แนะนำ 12 มือถือน่าซื้อ น่าใช้ ฟีเจอร์โดนใจ เดือนพฤศจิกายน 2019

สมาร์ทโฟนน่าซื้อ น่าใช้ ที่มาพร้อมฟีเจอร์โดนใจประจำเดือนพฤศจิกายน 2019 บอกเลยว่ามีออกมาใหม่กันทุกค่ายเลย จะมีรุ่นใดน่าสนใจบ้างนั้น มาดูกัน!

Samsung Galaxy A50s (RAM 4GB + 64GB) ราคา 8,990 บาท

หลังจากวางจำหน่ายรุ่นแรม 6GB ไปได้ไม่นาน ก็มีอีกรุ่นตามมาสำหรับ Galaxy A50s แรม 4GB + 64GB สมาร์ทโฟนระดับกลางที่ให้สเปคมาแบบจัดเต็มคุ้มราคา ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่สีสันสดใส Super AMOLED กล้องหลัง 3 เลนส์ถ่ายชัดในทุกมุมมอง และซีพียูเร็วแรง Exynos 9610

OPPO Reno2 (RAM 8GB + 256GB) ราคา 17,990 บาท

OPPO Reno2 สมาร์ทโฟนดีไซน์สวย วัสดุพรีเมี่ยม หน้าจอใหญ่เต็มตา สีสันคมชัดด้วยหน้าจอแบบ Sunlight AMOLED FHD+ ซีพียู Qualcomm Snapdragon 730G และ Adreno 618 ใช้งานทั่วไปและเล่นเกมกราฟิกสวยๆ ได้สบาย มาพร้อม RAM 8GB ใช้งานได้ลื่นๆ ROM 256GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256GB

ด้านการถ่ายรูปจัดเต็มทุกฟีเจอร์ด้วยกล้องถ่ายรูปหลัง 4 เลนส์ ครบทุกระยะในการถ่ายรูป ระบบโฟกัสทำงานได้รวดเร็ว ไม่หน่วง และอัพเกรดเพิ่มฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอ กล้องหน้า Pivot Rising Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซลฟี่สวยคมชัด และแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh รองรับ VOOC 3.0 Flash Charge 20W

Huawei Mate 30 Pro (RAM 8GB + 256GB) ราคา 28,990 บาท

Huawei Mate 30 Pro ปฏิวัติวงการด้วยกล้องถ่ายภาพ 4 กล้อง ประกอบไปด้วยกล้อง Cine Camera ความละเอียด40 ล้านพิกเซล, กล้อง SuperSensing ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้อง 3D Depth Sensing โดยกล้อง Cine Camera ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.54 นิ้ว บันทึกวิดีโอด้วยช่วงการรับแสงที่กว้าง บนความละเอียดขนาด 4K 60 FPS  รองรับความไวแสงในการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ ISO 51200 และยังรองรับการถ่ายวิดีโอ Ultraslow-motion สูงสุดที่ระดับ 7680 FPS และการถ่าย Time-lapse แบบอัลตราไวด์ในสภาพแสงน้อยบนความละเอียด 4K และสามารถสร้างโบเก้แบบเรียลไทม์ ขณะทำการบันทึกวิดีโอได้อีกด้วย

แม้ว่าจะไม่มี Google Services แต่ Huawei เองก็ได้พัฒนาและผลักดัน Huawei Mobile Services (HMS) แพลตฟอร์มอัจฉริยะที่ผสานทุกการทำงานให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อยกระดับการประมวลผลและการเชื่อมต่อที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของหัวเว่ยอีโคซิสเต็มและทำงานร่วมกับ HUAWEI Mate 30 Pro หรือสมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวซ์รุ่นอื่นๆ ให้ได้รับความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

OPPO A5 2020 4GB (RAM 4GB + 128GB) ราคา 6,990 บาท

OPPO A5 2020 4GB มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว ที่สามารถเก็บภาพมุมกว้างถึง 119 องศา ด้วย Ultra Wide Angle และถ่ายภาพได้อย่างคมชัด เก็บรายละเอียดได้แม้ในที่แสงน้อยด้วย Ultra Night Mode 2.0 พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 665, RAM 4 GB ROM 128 GB อีกทั้งใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันด้วย แบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่สามารถชาร์จไฟให้เครื่องอื่นได้ด้วยฟีเจอร์ Reverse Charging

