เผยโฉม Nintendo Switch 2 ทางการ พร้อม 15 รายละเอียดน่าสนใจจากคลิปเปิดตัวแรก! (มีคลิป)

Nintendo Switch เผยโฉมทางการออกมาเรียบร้อย ยืนยันการมีอยู่และชื่อจริงของตัวเครื่องหลังจากที่ลือกันมาอย่างยาวนาน โดยในคลิปนี้จะยังไม่มีรายละเอียดบอกแบบตรง ๆ เลย แต่ก็มีจุดที่น่าสนใจให้วิเคราะห์อยู่เพียบครับ

วันนี้เราก็ขอรวมเอา 15 รายละเอียดน่าสนใจของ Nintendo Switch 2 มาฝากกันสักหน่อย มีอะไรบ้าง มาเริ่มกันเลย!

1.หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นของ Switch 2

เริ่มที่เรื่องหน้าจอเลย เพราะในคลิปเราจะเห็นว่า Nintendo นำเสนอตั้งแต่ต้นคลิป ว่า Switch 2 นั้นมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นรวมถึงหน้าจออย่างชัดเจน ตามรายงานก่อนหน้านี้คาดว่าจะมีขนาดถึง 8.4″ ใหญ่ขึ้นจาก 6.2″ (รุ่นแรก) และ 7″ (รุ่น OLED) พอสมควรเลย แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าจอของ Switch 2 นั้นจะใช้เป็น LCD หรือ OLED กันแน่ คงต้องรอข้อมูลกันต่อไปครับ

2.ปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์วัดความสว่าง (หรือเอาออก)

ที่ตัวหน้าจอเรายังเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ เพราะ Switch 2 นั้นจะไม่มีรูเซ็นเซอร์วัดความสว่างแล้วนะ ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนตำแหน่งไปอยู่มุมอื่น ซ่อนไว้สักที หรือเอาออกไปเลยก็เป็นได้ครับ

3.บอดี้มีพื้นผิวระยิบระยับขึ้น

บอดี้ของ Siwtch 2 อาจมีการเปลี่ยนพื้นผิวเป็นผิวทรายแทนผิวเรียบ ๆ ของรุ่นแรก สังเกตจากในคลิปเราจะเห็นภาพ Close-up ที่เห็นถึงความระยิบระยับเมื่อสะท้อนกับแสงด้วยนะ

4.มีพอร์ต USB-C สองพอร์ตแล้ว

ในคลิปเราจะเห็นว่า Switch 2 มีพอร์ต USB-C มาให้ 2 พอร์ตแล้ว แบ่งเป็นพอร์ตหลักที่ด้านล่างตัวเครื่อง และเพิ่มอีกพอร์ตเข้ามาที่ด้านบนข้างช่องหูฟัง 3.5 มม. ซึ่งน่าจะเข้ามาเสริมการชาร์จเวลาเล่นแบบ Handheld ได้สะดวกขึ้นแน่นอน หรืออาจรองรับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ในอนาคตได้ด้วย

5.ขาตั้งดีไซน์ใหม่

Switch 2 ยังคงมีขาตั้งติดตัวเครื่องเหมือนเดิม แต่รอบนี้เราจะเห็นว่าใช้ดีไซน์แบบใหม่ รูปทรงตัว C ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นแรก ให้ความมั่นคงกว่าเดิมเวลาตั้งใช้งาน

6.ขาตั้งปรับองศาได้มากขึ้น

นอกจากนี้ตัวขาตั้งใหม่นี้ยังสามารถปรับองศาให้ลงต่ำได้มากขึ้นด้วย จากในคลิปเราจะเห็นว่าแทบจะนอนราบได้เลย ยืดหยุ่นในการใช้งานกว่าที่เคย

7.Joy-Con ที่อัปเกรดครั้งใหญ่

มาต่อกันที่เรื่อง Joy-Con แม้ภายนอกจะมีรูปทรงคล้ายเดิม แต่จากในคลิปเราจะเห็นการปรับเปลี่ยนบางอย่างเข้ามาอีกมีแถบสีเข้ามารองตัวอนาล็อกที่เจอปัญหาจอยดริฟท์ ปุ่ม L R มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึง SL SR ที่เพิ่มพื้นที่ขึ้นมา น่าจะช่วยให้เรากดได้ง่ายเวลาใช้งานแยกเป็นแต่ละข้างด้วย

