Connect with us

Smart Review

Review : ZTE Axon ดีไซน์งามหรู, กล้องหลังคู่, มีสเแกนนิ้วมือและม่านตา

Published

on

ZTE Axon สมาร์ทโฟนดีไซน์สุดหรูหรา หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว Full HD มาพร้อมสเปคจัดเต็มด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 810 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2GHz และแรม 3GB ชูจุดเด่นด้วยกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเก็บทุกรายละเอียด แล้วเสริมอีกตัวด้วยกล้อง 2 ล้านพิกเซล เก็บระยะลึกตื้นเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด

ZTE AXON Elite Review-18

สรุปสเปค ZTE Axon (A2016)

  • ราคาเปิดตัว 17,900 บาท (มกราคม 2559)
  • ขนาดตัวเครื่อง 143 x 77 x 9.8 มม.
  • น้ำหนัก 170 กรัม
  • 3G : 850/900/1900/2100 MHz
  • 4G : 800/900/1800/2100 MHz
  • 2 ซิมการ์ด (Nano SIM + Nano SIM)
  • หน้าจอแสดงผล 5.5 นิ้ว OGS 1080p
  • รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop
  • ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810
  • ซีพียู Octa-core (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 2 GHz Cortex-A57) 
  • จีพียู Adreno 430
  • แรม 3 GB
  • ความจำภายในตัวเครื่อง 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 128GB (ใส่ช่องซิม 2)
  • กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล และแฟลช Dual LED
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
  • รองรับ Wi-Fi, Bluetooth 4.0
  • รองรับระบบ GPS, A-GPS
  • แบตเตอรี่ 3,000 mAh ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้ รองรับระบบชาร์จเร็ว
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
  • ปลดล็อคหน้าจอได้ด้วยการสแกนม่านตา

 

แกะกล่อง ZTE Axon (Unboxing)

ZTE AXON Elite Review-17

ZTE Axon มาในกล่องกระดาษสีขาวเรียบ ๆ โดยด้านหน้ากล่องจะมีช่องขนาดเท่ากับโมดูลกล้องหลังเพื่อจะโชว์จุดเด่นว่ารุ่นนี้มีกล้องหลัง 2 ตัว โดยไม่ต้องแกะกล่องดู

 

ZTE AXON Elite Review-02

อุปกรณ์ภายในกล่อง ได้แก่

  • ตัวเครื่อง ZTE Axon สีทอง พร้อมแบตเตอรี่ในตัว 3,000mAh
  • อะแดปเตอร์สำหรับแปลงไฟ
  • สายเคเบิล micro USB
  • หูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
  • เข็มสำหรับจิ้มช่องถาดใส่ซิม
  • คู่มือใช้งาน

ZTE AXON Elite Review-03

รุ่นนี้รองรับชาร์จเร็ว ตัวอะแดปเตอร์จึงเป็นรุ่นที่จ่ายไฟออกหรือจ่ายไฟเข้าชาร์จตัวเครื่องโทรศัพท์ได้สูงสุด 1.5A

 

ดีไซน์ ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

ZTE AXON Elite Review-07

เห็นชื่อกับสเปคแล้วอาจเกิดความสงสัยกันเล็กน้อย ขออธิบายว่า ZTE Axon หรืออีกชื่อก็คือ ZTE Axon Elite ซึ่งเป็นชื่อรุ่นสำหรับทำตลาดในบางประเทศ แต่ในไทยเรียก Axon เฉย ๆ เพราะว่านำเข้ามาเพียงรุ่นเดียว และอีกตัวก็เป็นรุ่นเล็กในชื่อ Axon mini

ZTE Axon มีดีไซน์ที่ดูสวยงามหรูราด้วยสีทอง วัสดุหลักเป็นโลหะอลูมิเนียมอัลลอยด์ โดยส่วนบนกับส่วนล่างเป็นพลาสติกที่มีการดีไซน์ให้ความรู้สึกเหมือนหนัง ซึ่งกว่าจะออกมากลมกลืนกันทั้งตัวเครื่องผ่านกระบวนการผลิตกว่า 320 ขั้นตอน

