มือถือใหม่ น่าซื้อ น่าใช้ มาพร้อมฟีเจอร์แบบจัดเต็มระดับเรือธง และสเปคสุดคุ้มราคาจับต้องกันได้มากขึ้น วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net รวบรวมมาให้แล้ว ไปดูกันว่ามีรุ่นใดน่าสนใจบ้าง
- iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
- iPhone 13 และ iPhone 13 mini
- vivo Y33s
- vivo X70 และ X70 Pro
- realme C25s
- Samsung Galaxy A52s 5G
- Xiaomi 11T และ 11T Pro
- Xiaomi 11 Lite 5G NE
- OPPO Reno6 5G
- Redmi 10
- Nokia G50
iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มาพร้อมหน้าจอ Super Retina XDR และเทคโนโลยี ProMotion รองรับอัตรารีเฟรช 120Hz ทำให้การใช้งานบนหน้าจอนั้นมีความลื่นไหลและการเคลื่อนไหวของภาพมีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มีกล้องหลักหรือเลนส์ Wide ที่มีรูรับแสงกว้าง f/1.5 ทำให้การเก็บแสงขณะถ่ายภาพทำได้ดีมากขึ้น สามารถถ่ายภาพระยะใกล้สุดเพียง 2 ซม. หรือการถ่ายมาโครนั่นเอง ทำได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ และกล้องซูมออปติคอลได้ 3X
iPhone 13 และ iPhone 13 mini
iPhone 13 มาพร้อมจอภาพ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว และ iPhone 13 mini มีหน้าจอขนาด 5.4 นิ้ว ทั้งสองรุ่นใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ A15 Bionic ตัวเครื่องทนน้ำทนฝุ่นที่ระดับ IP68
นอกจากนี้แล้วก็มาพร้อมระบบกล้องคู่ ความละเอียด 12MP เป็นเลนส์ไวด์และอัลตร้าไวด์ สามารถถ่ายโหมดภาพยนตร์สำหรับการบันทึกวิดีโอที่มีมิติความชัดตื้น
vivo Y33s
vivo Y33s มาพร้อม RAM 8GB + 4GB Extended RAM ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G80 และหน้าจอใหญ่เต็มตาขนาด 6.58 นิ้ว FHD+ incell กล้องหลังความละเอียด 50MP จัดเรียงแบบ Dual Tone Step
นอกจากนี้แล้วก็มาพร้อม FuntouchOS 11.1 บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ดีไซน์ที่เบาบางเพียง 8.0 มม. กับตัวเครื่องขอบจอโค้ง 2.5D และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh และ vivo Energy Guardian (VEG) ตัวจัดการพลังงานอัจฉริยะ
vivo X70 และ X70 Pro
vivo X70 และ X70 Pro มีหน้าจอขนาด 6.56 นิ้ว FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz, HDR10+ โดดเด่นด้วยการจัดวางรูปแบบกล้องแบบ Cloud Valley ที่ไม่เหมือนใคร ฝาหลังใช้เทคโนโลยี fluorite AG ใหม่ ให้รูปลักษณ์ที่สวยงาม ถือใช้งานได้สะดวกสบายและไม่เกิดรอยนิ้วมือ
ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200 และแบตเตอรี่ชาร์จเร็ว 44W โดยในรุ่น Pro จะมีกล้อง 8 MP ที่เพิ่มเข้ามาแบบ Periscope สามารถซูมได้ 5x แบบออปติคอล
realme C25s
realme C25s มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ ชนิด LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ภายในขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Helio G85 แบตเตอรี่ 6000mAh รองรับ 18W Quick Charge และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0
กล้องหลังมี 3 เลนส์ AI Triple Camera ความละเอียด 13MP + 2MP (B&W) + 2MP (Macro) ขณะที่กล้องหน้า In-display Selfie มีความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.0
Samsung Galaxy A52s 5G
Samsung Galaxy A52s 5G สมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ทุกมิติของการทำคอนเทนต์อย่างแท้จริง นำโดยฟีเจอร์กล้องสุดล้ำอย่าง Single Take ที่สามารถเก็บครบทุกโมเมนต์พิเศษได้ในช็อตเดียวด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP วิดีโอคมชัดระดับ 4K UHD
ตัวเครื่องมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 778G ขนาด 6nm ตอบโจทย์การใช้งานในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรือเกมเมอร์ โดยชิปเซ็ตใหม่นี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ดีไปอีกขั้น
Xiaomi 11T และ 11T Pro
Xiaomi 11T Pro สมาร์ทโฟนเครื่องแรกของเสียวหมี่ที่วางจำหน่ายทั่วโลกด้วยเทคโนโลยี 120W Xiaomi HyperCharge มาพร้อมชิปเซ็ตระดับแฟล็กชิป Qualcomm Snapdragon 888 และกล้องระดับโปรที่ความละเอียด 108MP
Xiaomi 11T มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ความละเอียดระดับ HDR10+ ขนาด 6.67 นิ้ว พร้อมทั้งรีเฟรชเรท 120Hz กล้องหลักเลนส์ไวลด์ความละเอียด 108MP ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200 และแบตเตอรี่ 5000mAh เทอร์โบชาร์จ 67W
Xiaomi 11 Lite 5G NE
Xiaomi 11 Lite 5G NE มาพร้อมกับความบางเบาเพียง 6.81 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 158 กรัม หน้าจอ AMOLED DotDisplay ขนาด 6.55 นิ้ว รองรับ TrueColor ระดับ 10-bit
นอกจากนี้แล้วก็มีกล้องความละเอียด 64MP ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 778G มีแบตเตอรี่ขนาด 4250mAh และมาพร้อมกับระบบฟาสชาร์จ 33W
OPPO Reno6 5G
OPPO Reno6 5G มีดีไซน์พรีเมียมและบางเฉียบ Ultra-slim Retro Design พร้อมกับเทคนิค Reno Glow ที่ให้ความเปล่งประกายสวยสะดุดตา และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 และการเชื่อมต่อ 5G
ตัวเครื่องมีกล้อง AI สามารถถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพได้โดยง่ายดายด้วยฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait Video ที่ช่วยเบลอแสงไฟพื้นหลังแบบเรียลไทม์ให้เป็นดวงไฟโบเก้ระยิบระยับในความตื้นลึกที่แตกต่างกัน
Redmi 10
Redmi 10 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และ Refresh Rate 90Hz ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Helio G88 มีแบตเตอรี่ 5000mAh รองรับ 18W Fast Charging
กล้องหลังมีให้ 4 เลนส์ความละเอียด 50MP + 8MP (Ultra-Wide 120 องศา) + 2MP (Macro) + 2MP (Depth) ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 8MP และมาพร้อม Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5
Nokia G50
Nokia G50 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล LCD แบบ V-Notch Display ขนาดใหญ่ถึง 6.82 นิ้ว ความละเอียด HD+ ภายในขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 480 5G และมีแบตเตอรี่ 5000mAh รองรับ 18W Quick Charge
กล้องหลังมีทั้งหมด 3 เลนส์ ความละเอียด 48MP + 5MP (Ultra-Wide Angle) + 2MP (Depth) และกล้องหน้า 8MP ในไทยมีให้เลือกเพียงสีเดียว ได้แก่ สีฟ้า Ocean Blue
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับมือถือใหม่ในเดือนตุลาคม 2021 น่าซื้อ น่าใช้งานทุกรุ่นเลย มีตั้งแต่รุ่นเรือธงสเปคจัดเต็มและรุ่นเล็กราคาประหยัดสำหรับคนมีงบจำกัด ลองเลือกรุ่นใช่กันดูนะครับ