองรับใน iPhone รุ่นอื่น ๆ
ในช่วงแรกที่ iOS 16 ปล่อยอัปเดตมา iPhone บางรุ่นยังถูกจำกัดไม่ให้สามารถเปิดแสดงไอคอนแบตเตอรี่ได้ อาทิ iPhone Xr, iPhone 11, iPhone 12 mini และ iPhone 13 mini แต่ในอัปเดตใหม่ iOS 16.1 ปลายปีนี้รุ่นเหล่านี้จะรองรับให้ใช้งานได้แล้วครับ อย่าเพิ่งน้อยใจไปซะล่ะ
10.Stage Manager สำหรับ iPad Pro รุ่นก่อน ๆ
ปิดท้ายที่ฟีเจอร์ไฮไลท์ของ iPadOS 16 อย่าง Stage Manager ที่ก่อนหน้านี้ Apple ออกมาบอกเองว่าเครื่องที่จะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ต้องเป็น iPad ที่ใช้ชิป M1 ขึ้นไปเท่านั้น แต่แล้วใน iOS 16.1 Developer Beta ล่าสุดก็มีฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้ iPad Pro รุ่นก่อนที่ใช้ชิป A12Z และ A12X เข้ามาด้วยแล้ว เชื่อว่าในเวอร์ชั่นเต็มปลายปีนี้เราคงได้เห็นกันอย่างแน่นอนครับ
ก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนรอใช้งานกันอยู่ เพราะตอนเปิดตัวมานี่ก็ชวนให้อยากใช้จริง ๆ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะมาพร้อมกับอัปเดต iOS 16.1 และ iPadOS 16.1 เวอร์ชั่นเต็มในช่วงปลายปีนี้ครับ รอติดตามอัปเดตกันได้เลย
ที่มา : Macrumors