 

ZTE AXON Elite Review-19

ระหว่างส่วนที่เป็นโลหะอลูมิเนียมกับพลาสติกคล้ายหนัง จะมีช่องว่างระหว่างกันเล็กน้อย และข้อดีของพลาสติกทำให้รุ่นนี้ไม่มีเส้นเสาอากาศคาดเป็นแถบยาว ๆ ด้านหลังเหมือนหลาย ๆ รุ่นในตลาด

 

ZTE AXON Elite Review-01

ตัวเครื่องของ Axon ยังถูกออกแบบให้ด้านหลังโค้งเว้าเข้าหาขอบตัวเครื่องเพื่อให้ดูเหมือนกับว่าตัวเครื่องมีความบางขึ้น โดยแผงด้านหน้าบริเวณเหนือหน้าจอและล่างหน้าจอยังมีดีไซน์ลวดลายด้วย ขอเรียกว่าลายลูกไม้แล้วกัน ^^

 

ZTE AXON Elite Review-16

ขอบกระจกของรุ่นนี้มีความโค้งมนหรือที่เรียกกันว่า 2.5D และใช้เทคโนโลยี OGS ซึ่งเป็นการผสานระหว่างกระจกภาพและส่วนแสดงผลไว้เป็นชิ้นเดียว ช่วยให้ได้หน้าจอที่บางมากกว่าหน้าจอทั่ว ๆ ไป โดยในรุ่นนี้มีขนาดหน้าจอแสดงผล 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล ความหนาแน่นของจุดพิกเซลประมาณ 401 พิกเซลต่อนิ้ว ซึ่งคมชัดอย่างแน่นอน

 

ZTE AXON Elite Review-14

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์วัดแสง โดยช่องลำโพงสำหรับเสียงสนทนาซ่อนอยู่ในลายลูกไม้

 

ZTE AXON Elite Review-12

ล่างหน้าจอมีปุ่มนำทางแบบสัมผัส 3 ปุ่ม มีไฟสว่าง โดยปุ่มตรงกลางที่เห็นเป็นวงกลมนั้นเป็นปุ่มโฮม ส่วนอีก 2 ปุ่มซ้าย-ขวา จะเป็นปุ่มจุดเดียว สำหรับเป็นปุ่มย้อนกลับหรือปุ่มเมนู ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ ZTE ที่ทำปุ่มแบบจุดเพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกสลับการทำงานตามความถนัดได้ในเมนูตั้งค่า นอกจากนี้ลำโพงของรุ่นนี้ก็ถูกซ่อนอยู่ในลายลูกไม้ด้านล่างหน้าจอนั่นเอง

 

ZTE AXON Elite Review-09

ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

 

ZTE AXON Elite Review-11

ขอบด้านล่างมีพอร์ตเชื่อมต่อ micro USB สำหรับชาร์จแบตหรือถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายเคเบิล และไมโครโฟน

 

ZTE AXON Elite Review-08

ขอบด้านขวามีปุ่ม Power สำหรับปิด/เปิดเครื่อง หรือกดปิด/เปิดหน้าจอ

 

ZTE AXON Elite Review-10ZTE AXON Elite Review-04

ขอบด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง และช่องถาดใส่ซิม ซึ่งรุ่นนี้รองรับซิมขนาด Nano SIM ทั้ง 2 ช่อง หรือจะใส่ microSD card แทนช่องซิม 2 ก็ได้

 

ZTE AXON Elite Review-05

ด้านหลังมีเลนส์กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กับ 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED จำนวน 2 ดวง และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งฝาหลังไม่สามารถถอดออกเองได้ โดยภายในจะมีแบตเตอรี่ขนาดความจุ 3,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็วด้วย

