Apple News
ส่อง 12 ฟีเจอร์ใหม่ iPhone 12 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการคืนนี้!
วันนี้จะพาทุกคนไปส่อง 12 ฟีเจอร์ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น หลังมีข้อมูลว่าจะมาพร้อมชิปเซ็ตที่เร็วแรงที่สุดในโลก และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ตุลาคมนี้หรือคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย
1. เทคโนโลยีหน้าจอ OLED
iPhone 12 ทุกรุ่นจะมาพร้อมหน้าจอ OLED ที่จะใช้เทคโนโลยีของ Samsung ที่เรียกว่า Y-OCTA ที่ช่วยให้การแสดงผลได้สีที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและสีดำก็ดำสนิทกว่า LCD โดยเทคโนโลยีนี้ยังมีวงจรหน้าจอสัมผัสอยู่บนแผง OLED โดยไม่ต้องใช้เลเยอร์แยกต่างหากส่งผลให้จอแสดงผลบางลง และลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย
2. รองรับสี 10 bit
iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะมีหน้าจอแสดงผลที่รองรับสี 10 bit สีสันสดใสมากขึ้น รวมไปถึงรุ่นเล็กจะไม่รองรับอัตรารีเฟรช 120Hz ในขณะที่ iPhone 12 mini จะไม่มีฟีเจอร์นี้
3. หน้าจอใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา
iPhone 12 Pro Max เป็นรุ่นท็อปสุดของ iPhone 12 ซีรีส์ มีหน้าจอ OLED จาก Samsung Display ขนาด 6.7 นิ้ว ถือเป็น iPhone ที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยตามข่าวลือบอกว่ามีความละเอียดหน้าจอ 2778 x 1284 พิกเซล 458ppi
4. iPhone ที่เล็กที่สุด
iPhone 12 mini ตามข่าาลือบอกว่าจะมีหน้าจอ OLED จาก Samsung Display ขนาด 5.4 นิ้ว ซึ่งจะเป็น iPhone ที่มีขนาดตัวเครื่องเล็กที่สุด (ไม่ใช่หน้าจอเล็กที่สุด) เพราะว่าหน้าจอเต็มขอบโดยไม่มีปุ่มโฮมเหมือนรุ่นเก่าในอดีต และความละเอียดหน้าจอ : 2340 x 1080 พิกเซล 475ppi และรองรับ 8-bit
5. กล้อง 12 ล้านเหมือนเดิม ที่ไม่เหมือนเดิม
iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะใช้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล โดยอัปเกรดให้เซ็นเซอร์มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยให้การรับแสง, คมชัดขึ้น และถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีกว่าเดิม มีการพัฒนาระบบโฟกัสอัตโนมัติ มีฟีเจอร์ Smart HDR ให้ใช้งานร่วมกับโหมดมืดได้ดีกว่าเดิม และอาจถ่ายวิดีโอ 4K@120fps ได้ และ Slow Motion สูงสุดที่ 4K@240fps
6. LiDAR Scanner
มีข่าวลือว่า LiDAR Scanner ที่เปิดตัวมาพร้อม iPad Pro เมื่อต้นปี จะถูกติดตั้งมาในรุ่น iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max เท่านั้น ซึ่งรุ่นราคาไม่แพงอย่าง iPhone 12 mini ก็จะไม่มีให้ใช้งาน โดย LiDAR Scanner เป็นเทคโนโลยีทีทำงานบนหลักการของกล้อง ToF สำหรับตรวจจับพื้นที่ในรูปแบบ 3 มิติ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้งานด้านการออกแบบของสถาปานิก แต่สำหรับ iPhone คาดว่าจะเน้นไปที่เรื่อง AR และการถ่ายรูปที่เก็บรายละเอียดความชัดลึกชึดตื้นได้ดีมากขึ้น
7. เลนส์ Telephoto
iPhone 12 Pro และ iPhone Pro Max จะมีเลนส์กล้องหลัง 3 ตัว หน้าตาก็จะคล้ายกับ iPhone 11 Pro โดยเป็นเลนส์มุมกว้าง เลนส์มุมกว้างพิเศษ และ Telephoto สำหรับใช้ในการซูม
8. กล้อง Ultra Wide มีกันสั่น
iPhone 12 Pro Max รุ่นท็อปสุดระดับไฮเอนด์ที่มีข่าวลือว่าจะมาพร้อมเทคโนโลยีกันสั่นพอเศษสำหรับป้องกันภาพสั่นไหวในเลนส์มุมกว้างพิเศษหรือ Ultra Wide ด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้จะไม่มีในรุ่นรองหรือรุ่นเล็ก iPhone 12 mini
9. ถ่าย Macro ได้
ครั้งแรกที่เราอาจได้เห็นฟีเจอร์โหมดการถ่ายรูประยะใกล้หรือการถ่าย Macro ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากเลนส์ Ultra Wide มาช่วยในการถ่ายนั่นเอง ซึ่งหากมีให้ใช้งานจริงใน iPhone 12 ก็น่าจะถูกใจแฟนๆ กันอย่างแน่นอน
10. Face ID ที่รวดเร็ว
ด้วยรอยบากที่เล็กลง ทำให้พื้นที่ในการติดตั้งเซ็นเซอร์สำหรับใช้งาน Face ID ก็เล็กลงไปด้วย โดยมีข่าวลือออกมาว่า Apple ได้พัฒนาให้ระบบดังกว่าวทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม โดยรอยบากอาจจะเล็กลงแค่เฉพาะรุ่น 5.4 นิ้ว ใน iPhone 12 Mini เพราะมีขนาดที่เล็ก ซึ่งอาจทำให้ประสบความสำเร็จในการย่อชิ้นส่วนในกล้องหน้าตามไปด้วย แต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงตามเช่นกัน
11. ชิปเซ็ต A14 Bionic
iPhone 12 ทุกรุ่นจะมาพร้อมชิปเซ็ต Apple A14 Bionic ที่มีกระบวนการผลิต 5 นาโมเมตร ซึ่งลือกันว่าเป็นชิปเซ็ตที่เร็วแรงที่สุดในโลกบนมือถือในขณะนี้ รวมไปถึงมีประสิทธิภาพในการลดใช้พลังงานได้ดีอีกด้วย
12. Hi, Speed รองรับ 5G
มีข่าวลือว่า iPhone 12 Pro Max จะเป็นรุ่นเดียวที่มี mmWave 5G ที่รองรับสปีดที่เร็วขึ้น ในขณะที่ Sub-6GHz 5G ซึ่งช้ากว่าจะถูกใส่มาใน iPhone 12 mini ด้วยขนาดที่เล็กและราคาไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับ iPhone 12 รุ่นใหญ่ที่มีพื้นที่ภายในเพียงพอที่จะออกแบบเสาอากาศที่จำเป็นในการใช้ mmWave รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับการใช้พลังงานสำหรับการเชื่อมต่อดังกล่าว
สำหรับ iPhone 12 คาดว่าจะมีการเปิดตัวทั้ง 4 รุ่น โดยจะเราจะได้ทราบกันแล้วในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ เวลา 00.00 น. ตามเวลประเทศไทย (คืนวันที่ 13 ตุลาคมนี้)