8.มีปุ่มใหม่บน Joy-Con ฝั่งขวาด้วย

ที่ Joy-Con ฝั่งขวาจะเห็นว่า มีปุ่มใหม่เพิ่มเข้ามาล่างปุ่มโฮม จากข่าวลือคาดว่าปุ่มนี้จะเป็นปุ่มที่อนุญาตให้ผู้ใช้สตรีมไปยังทีวีแบบไร้สายจากโหมด Handheld หรืออาจเปิดใช้การแชทด้วยเสียงได้ด้วย

9.Joy-Con ใหม่ใช้แบบแปะ ไม่ใช่สไลด์แล้ว

บน Switch รุ่นแรกจะใช้การถอด-ใส่ Joy-Con ด้วยการกดปุ่มแล้วเลื่อนออก แต่บน Switch 2 เราจะเห็นว่าเป็นการแปะเข้าหาตัวเครื่องแทน ซึ่งนอกจากพอร์ตที่อยู่กับเครื่องแล้ว น่าจะใช้กลไกของแม่เหล็กเข้ามาเสริมด้วย เพื่อให้สะดวกกว่าเดิมนั่นเอง

10.ยืนยันมีฟีเจอร์ Backwards compatibility เล่นเกมจากเครื่องเก่าได้

ในช่วงท้ายคลิป Nintendo จะยืนยันชัดเจนว่า Switch 2 นั้นจะสามารถเล่นเกมเก่าจาก Switch รุ่นแรกได้ แม้ไม่ใช่ทุกเกม แต่สามารถเล่นได้ทั้งรูปแบบ Digital กับแบบแผ่นจริง ๆ เท่ากับว่าเกมส่วนใหญ่ท่ีเราเคยซื้อจะยังเล่นได้ต่อบนเครื่องใหม่นั่นเองครับ

11.โลโก้ Switch 2 เรียบง่ายและชัดเจน

ในคลิปนี้เราจะได้เห็นโลโก้ของ Switch 2 ด้วย ซึ่งก็เรียบง่ายเลยคือใช้โลโก้เดิมเติมเลข 2 เข้าไป เพื่อเป็นการย้ำชัดเจนว่านี่คือรุ่นใหม่ ไม่เหมือนตอน Wii เปลี่ยนมาเป็น Wii U ที่หลายคนสับสนว่านี่คือรุ่นใหม่หรือแค่อุปกรณ์เสริมกันแน่

12.Mario Kart อวดโฉมเป็นเกมแรก

นอกจากตัวฮาร์ดแวร์เครื่องแล้ว ในคลิปนี้เรายังได้เห็นเกมแรกที่โปรโมทพร้อม Switch 2 ด้วยคือเกม Mario Kart นั่นเอง แม้จะไม่ได้เห็นรายละเอียดอะไรนอกจากตัวละครมาดริฟโชว์ก็เถอะ

13.มี Grip มาให้ใช้คู่กับ Joy-Con เหมือนเดิม

ในคลิปเราจะได้เห็นตัว Grip ที่เชื่อมกับ Joy-Con ได้เหมือนเดิม เพื่อการใช้งานที่จริงจังเวลาต่อเข้ากับทีวี ซึ่งแน่นอนว่าจะใช้การเชื่อมกันแบบแม่เหล็กเช่นเดียวกับเชื่อมกับตัวเครื่องนั่นแหละ

14.ต้องมีสายรัดข้อมืออีกนั่นแหละ

แม้ในคลิปเราจะยังไม่ได้เห็นตัว Wrist-Strap หรือสายรัดข้อมือ แต่เชื่อว่า Switch 2 จำเป็นต้องมีสายไว้รัดมาให้ใช้ร่วมกับ Joy-Con เหมือนเดิม กันหลุดมือ เพราะเกมส่วนใหญ่ยังเล่นของ Switch แรกได้นี่เนอะ

15.Dock ดีไซน์ใหม่

และสุดท้าย Switch 2 มีการเปลี่ยนตัว Dock ใหม่ แม้จะคล้ายกับรุ่นก่อน แต่จะมีขอบโค้งมนที่ด้านบนและโลโก้ใหม่โชว์อย่างชัดเจนเข้ามาแทนนั่นเอง

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเบื้องต้นจากคลิปเผยโฉมเท่านั้น รายละเอียดจริง ๆ อาจจะต้องรอในงาน Nintendo Direct 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2 เมษายนนี้อีกทีครับผม

ที่มา : Gamespot