ปี 2024 มีสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ที่หลากหลายและครบเครื่องที่สามารถจบได้ในเครื่องเดียว โดย Xiaomi 14T Series ที่มีด้วยกันสองรุ่น คือ Xiaomi 14T และ Xiaomi 14T Pro ได้มอบประสบการณ์ระดับ Masterpiece ตั้งแต่เรื่องของดีไซน์ ประสิทธิภาพ กล้องที่ร่วมการพัฒนากับ LEICA และราคาที่จับต้องได้จริงๆ ซึ่งเราได้รวบรวม 5 เหตุผลที่ทำให้ทั้งสองรุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนแห่งปีไปครอง
1. การเก็บภาพระดับ Masterpiece ด้วยเลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX
Xiaomi 14T Series มาพร้อมการถ่ายภาพระดับ Masterpiece ด้วยชุดเลนส์ LEICA VARIO-SUMMILUX หลายระยะแบบมืออาชีพ มีความยาวโฟกัสครอบคลุมระยะที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด จับคู่กับความเชี่ยวชาญในการปรับแต่งโดยละเอียด
Xiaomi 14T Pro ให้เซ็นเซอร์กล้องหลัง LEICA VARIO-SUMMILUX 1:1.6-2.2/15-60 ASPH แบบ 3 เลนส์ ดังนี้
- กล้องหลัก 23 มม. : 50MP เซ็นเซอร์ Light Fusion 900 ซูเปอร์พิกเซล 2.4μm, ƒ/1.6 และรองรับกันสั่น OIS
- กล้อง Telephoto 60 มม. : 50MMP, ƒ/2.0
- กล้อง Ultra-Wide 15 มม. : 12MMP, ƒ/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
Xiaomi 14T ใช้เซ็นเซอร์กล้องหลัง LEICA VARIO-SUMMILUX 1:1.7-2.2/15-50 ASPH แบบ 3 เลนส์ ดังนี้
- กล้องหลัก 23 มม. : 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX906 ซูเปอร์พิกเซล 2.0μm, ƒ/1.7 และรองรับกันสั่น OIS
- กล้อง Telephoto 50 มม. : 50MMP, ƒ/1.9
- กล้อง Ultra-Wide 15 มม. : 12MMP, ƒ/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
เรียกว่าเลนส์ออปติคอล Summilux จาก Leica ของ Xiaomi 14T Series ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับรูรับแสงขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพด้านออปติคที่ยอดเยี่ยม ช่วยเก็บรายละเอียดของวัตถุต่างๆ ในหลายสภาพแสงได้เป็นอย่างดี มีสีสันและคอนทราสต์ที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างโดดเด่นทุกระยะ ทั้งยังได้เทคโนโลยี Xiaomi AISP ที่ผสานพลังทั้ง CPU, GPU, NPU และ ISP เข้าด้วยกันผ่านระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS โดยเป็นการทำงานระหว่างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์แบบไร้รอยต่อเพื่อสร้างการประมวลผลภาพขั้นสูงแบบ Masterpiece และเพิ่มประสิทธิภาพของการประมวลผลภาพตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วินาที
เรียกได้ว่าเราสามารถถ่ายภาพสวยๆ แบบจบหลังกล้องทั้ง Xiaomi 14T และ Xiaomi 14T Pro ได้ตามภาพตัวอย่างด้านล่างนี้เลยครับ
2. ดีไซน์พรีเมียมพร้อมมาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่น IP68
Xiaomi 14T Series ได้มอบประสบการณ์อันล้ำสมัยในรูปลักษณ์ระดับพรีเมียมที่ให้ผิวสัมผัสธรรมชาติ โดยมาด้วยกัน 3 สีหลัก ได้แก่ Titan Gray ที่ได้แรงบันดาลใจจากความงามของเนื้อแท้ของไทเทเนียม เผยพลังอันเป็นธรรมชาติของโลหะ, Titan Blue สีฟ้า-น้ำเงินเหลือบสีเงินที่ได้ความเปล่งประกายและความพรีเมียม และ Titan Black ผิวสัมผัสแบบผิวด้าน ได้แรงบันดาลใจจากหินแท้ที่แผ่ซ่านด้วยอารมณ์แห่งความไฮเทค เรียกว่าในแต่ละ 3 สี 3 สไตล์ เป็นการบ่งบอกถึงความสวยงามของแต่ละรูปแบบของตัวเครื่องและมีความเป็นเอกลักษณ์ของผู้ใช้งานแต่ละคน
Xiaomi 14T Pro
Xiaomi 14T
ความสวยงามของ Xiaomi 14T Series ได้กรอบข้างตัวเครื่องแบบเมทัลลิกอะลูมิเนียมอัลลอย มีความแข็งแรง สวยงาม และยังทนทานต่อการกระแทกต่างๆ ด้วย ที่สำคัญยังรองรับการกันฝุ่นและน้ำระดับ IP68 ที่สามารถกันน้ำได้ที่ความลึกสูงสุด 2 เมตร นานสูงสุด 30 นาที
3. มาพร้อมความฉลาดด้วย Advanced AI
Xiaomi 14T Series เสริมพลังของ AI ที่เป็นเทคโนโลยีหลักในสมาร์ทโฟนในปี 2024 ได้เป็นอย่างดี ด้วย Advanced AI ขั้นสูงที่ใช้การประมวลผลทั้งบนอุปกรณ์และบนคลาวด์เข้าด้วยกัน ทำให้เป็นตัวช่วยที่เร็วและง่ายที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน ใช้งานได้หลากหลาย ใช้งานได้หลายสถานการณ์ และเข้าถึงได้ง่ายมากๆ โดยเฉพาะกับการทำงานร่วมกับ Gemini ผู้ช่วย AI จาก Google ที่เป็นศูนย์กลางของ AI ที่ช่วยเหลือเราได้ตั้งแต่การเขียน การระดมความคิด การเรียนรู้ทั้งเรื่องข้อความและรูปภาพ และการช่วยเหลืออีกมากมาย
อีกทั้งยังมี Circle to Search เพียงแค่วงก็สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการบนหน้าจอได้เลยทันที ไม่ต้องเสียเวลาอัปโหลดหรือถ่ายภาพเพื่อค้นบน Google อีกต่อไป และก็ยังได้ฟีเจอร์ล่ามแปลภาษา AI ที่เป็นตัวช่วยได้เป็นอย่างดีและมีความเร็วระดับเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการคุยต่อหน้า การคุยโทรศัพท์ และการประชุมงานต่างๆ
4. จอแสดงผล AI ขนาดใหญ่ 6.67″ แบบ 144Hz
Xiaomi 14T Series มาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่ทรงพลังและขอบที่บางเป็นพิเศษทำให้มีขนาดใหญ่ถึง 6.67 นิ้ว ความละเอียดสูงพิเศษในระดับ 1.5K สีสันสวยงามด้วยพาเนลแบบ AMOLED แสดงผลมากถึง 6.8 หมื่นล้านสี ความสว่างสูงสุดถึง 4000 นิต ไหลลื่นด้วยอัตรารีเฟรช 144Hz พร้อมความอัจฉริยะของหน้าจอที่สามารถปรับอุณหภูมิสีและความสว่างแบบไดนามิกไปตามการใช้งานรูปแบบที่แตกต่างกันไปและช่วงเวลานั้นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดแสงสีฟ้าเพื่อปกป้องสุขภาพของดวงตาและประสบการณ์การรับชมภาพที่ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
5. ขุมพลังตัวแรงจาก MediaTek Dimensity
ในเรื่องประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนสมาร์ทโฟนก็เป็นอีกเรื่องที่ Xiaomi 14T Series ทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity โดย Xiaomi 14T Pro ใช้ MediaTek Dimensity 9300+ ที่เป็นสถาปัตยกรรม CPU แบบ All-Big-Core ความเร็วสูงสุดถึง 3.4GHz รวมถึง GPU Immortalis-G720 MC12 แบบ 12 คอร์ระดับเรือธง รองรับ Generative AI เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานขั้นสูงให้กับผู้ใช้งานด้วย
Xiaomi 14T ให้ประสิทธิภาพความแรงที่ไม่แพ้กันด้วยขุมพลัง MediaTek Dimensity 8300-Ultra ชิปประมวลผลเรือธงจากเทคโนโลยีการผลิต 4nm รุ่นที่ 2 ของ TSMC มอบประสบการณ์ระดับท็อปควบคู่ไปกับการประหยัดพลังงานขั้นสูง
คุ้มค่าในราคาที่จับต้องได้
เรียกว่า Xiaomi 14T Series เป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องที่ยังคงมอบประสบการณ์ระดับ Masterpiece ผู้ใช้งานต่อในปี 2025 โดยเราสามารถมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษให้กับคนพิเศษหรือผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ระดับเรือธงในราคาจับต้องได้ก็สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้
Xiaomi 14T มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Titan Black, Titan Blue, Titan Gray และ Lemon Green พร้อมด้วย 2 ความจุ ดังนี้
- 12GB+256GB : 15,990 บาท
- 12GB+512GB : 17,990 บาท
Xiaomi 14T Pro มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Titan Black, Titan Blue และ Titan Gray พร้อมด้วย 2 ความจุ ดังนี้
- 12GB + 512GB : 21,990 บาท
- 12GB + 1TB : 24,990 บาท