Vivo Y19 (RAM 6GB + 128GB) ราคา 6,999 บาท

Vivo Y19 มาพร้อมหน้าจอ FHD+ Halo FullView Display ขนาด 6.53 นิ้ว กล้องหน้าซ่อนอยู่ในหน้าจอทรงหยดน้ำ ขอบหน้าจอแคบลง ให้พื้นที่หน้าจอสูงถึง 90.3 % มอบความเพลิดเพลินในการรับชมที่เหนือกว่า

ฟีเจอร์ถ่ายการถ่ายรูปจ้ดเต็มแบบ AI Triple Camera  กล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล กล้อง super wide-angle และ bokeh 8 ล้านพิกเซล กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล ด้วยฟังก์ชั่นกล้องที่หลากหลาย ทำให้การถ่ายภาพในชีวิตประจำวันครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ถ่ายภาพสวย ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่คลิกเดียว

Vivo Y11 (RAM 3GB + 32GB) ราคา 3,999 บาท

Vivo Y11 สมาร์ทโฟนกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายได้สวยเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงการเบลอฉากหลังแบบ Bokeh ที่ทำได้เนียนตาอย่างมากสำหรับราคาระดับนี้ กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มี AI Face Beauty คอยประมวลผลให้อัตโนมัติ

Y11 มาพร้อมหน้าจอ Halo FullView Display กว้าง 6.35 นิ้ว ใช้งานได้แบบเต็มตา แบตเตอรี่อึดมากๆ ด้วยความจุ 5000mAh เล่นได้ทั้งวันก็ยังเหลือ และหน่วยประมวลผล Snapdragon 439, RAM 3GB + ROM 32GB ถือว่าให้มาได้เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปและไหลลื่นอย่างแน่นอน

OnePlus 7T (RAM 8GB + 128GB) ราคา 17,990 บาท

OnePlus 7T ที่สุดของความลื่นไหลบนหน้าจอสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม พร้อมให้คุณจับจองเป็นเจ้าของก่อนใคร ด้วยหน้าจอ Fluid Display กว้าง 6.55 นิ้ว พร้อมความคมชัดระดับ HDR10+ ที่มี refresh rate 90Hz ทำให้แสดงผลภาพได้สมูท เนียนตา และสีสดคมชัด

7T มาพร้อมชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 855+ มี RAM 8GB หน่วยความจำภายในความจุ 128GB แบบ UFS 3.0 รองรับระบบปฏิบัติการ Android 10 ความจุแบตเตอรี่ 3,800 mAh และระบบชาร์จไวอย่าง Warp Charge 30T ทำให้เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด

ด้านการถ่ายรูปมาพร้อมกล้องหลังแบบ Triple Lens ที่มีความละเอียดชัดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล พร้อมกับเลนส์ Ultra Wide Angle และเลนส์ Telephoto ที่สามารถซูมได้ 2 เท่า โดย OnePlus 7T มี 2 สีดีไซน์ให้เลือกคือ Glacier Blue และ Frosted Silver เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม การถ่ายภาพ และดูหนังฟังเพลงอย่างเต็มอรรถรส

OnePlus 7T Pro (RAM 8GB + 256GB) ราคา 26,990 บาท

OnePlus 7T Pro สมาร์ทโฟนหน้าจอแสดงผล Fluid Display ที่มี Refresh Rate 90Hz ทำให้เล่นได้ไหลลื่นมากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป กล้องหลัง 3 เลนส์ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล ถ่ายได้คมชัด มีหลากหลายฟีเจอร์ทั้ง Nightscape 2.0, Ultra Wide Angle และ Macro 2.5 ซม. ใช้งานได้เร็วแรงด้วยหน่วยประมวลผลระดับท็อป Snapdragon 855+ ควบคู่กับ RAM 8GB และ ROM 256GB แบบ UFS 3.0