 

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

ZTE AXON UI Review-03ZTE AXON UI Review-01

ZTE Axon รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop ในหน้าจอหลักสามารถลากวางไอคอนแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ รวมถึงการเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, วิดเจ็ตต่าง ๆ หรือเพิ่ม/ลบหน้าโฮมได้ และจะไม่มีในส่วนของ App Drawer ดังนั้นแอพพลิเคชั่นตัวทุกจะถูกจัดเรียงไว้ในหน้าโอมทั้งหมด

 

ZTE AXON UI Review-02

ลากแถบด้านบนลงมาจะเป็นในส่วนของการแจ้งเตือน และแผงควบคุมการทำงานต่าง ๆ โดยไอคอนต่าง ๆ ในส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้

 

ZTE AXON UI Review-04

Task Manager เป็นตัวที่มากับ Android สำหรับเลือกสลับการใช้งานไป-มาระหว่างแอพพลิเคชั่นแต่ละตัวที่เปิดใช้งานอยู่ หรือจะเปิดการใช้งานก็ได้เช่นกัน

 

ZTE AXON UI Review-05

ZTE Axon รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ใช้งานได้ทุกเครือข่ายในไทยทั้ง 3G และ 4G โดยต้องเลือกว่าจะให้ซิมใดใช้งาน 3G/4G ส่วนอีกซิมก็จะสลับไปใช้งาน 2G สำหรับการโทรเท่านั้น

การเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, Hotspot และ Bluetooh 4.0, A2DP นอกจากนี้ก็มี NFC ด้วย

 

ZTE AXON UI Review-06

แถบบาร์ด้านบนสามารถเลือกแสดงเปอร์เซ็นแบตเตอรี่, ความเร็วเครือข่าย และปรับสีสันการแสดงผลของหน้าจอได้

 

ZTE AXON UI Review-10

ปุ่มกดนำทางสามารถเลือกสลับระหว่างปุ่มย้อนกับกับปุ่มเมนู (ปุ่มรายการ) ได้ เผื่อว่าใครถนัดซ้ายหรือขวาก็เลือกได้ตามสะดวก

 

ZTE AXON UI Review-11

ฟีเจอร์การใช้งานท่าทางบนหน้าจอ

  • ปิดแอพ : ใช้ 3 นิ้วแตะหน้าจอแล้วเลื่อนลงด้านล่างเพื่อปิดการทำงานแอพ
  • สลับแอพ : ใช้ 3 นิ้วแตะหน้าจอแล้วเลื่อนไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อสลับไปใช้งานแอพก่อนหน้า
  • จับภาพหน้าจอ : ใช้ 3 นิ้วแตะหน้าจอแล้วหุบเข้าหากัน

 

ZTE AXON UI Review-12

ฟีเจอร์การใช้ท่าทางการเคลื่อนไหว

  • โทรอัตโนมัติ : เมื่อดูรายชื่อติดต่ออยู่ สามารถยกโทรศัพท์แนบหูเพื่อโทรออกไปยังเบอร์นั้นได้ทันที
  • ตอบกลับอัตโนมัติ : เป็นการรับสายโทรเข้าโดยการยกโทรศัพท์แนบหู โดยไม่ต้องกดปุ่มรับสาย
  • โหมดกระเป๋า : เมื่อโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าจะมีการเปิดเสียงดังสุดและสั่นแรงสุดหากมีสายโทรเข้า
  • เลื่อน/หยุดปลุก : เมื่อเสียงปลุกดัง สามารถคว่ำหน้าจอเพื่อปิดการปลุก หรือลูบหน้าจอเพื่อเลื่อนการปลุกได้
  • เปลี่ยนเป็นผู้รับ : ยกแนบหูเพื่อสลับจากการเปิดลำโพงโทรคุยไปเป็นเสียงจากลำโพงแนบหูแทน
  • เขย่า : เขย่าโทรศัพท์เพื่อเรียกใช้งานแอพไฟฉาย หรือเครื่องคิดเลข