7T Pro มีแบตเตอรี่ความจุเยอะที่ 4085mAh พร้อมเทคโนโลยี Warp Charge 30T ที่ชาร์จได้รวดเร็วมาก และมีระบบเสียงผ่านลำโพงสเตอริโอคู่แบบ Dolby Atmos แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 รุ่นแรกของโลก

OnePlus 7T Pro McLaren Edition (RAM 12GB + 256GB) ราคา 29,990 บาท

OnePlus 7T Pro McLaren Limited Edition สุดยอดสมาร์ทโฟนเรือธง Super Flagship ที่แฟนๆ OnePlus และ McLaren ตัวจริงไม่ควรพลาดด้วยดีไซน์ฝาหลังที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการตกแต่งภายในของรถ McLaren พร้อมกับ Protective case และ User Interface ที่ถูกออกแบบมาพิเศษเพื่อเฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น

7T Pro McLaren มาพร้อม พร้อม RAM 12 GB ที่เร็วแรง ชิปเซ็ทขุมพลัง Snapdragon 855+ และค่าการแสดงผลภาพลื่นไหลที่สุด ไม่มีสะดุด ทรงพลังยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอที่มีค่ารีเฟรชเรทหน้าจอที่ 90 Hz

Sony Xperia 5 (RAM 6GB + 128GB) ราคา 25,990 บาท

Sony Xperia 5 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล OLED แบบ CinemaWide ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2520 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 21:9, รองรับการแสดงผล HDR และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6 ภายในขับเคลื่อนผ่านขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 855 Octa Core, RAM 6GB ควบคู่กับ ROM 128GB และแบตเตอรี่ความจุ 3,140mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W

ด้านกล้องก็มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ความละเอียด 12 (เลนส์หลัก f/1.6) + 12 (Ultra-Wide) + 12 (Telephoto) ล้านพิกเซล รองรับระบบกันสั่นไหวทั้ง OIS/EIS ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

Redmi Note 8 Pro (RAM 6GB + 128GB) ราคา 8,999 บาท

Redmi Note 8 Pro มาพร้อมกับหน้าจอ LCD กว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 แถมจัดขุมพลัง MediaTek Helio G90T มาเป็นรุ่นแรกของโลกอีกด้วย ความจุ 6+64 GB, 6+128 GB และ 8+128 GB มีแบตเตอรี่ 4,500 mAh และรองรับ Fast Charge 18W เหมือนกัน ทั้งนี้ ภายในยังมีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ (Liquid Cooling Chamber) มาให้อีกต่างหาก

ด้านการถ่ายรูปมาพร้อม 4 เลนส์ โดยมีความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซลเซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL Bright GW1 ส่วนอีก 3 เลนส์ที่เหลือจะเหมือนกับ Redmi Note 8 ส่วนเรื่องกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 20 ล้านพิกเซล โดยมีความพิเศษที่สามารถจดจำฉากและหมวดหมู่ด้วย AI ได้เหมือนกล้องหลังเลย

Redmi Note 8 (RAM 4GB + 128GB) ราคา 6,999 บาท

Redmi Note 8 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลทรงหยดน้ำ LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 665 Octa-Core สถาปัตยกรรม 11 นาโนเมตร เพื่อประหยัดพลังงานมากขึ้น มีความเร็วที่ 2.2 GHz, มีความจุ 4+64 GB, 6+64 GB และ 6+128 GB มีแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W ด้วยพอร์ต USB Type-C

ด้านกล้องหลัง Redmi Note 8 จัดเต็มด้วยกล้อง 4 เลนส์ความละเอียดเลนส์หลักอยู่ที่ 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL GM2 + เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + เลนส์ Macro และเลนส์ Depth อีกอย่างละ 2 ล้านพิกเซล ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับสมาร์ทโฟนน่าซื้อน่าใช้รุ่นใหม่ประจำเดือนพฤศจิกายน 2019 ซึ่งก็มีหลายระดับราคาให้เลือกใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของเรา และที่สำคัญคือทุกรุ่นก็มีฟีเจอร์ด้านการถ่ายรูปที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวันทุกรุ่นเลย