 

ZTE AXON UI Review-13

Mi-POP

เป็นการเปิดใช้งานปุ่มนำทางที่ลอยอยู่บนหน้าจอในทุกหน้าจอ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสำหรับการใช้งานมือเดียว สามารถเลือกได้ว่าจะให้ปุ่มเริ่มต้นที่ลอยอยู่นั้นเป็นปุ่มใด โดยปุ่มย้อนกลับน่าจะใช้งานบ่อยที่สุด

 

ZTE AXON UI Review-07

ระบบสแกนม่านตา

เป็นการใช้กล้องหน้าเพื่อถ่ายภาพบริเวณตาของเราแล้วจัดเก็บเป็นไอดี (ID) เพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งระบบนี้ใช้เทคโนโลยีของ Sky eye และจำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ตในการทำงานด้วย ซึ่งระบบนี้สามารถใช้ปลดล็อคเครื่อง, การเข้าใช้งานแอพต่าง ๆ หรือใช้ยืนยันการเข้าใช้งาน Mi-Assistant

สำหรับระบบนี้จะรองรับการจดจำเพียง 1 ไอดีเท่านั้น เพราะตาคนเรามีเพียง 2 ข้าง จะไม่เหมือนกับลายมือถือที่สามารถจัดเก็บและจดจำได้หลายนิ้ว ซึ่งจากการใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก ต้องอยู่นิ่ง ๆ และใช้เวลาในการสแกนเพื่อประมวลผลค่อนข้างนาน

 

ZTE AXON UI Review-08

ระบบสแกนลายนิ้วมือ

สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง สามารถจดจำได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ใช้เพื่อปลดล็อคเครื่อง, การเข้าใช้งานแอพต่าง ๆ หรือใช้ยืนยันการเข้าใช้งาน Mi-Assistant เช่นเดียวกับระบบสแกนม่านตา แต่ลายนิ้วมือจะสะดวกและทำงานได้รวดเร็วกว่ามาก

นอกจากนี้แล้วตัวเซ็นเซอร์ยังสามารถแตะแล้วทำงานได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอก่อน ก็ช่วยให้ปลดล็อคตัวเครื่องได้รวดเร็วขึ้น

 

ZTE AXON UI Review-09

ปลดล็อคด้วยเสียง

การใช้เสียงเพื่อปลดล็อคเครื่องเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานใน Axon โดยการบันทึกเสียงเป็นคำพูดเอาไว้ ซึ่งการบันทึกเสียงจะต้องพูดคำเดิมจำนวน 3 ครั้งเพื่อความแม่นยำในการใช้งาน แต่จากการใช้งานจริงจะค่อนข้างลำบากหากอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดังรบกวน

 

ZTE AXON UI Review-15

Mi-Assistant

เป็นแอพจัดการระบบที่ทำงานได้ง่ายในคลิกเดียว ไม่ว่าจะเป็นการสแกนไวรัสด้วย Avast, เพิ่มความเร็วด้วยการเคลียร์หน่วยความจำและปิดการทำงานแอพ, เร่งความเร็วโดยการลบไฟล์ขยะ เป็นต้น

 

ZTE AXON UI Review-14

การจัดการพลังงาน

ZTE Axon มีแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh มีตัวจัดการพลังงานที่แสดงประมาณคงเหลือของแบตเตอรี่ และระยะเวลาการใช้งานต่าง ๆ ซึ่งมาพร้อมโหมดการใช้งานแบบเต็มสูบตามการเรียกใช้งานของซีพียู และโหมดประหยัดพลังงานตามการใช้งานต่าง ๆ

 

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช

ZTE AXON UI Review-16

  • Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
  • Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
  • Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
  • Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
  • Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
  • รองรับมัลติทัช

 

ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน

ZTE AXON UI Review-17

ZTE Axon รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop ซึ่งเป็น 64-bit ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810 Octa-core (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 2 GHz Cortex-A57) ซึ่งเป็นซีพียู 64-bit ตัวเดียวกับเรือธงหลาย ๆ รุ่น โดยตัวระบบและซีพียูต่างก็เป็น 64-bit ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด กับแรม 3GB และจีพียู Adreno 430

ผลการทดสอบ AnTuTu 6.0 ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 77,489 คะแนน คะแนนถือว่าสูงมาก และทิ้งห่างเรือธงจากบางค่ายที่ใช้ชิปประมวลผลตัวเดียวกันนี้ด้วย

 

ZTE AXON UI Review-18

ทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ ZTE Axon ทำคะแนน Single-Core ได้ 1,341 และ Multi-Core ทำได้ 4,109 คะแนน

 

กล้องถ่ายรูป

ZTE Axon Camera Review-01ZTE Axon Camera Review-02

ZTE Axon มีกล้องหลังแบบคู่ โดยกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และกล้องเสริมความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีระบบออโต้โฟกัส และแฟลช Dual-LED, รองรับการแนบตำแหน่งแผนที่ลงในภาพถ่าย, HDR และถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 2160p ที่ความเร็ว 30fps

กล้องหลังถ่ายภาพได้ขนาดสูงสุด 4096 x 3072 พิกเซล (ประมาณ 12.58 ล้านพิกเซล) ในอัตราส่วน 4:3 และขนาดสูงสุด 4096 x 2304 พิกเซล (ประมาณ 9.4 ล้านพิกเซล) ในอัตราส่วน 16:9

 

ZTE Axon Camera Review-03

แอพกล้องยังมีลูกเล่นฟิลเตอร์ให้เลือกใช้งานขณะถ่ายรูป พร้อมแสดงตัวอย่างให้เห็นก่อนถ่ายจริงอีกด้วย

 

ZTE Axon Camera Review-07

ลูกเล่นที่มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ ก็คือ การถ่ายภาพเบลอ ซึ่งเป็นการถ่ายภาพโดยการเก็บรายละเอียดทุกจุดและระยะภาพมาเก็บไว้ก่อน จากนั้นเราค่อยมาเลือกจุดโฟกัสและปรับความเบลอภายหลังจากถ่ายแล้วแนะนำให้เลือกค่า F ระหว่าง 1 – 1.6 สำหรับการถ่ายภาพเพื่อมาทำภาพเบลอ

 

ZTE Axon Camera Review-09

ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดเบลอจะสามารถเลือกจุดโฟกัสภายหลังได้ และปรับความเบอลได้ 5 ระดับ ซึ่งจากการใช้งานแม้ว่าการเบลอของภาพอาจจะยังไม่สมจริงเหมือนกับการใช้กล้องใหญ่ถ่าย แต่ก็ถือว่าใช้งานในระดับที่พอใจ

 

ZTE Axon Camera Review-08

โหมดที่มีให้ใช้งาน ได้แก่ โหมดปรับด้วยมือ, หมุน, ภาพซ้อน, ภาพช้า, พาโนรามา และกีฬา

 

ZTE Axon Camera Review-06

โหมดปรับด้วยมือ (Manual mode) เป็นโหมดที่สามารถกำหนดค่าต่าง ๆ ของกล้องได้ ได้แก่ ความเร็วชัตเตอร์, ISO, การรับแสง, ค่าสมดุลแสงสีขาว, จุดวัดแสง และระยะโฟกัส ซึ่งช่วยให้มีลูกเล่นในการถ่ายภาพมากกว่าโหมดออโต้

 

ZTE Axon Camera Review-10

กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ก็มีโหมดหน้าสวยที่ปรับได้ 5 ระดับเอาใจคอเซลฟี่ และมีระบบชัตเตอร์ด้วยรอยยิ้มได้ด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย

ZTE Axon Camera Test 4 ZTE Axon Camera Test 3 ZTE Axon Camera Test 2 ZTE Axon Camera Test 1

 

สรุปจุดเด่น

  • ตัวเครื่องดีไซน์สวยงาม แม้จะไม่ใช่โลหะทั้งตัว แต่ก็ผสานอย่างลงตัวระหว่างโลหะกับพลาสติกที่ให้ความรู้สึกคล้ายหนัง และหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD
  • รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop และเลือกใช้ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810 ซีพียู Octa-core กับแรม 3 GB
  • ความจำภายในตัวเครื่อง 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 128GB (ใส่ช่องซิม 2)
  • กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Dual LED ถ่ายภาพเบลอออกมาได้น่าพอใจ และกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่ 3,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทำงานได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอก่อน ซึ่งการประมวลผลของตัวเซ็นเซอร์ทำงานได้รวดเร็วมาก
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ใช้งานได้ทุกเครือข่ายในไทยทั้ง 3G และ 4G

จุดสังเกตเพิ่มเติม

  • แฟลชกล้อง Dual-LED เป็นโทนสีเดียว ถ้าเป็นแบบ Dual tone จะดีมาก
  • แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้

ZTE Mobile Devices Thailand
ขอบคุณ ZTE Mobile Devices Thailand

Smart Review5 ชั่วโมง ago

รีวิว OPPO Find X8 Series “มาตรฐานระดับแฟล็กชิปที่เหนือกว่า” ด้วยชิป MediaTek Dimensity 9400 | กล้อง Hasselblad ซูมเด่นที่สุดด้วย AI Telescope Zoom | AI ทรงพลัง

รีวิว OPPO Find X8 แ...

IT News6 ชั่วโมง ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16 – 22 พ.ย. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

The first Nintendo Authorized Store by SYNNEX in Southeast Asia is now open The first Nintendo Authorized Store by SYNNEX in Southeast Asia is now open
ข่าวประชาสัมพันธ์6 ชั่วโมง ago

เปิดแล้ว Nintendo Authorized Store by SYNNEX แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซินเน็ค จับมือคอปเปอ...

NT GSB NT GSB
ข่าวประชาสัมพันธ์7 ชั่วโมง ago

NT อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธนาคารออมสินใช้งานแอป MyMo ไม่เสียค่าเน็ตผ่าน 2 เครือข่ายมือถือ

NT อำนวยความสะดวกลูก...

AIS 5G strengthens its leadership with SEA COVERAGE, spanning both sides of the Thai sea AIS 5G strengthens its leadership with SEA COVERAGE, spanning both sides of the Thai sea
ข่าวประชาสัมพันธ์7 ชั่วโมง ago

AIS 5G โชว์แกร่งโครงข่ายที่ 1 ตัวจริง SEA COVERAGE ครอบคลุม 2 ฝั่งทะเลไทย

AIS 5G โชว์แกร่งโครง...

Bangkok Illustration Fair 2024 Bangkok Illustration Fair 2024
Apple News7 ชั่วโมง ago

Apple ร่วมกับ Bangkok Illustration Fair 2024 จัด Today at Apple เซสชั่นพิเศษ ที่ Central World เรียนรู้เทคนิควาดภาพบน iPad กับ 2 ศิลปินมากความสามารถ

Today at Apple ร่วมเ...

IT News7 ชั่วโมง ago

เปิดจอง Sony Alpha 1 II พร้อมเลนส์ฟูลเฟรม G Master รุ่น SEL2870GM

โซนี่ไทยเปิดจองกล้อง...

JBL TOUR PRO 3 JBL TOUR PRO 3
Wearable7 ชั่วโมง ago

ใหม่ JBL TOUR PRO 3 เปิดประสบการณ์เสียง ในแบบที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อนพร้อมยกระดับความบันเทิงของคุณไปอีกขั้น

JBL Tour Pro 3 หูฟัง...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก