รีวิว Samsung Galaxy S7 ดีไซน์สวยหรู กันน้ำได้ และกล้องโฟกัสไว Dual Pixel

Samsung Galaxy S7 ดีไซน์เรียบหรู ดูคล้ายของเดิม แต่เสริมส่วนโค้งเว้า ผสานอย่างลงตัวด้วยโหละและกระจกขอบโค้งมน 2.5D ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มาพร้อมกล้องถ่ายรูปที่มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น ถ่ายได้สว่างกว่าเดิมทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

สรุปข้อมูลและสเปค Samsung Galaxy S7 (SM-G930F)

• ราคาเปิดตัว 23,900 บาท (มีนาคม 2016)
• ขนาดตัวเครื่อง 142.4 x 69.6 x 7.9 มม.
• น้ำหนัก 152 กรัม
• 3G / 4G LTE ทุกเครือข่ายในไทย
• 2 ซิมการ์ด (Nano SIM + Nano SIM)
• หน้าจอแสดงผล 5.1 นิ้ว Super AMOLED ความคมชัด 2K
• รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow กับ TouchWiz UI เวอร์ชั่นล่าสุด
• ชิปเซ็ต Exynos 8890 Octa
• ซีพียู Octa-core (Quad-core 2.6 GHz Mongoose + Quad-core 1.6 GHz Cortex-A53)
• จีพียู Mali-T880 MP12
• แรม 4 GB
• ความจำภายในตัวเครื่อง 32 GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 200 GB (ใส่ช่องซิม 2)
• กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัส Dual Pixel, f/1.7 และแฟลช LED
• กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, f/1.7
• รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2
• รองรับระบบ GPS/A-GPS, GLONASS
• แบตเตอรี่ 3,000 mAh ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
• ปุ่มโฮมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
• กันน้ำ IP68

 

ดีไซน์ ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

Samsung Galaxy S7 หากมองภายนอกอาจจะดูคล้ายกับ Galaxy S6 แต่ถ้าได้ลองสัมผัสจะรู้สึกได้ว่าแตกต่างกันพอสมควร โดยตัวเครื่องหนาขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 7.9 มม. จากเดิม 6.9 มม. ช่วยทำให้จับถนัดมือมากกว่าเดิม เพราะถ้าบางมากจนเกินไปเวลาจับใช้งานก็จะรู้สึกเหมือนจะหลุดมือ จับไม่กระชับ

 

กรอบตัวเครื่องเป็นโหละโค้งมนสอดรับกับอุ้มมือ จากเดิมจะมีการตัดขอบเสริมเหลี่ยม ซึ่งด้านด้านหน้ากับด้านหลังเป็นกระจก Gorilla Glass 4 ตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่น S6 มีลักษณะขอบโค้งมนแบบ 2.5D

กระจกด้านหลังโค้งลงมากินพื้นที่กรอบตัวเครื่องเล็กน้อยในลักษณะโค้งเว้าคล้าย ๆ กับในรุ่น Galaxy Note 5 ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดดีไซน์ใหม่ที่ต่างไปจาก S6

 

หน้าจอของ Galaxy S7 มีขนาด 5.1 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ Super AMOLED ซึ่งให้สัสันสดใสด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูง ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล หรือประมาณ 577 พิกเซลต่อนิ้ว

 

เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่ถ่ายได้สวยขึ้นด้วยค่ารูรับแสงที่กว้าง f/1.7 จากเดิม f/1.9 และฟีเจอร์ใช้แสงจากหน้าจอเป็นไฟแฟลชสำหรับกล้องหน้าได้ด้วย

 

ล่างหน้าจอมีปุ่มสัมผัสซ้ายเป็นปุ่ม Recent App และขวาเป็นปุ่มย้อนกลับ ส่วนตรงกลางเป็นปุ่มโฮมแบบกดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยเล็กน้อย มุมของปุ่มโฮมในรุ่นใหม่นี้ไม่โค้งมากเหมือนเมื่อก่อนที่ดูจะเป็นรูปร่างวงรี พร้อมเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือ

 

ขอบด้านล่างตัวเครื่องมีช่องเสียงหูฟังขนาด 3.5 มม. และยังคงใช้พอร์ตขนาด micro USB ถัดมาที่เห็นเป็นช่องรูเล็ก ๆ คือไมโครโฟน และช่อง 2 แถวจำนวน 10 ช่องเล็ก ๆ นั้นคือช่องสำหรับเสียงลำโพงตัวเครื่อง

 

ขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และช่องถาดใส่ซิมแบบไฮบริด โดยรุ่นที่วางขายในไทยรองรับ 2 ซิมการ์ด ขนาด Nano SIM ทั้ง 2 ช่อง หรือจะเลือกใส่ microSD card แทนซิม 2 ก็ได้

 

ขอบด้านขวามีปุ่ม Power สำหรับปิด/เปิดเครื่องหรือปิด/เปิดหน้าจอ

 

ขอบด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง

 

ด้านหลัง Galaxy S7 เป็นกระจกซึ่งดูสวยงาม แต่อาจเกิดคราบรอยนิ้วมือได้ง่าย ซึ่งฝากหลังไม่สามารถแกะเปิดได้ ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh ซึ่งมีความจุเพิ่มขึ้นจากเดิมหากเทียบกับ S6

 

เลนส์กล้องหลังนูนขึ้นมาเหนือฝากหลังเล็กน้อย ไม่นูนเยอะเหมือนรุ่นก่อนแล้ว เซ็นเซอร์กล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซลครอบด้วยกระจกกันรอย ถัดมาข้าง ๆ จะเป็นไฟแฟลช LED และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ

 

ตัวเครื่อง Galaxy S7 มีคุณสมบัติกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP68 คือกันน้ำได้ลึกสุด 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที โดยไม่ต้องมีฝาปิดพอร์ตเชื่อมต่อ และควรเช็ดเครื่องให้แห้งสนิทโดยเฉพาะในพอร์ตเชื่อมต่อก่อนการชาร์จแบต เพื่อป้องกันความเสียหาย

 

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

Samsung Galaxy S7 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marsmallow ครอบทับด้วยตัว TouchWiz UI เวอร์ชั่นใหม่ ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเลยก็คือความเรียบง่ายของดีไซน์เมนูเครื่อง รวมไปถึงสีสันแบบใหม่ แต่ภาพรวมแล้วก็ยังคล้าย ๆ แบบเดิม แม้ว่าไอคอนแอพพลิเคชั่นบางตัวจะเปลี่ยนไปก็ตาม

 

เมื่อเข้ามาในหน้าโฮมจะมีไอคอนแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดเรียงอยู่ในหน้านี้, วิดเจ็ตค้นหาจาก Google และวิดเจ็ตสภาพอากาศ เมื่อปัดไปทางด้านซ้ายจะเป็นหน้าของ Briefing สำหรับอ่านข่าว นิตยสารออนไลน์จากทั่วโลก ซึ่งมีติดตั้งมากับ Samsung ทุกรุ่น

ในหน้าโฮม เมื่อจีบ 2 นิ้วเข้าหากันหรือแตะค้างบริเวณพื้นที่ว่าง จะเข้าสู่การปรับแต่งและตั้งค่าหน้าจอได้ ได้แก่ เปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, เพิ่มวิดเจ็ต และเลือกเปลี่ยนธีมได้

 

แอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องดูน้อยลงชัดเจน น่าจะมาจากที่ต้องการลดการใช้พื้นที่ความจำตัวเครื่องให้ได้มากที่สุด ซึ่งเปิดเครื่องมาจะพบพื้นที่เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 24GB แต่ก็สามารถเพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุดถึง 200GB

App Drawer จัดเรียงได้ทั้งไอคอนแอพ และโฟเดอร์ที่รวมกันของไอคอนแอพหลาย ๆ ตัว สามารถลบแอพบางตัวที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องได้หากไม่ต้องการใช้งาน

 

เมื่อลากแถบบาร์ด้านบนลงมาจะพบกับรายการแจ้งเตือน และแถบเมนู Quick Setting สำหรับเปิด-ปิดการใช้งานต่าง ๆ สามารถเลือกแก้ไขไอคอนที่ต้องการนำมาแสดงในส่วนนี้ได้ หรือแตะค้างที่ไอคอนแต่ละตัวเพื่อเข้าสู่การตั้งค่าที่เกี่ยวข้องได้ทันที ไม่ต้องไปไล่หาเมนูในส่วนของการตั้งค่าตัวเครื่อง

 

เมื่อแตะที่ปุ่ม Recent Apps (ปุ่มซ้ายสุด) จะเข้าสู่หน้าแสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานล่าสุด ซึ่งสามารถเลื่อนดูแล้วแตะเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นนั้นได้ทันที หรือจะปิดการทำงานก็ได้ นอกจากนี้แล้วก็จะมีฟีเจอร์มัลติวินโดวส์หรือการเปิดหลายจอพร้อมกันได้นั่นเอง โดยแตะที่เมนูแบ่งหน้าจอ (ตามภาพ) เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ทันที

สามารถแตะแล้วลากปรับขนาดแต่ละหน้าต่างได้ หรือสลับเปิดหน้าต่างด้วยแอพใหม่ก็ได้เช่นกัน เช่น ดู YouTube พร้อมกับแชท LINE ไปด้วย เป็นต้น

 

Always On Display ฟีเจอร์ใหม่ที่นำมาใส่ให้กับรุ่น Galaxy S7 เป็นรุ่นแรก ซึ่งเป็นการแสดงรูปภาพหรือข้อความในหน้าจอที่กำลังปิดอยู่ โดยไม่ต้องกดเปิดหน้าจอ เลือกแสดงได้ทั้งนาฬิกา, ปฏิทิน หรือรูปภาพ รวมถึงสามารถใส่รูปภาพพื้นหลังได้ด้วย

 

ฟีเจอร์ Always On Display จากการใช้งานพบว่ามีการใช้งานพลังงานราว 1% ต่อชั่วโมง ซึ่งก็ไม่ได้สิ้นเปลืองอะไรมากมาย น้อยกว่าการกดเปิดใช้งานหน้าจอตลอดทั้งวัน แต่ถ้าไม่ชอบหรือรู้สึกเหมือนมีอะไรที่ต้องให้คอยมองตลอดเวลาเมื่อวางไว้ใกล้ ๆ ก็สามารถปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เช่นกัน

 

Game Launcher เป็นฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตั้งค่าเกมที่รวมไว้ในที่เดียว พร้อมตัวเลือกการประหยัดพลังงานโดยการลดความละเอียด และลดอัตราเฟรมให้น้อยลง และหากเปิดใช้งานการประหยัดพลังงานเอฟเฟ็กต์ของเกมบางอย่างก็จะหายไปด้วยเพื่อลดการใช้งานพลังงาน ก็ถือเป็นทางเลือกสำหรับการเล่นเกม นอกจากนี้ก็สามารถปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ ขณะเล่นเกมได้ด้วย

 

ในส่วนของการเล่นเกม ยังมีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Game Tools หรือเครื่องมือในการใช้งานร่วมกับการเล่นเกม โดยจะเป็นไอคอนซ่อนอยู่บริเวณขอบจอ และลอยอยู่เหนือหน้าจอขณะเล่นเกม มาพร้อมเมนูต่าง ๆ ได้แก่

• ปิด/เปิดการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม
• ล็อคปุ่ม Recent App และปุ่มย้อนกลับ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ถือว่าตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดีมาก เพราะในบางครั้งมือเราอาจพลาดไปโดยปุ่มกดตัวเครื่องขณะเล่นเกม อาจทำให้พลาดเควสที่อุตส่าห์ตั้งใจเล่นได้
• ย่อหน้าต่างเกม
• จับภาพหน้าจอ
• บันทึกวิดีโอหน้าจอขณะเล่นเกม

 

สำหรับฟังก์ชั่นบันทึกวิดีโอหน้าจอขณะเล่นเกม สามารถใส่ภาพเป็นไอคอนเล็ก ๆ ลงไปได้ด้วย หรือใช้กล้องหน้าในการบันทึกหน้าเราลงไปก็ได้เช่นกัน เหมาะกับนักแคสเกมทั้งหลาย อีกทั้งยังเลือกบันทึกเสียงได้ทั้งจากตัวเกม หรือไมโครโฟนของเครื่องก็ได้

Galaxy S7 เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับ Vulkan API เพื่อเข้าถึงเอฟเฟ็กต์ของเกมที่พัฒนาด้วย API นี้ได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องรอเกมที่พัฒนาด้วย API นี้กันต่อไป

 

ฟังก์ชั่นอัจฉริยะ

• ทำงานมือเดียว : เป็นการลดขนาดหน้าจอลง เพื่อให้ใช้งานมือข้างเดียวได้ง่ายขึ้น
• เปิดกล้องด่วน : กดปุ่มโฮม 2 ครั้งติดกันเพื่อเปิดกล้องถ่ายรูป

 

• ป๊อบอัพดูท่าทาง : เป็นการเรียกดูแอพในลักษณะหน้าต่างแบบป็อปอัพ โดยการปัดจากมุมหน้าจอในแนวทะแยง
• จับภาพอัจฉริยะ : เป็นตัวเลือกเมนูหลังจากจับภาพหน้าจอ ได้แก่ จับภาพเพิ่มเติม, แชร์ หรือตัดบางส่วน

 

• ใช้ฝ่ามือปัดเพื่อจับภาพ : เป็นการใช้สันฝ่ามือปัดบนหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ เพื่อจับภาพหน้าจอ ซึ่งปกติเราจะจับภาพหน้าจอโดยการกดปุ่ม Power กับปุ่มโฮมพร้อมกัน
• การโทรโดยตรง : ยกโทรศัพท์แนบหูเพื่อโทรออกขณะอยู่ในเมนูรายชื่อติดต่อ, ข้อความ หรือรายละเอียดบนหน้าจอที่มีเบอร์โทรศัพท์

 

• การเตือนอัจฉริยะ : เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ตัวเครื่องจะสั่นเพื่อให้ทราบว่ามีรายการแจ้งเตือน เช่น สายไม่ได้รับ หรือมีข้อความเข้า
• ปิดเสียงอย่างง่าย : เป็นการปิดเสียงโทรเข้าหรือเสียงแจ้งเตือนต่าง ๆ โดยการวางฝ่ามือบนหน้าจอหรือคว่ำหน้าจอลงก็ได้

 

การเชื่อมต่อ

Samsung Galaxy S7 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ใช้งานได้ทั้ง 3G และ 4G ทุกเครือข่ายในไทย หรือจะเลือกใส่ microSD card แทนซิม 2 ก็ได้ โดยการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Wi-Fi รองรับมาตรฐาน 802.11 a/b/g/n/ac, Dual-band, Wi-Fi Direct และใช้เป็นจุดกระจายสัญญาณ Hotspot

สำหรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth รองรับเวอร์ชั่น 4.2 with aptX ซึ่งมีการปรับปรุงให้การสตรีมเสียงผ่าน Bluetooth นั้นมีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม และมีชิป NFC สำหรับการส่งต่อข้อมูลในระยะใกล้ด้วย โดยรุ่นใหม่นี้ไม่มีพอร์ตอินฟราเรด ส่วนการเชื่อมต่อผ่านเคเบิลรองรับ microUSB v2.0 และเป็น USB Host ได้

 

ระบบสแกนลายนิ้วมือ

ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮมของ Galaxy S7 สามารถจดจำได้สูงสุด 4 ลายนิ้วมือ ใช้สำหรับปลดล็อคหน้าจอ, เข้าสู่ระบบเว็บไซต์ และใช้ยืนยันการซื้อคอนเทนท์ด้วย Samsung Account

 

Smart Manager

เป็นตัวจัดการระบบได้ง่าย ๆ ในคลิกเดียว ทั้งการจัดการพลังงานแบตเตอรี่, ลบไฟล์ขยะ, ล้างความจำแรม และระบบป้องกันความปลอดภัย หรือถ้าอยากได้ความส่วนตัวที่แยกออกจากโหมดปกติ ก็สามารถติดตั้งแอพ My KNOX เพิ่มเติมได้

• ในส่วนของแบตเตอรี่ สามารถเข้าไปปรับการตั้งค่าการใช้งานหรือจัดการการใช้พลังงานได้ รวมถึงเลือกไปใช้โหมดประหยัดพลังงานจากในส่วนนี้ได้ด้วย
• ที่จัดเก็บ เป็นการจัดการในส่วนของการใช้พื้นที่ความจำตัวเครื่อง สามารถเข้าไปจัดการลบไฟแคช และอื่น ๆ หรือถอนการติตตั้งแอพที่ไม่ได้ใช้งานได้ ระบบนี้ใช้ของ Clean Master นั่นเอง
• RAM สำหรับจัดการและคืนความจำแรมให้กับระบบ บางครั้งเมื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นหลาย ๆ ตัว ความจำเร็วก็จะถูกใช้งานและอาจทำให้ระบบทำงานไม่ได้หรือค้าง
• ระบบป้องกันอุปกรณ์ คือตัวสแกนไวรัสซึ่งใช้ระบบของ McAfee และเป็นการจัดการรวมถึงควบคุมการใช้งานตัว My KNOX

 

โหมดประหยัดพลังงาน

Galaxy S7 มีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกใช้งาน 2 โหมดหลัก ได้แก่ ประหยัดพลังงานทั่วไป เป็นการจัดกัดการทำงานบางอย่างของเครื่องโทรศัพท์ ปิดการสั่น และปิด GPS รวมถึงการทำงานเบื้องหลัง เพื่อลดการใช้งานพลังงาน

อีกหนึ่งโหมดคือ โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง เป็นการเปลี่ยนหน้าจอเป็นสเกลสีเทาดำ และปิดการทำงานต่าง ๆ รวมถึงการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth เหลือเพียงแอพบางตัวที่ใช้งานได้

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการชาร์จแบบด่วนหรือชาร์จเร็วด้วย ซึ่งการชาร์จเร็วอาจมีอาการเครื่องร้อนได้ขณะชาร์จ โดย Galaxy S7 รองรับระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 2.0 และชาร์จไร้สาย

 

 

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช

• Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
• Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
• Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
• Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
• Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
• Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
• Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
• Pressure Sensor ตรวจวัดความกดอากาศ
• รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด

 

ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน

Samsung Galaxy S7 รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Exynos 8890 Octa แบ่งการทำงานซีพียูออกเป็น 2 ระดับ Quad-core 2.6 GHz Mongoose ซึ่งตัวนี้เองจะเป็นการเรียกทำงานในระดับที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด และ Quad-core 1.6 GHz Cortex-A53 จะเน้นการทำงานทั่วไปเพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งทั้ง 2 ตัวจะรวมกันหรือสลับซีพียูตามโหมดการทำงานไปมา กับจีพียู Mali-T880 MP12 และความจำแรม 4 GB

โดยผลการทดสอบ AnTuTu 6.0.1 ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 128,720 คะแนน ระดับคะแนนสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาจาก Samsung

 

ผลการทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Galaxy S7 ทำคะแนน Single-Core ได้ 703 และ Multi-Core ทำได้ 3,548 คะแนน ผลคะแนนที่ออกมาอยู่ในระดับทำได้ดีกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา

 

ทดสอบ 3DMark เพื่อดูประสิทธิภาพการทำงานของกราฟิกรวมถึงการเล่นเกม 3D

• Sling shot ES 3.1 ทดสอบประสิทธิภาพที่ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล ทำได้ 2,110 คะแนน
• Sling shot ES 3.0 ทดสอบประสิทธิภาพที่ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล ทำได้ 2,641 คะแนน
• Ice Storm Unlimited วัดประสิทธิภาพของจีพียู และประสิทธิภาพของซีพียูเปรียบเทียบกันชิปต่อชิป ซึ่งใช้ OpenGL ES 2.0 แบบ Offscreen ด้วยความละเอียดเดียวกันโดยไม่สนใจความละเอียดของตัวเครื่องที่ 720p ทำได้ 28,386 คะแนน

 

Ice Storm และ Ice Storm Extreme วัดประสิทธิภาพของจีพียู และประสิทธิภาพของซีพียู ซึ่งใช้ OpenGL ES 2.0 ทำคะแนนทะลุเกินไป (Maxed out)

 

ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะด้วย GFXBench ผลคะแนนจะนับเป็น PFS (Frame per Second)

1. Car Chaseใช้ OpenGL ES 3.1 with Android Extension Pack เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด ทำได้ 7.8 FPS

2. Car Chase Offscreen ใช้ OpenGL ES 3.1 with Android Extension Pack เพื่อทดสอบการประมวลผลที่ความละเอียด 1080p ทำได้ 15 FPS

3. Manhattan ใช้ OpenGL ES 3.1 เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด ทำได้ 15 FPS

4. 1080p Manhattan Offscreen ทดสอบเหมือนในข้อ 3 แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด 1080p ทำได้ 26 FPS

5. Manhattan ใช้ OpenGL ES 3.0 เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด ทำได้ 25 FPS

6. 1080p Manhattan Offscreen ทดสอบเหมือนในข้อ 5 แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด 1080p ทำได้ 38 FPS

7. T-Rex เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด แต่ใช้ OpenGL ES 2.0 ทำได้ 51 FPS

8. 1080p T-Rex Offscreen เป็นการทดสอบเหมือนในข้อ 7 แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด 1080p ทำได้ 80 FPS

จากผลการทดสอบผลคะแนน Benchmark ของ Galaxy S7 นั้นทำได้สูงกว่าเดิมทั้งตัวซีพียูและจีพียู ซึ่งขณะทำการทดสอบด้วย 3DMark และ GFXBench เครื่องค่อนข้างร้อนมาก เนื่องจากเป็นการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานอย่างเต็มความสามารถ แต่เมื่อปล่อยไว้สักพักก็หายร้อนได้เร็วกว่ารุ่นก่อน ๆ ที่เคยทดสอบมา (อาจเพราะมีท่อระบายความร้อนด้วยของเหลว)

 

การทดสอบเล่นเกมที่กราฟิกสวย ๆ ขนาดไฟล์เกมค่อนข้างใหญ่อย่างเกม Need for Speed No Limits, Asphalt 8: Airborne และ Modern Combat 5: Blackout ก็เล่นได้ลื่นไหล ไม่อาการเครื่องร้อนจนเกินไป แต่จะรู้สึกอุ่น ๆ ด้านหลังตัวเครื่องบ้างเมื่อเล่นต่อเนื่องประมาณ 30 นาทีขึ้นไป

 

กล้องถ่ายรูป

Samsung Galaxy S7 มีกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพได้ขนาดสูงสุด 4032 x 3024 พิกเซล (ประมาณ 12.19 ล้านพิกเซล) ในอัตราส่วน 4:3 จากเดิมในรุ่น S6 ถ่ายภาพได้ขนาด 16 ล้านพิกเซล ในอัตราส่วน 16:9 แต่ในรุ่นใหม่นี้มีระบบโฟกัสแบบใหม่ที่เรียกว่า Dual Pixel คือทุก ๆ พิกเซลสามารถโฟกัสได้ โดยมีขนาดพิกเซลอยู่ที่ 1.4 ไมครอน พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว OIS และมีรูรับแสง f/1.7 กว้างกว่าเดิม

 

แอพกล้องถ่ายรูปยังคงมีหน้าตาเหมือนเดิม สามารถปัดไปทางซ้ายเพื่อรูปภาพที่ถ่าย และปัดไปทางขวาเพื่อเลือกโหมดถ่ายรูป, รองรับการแนบตำแหน่งแผนที่ลงในภาพถ่าย (Geo-tagging), แตะเพื่อโฟกัส (Touch focus), ตรวจจับใบหน้าและรอยยิ้ม (Face/Smile detection), เปิดโหมดถ่ายแบบ HDR อัตโนมัติ และถ่ายรูปแบบเคลื่อนไหวในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งคล้าย ๆ กับ Live Photo ของอีกค่าย

 

โหมดโปร (Pro)

โหมดโปรเป็นฟังก์ชั่นการควบคุมค่าต่าง ๆ ในการถ่ายรูปด้วยตนเอง ได้แก่ ระยะโฟกัส, สมดุลแสงสีขาว (White Balance), ความไวแสง (ISO), ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) ได้นานสุด 10 วินาที และชดเชยแสง +/-2 (EV)

นอกจากนี้แล้วในโหมดโปร ยังกำหนดการโฟกัสแบบโฟกัสทุกจุดหรือเพียงจุดเดียว และวัดจุดโฟกัส ได้ 3 แบบ ได้แก่ เฉลี่ยหนักกลาง, เมทริกซ์ และเฉพาะจุด

---

 

 

พาโนรามา (Panorama)

เป็นโหมดสำหรับการถ่ายภาพนิ่งเพื่อเก็บภาพในแนวนอนหรือแนวตั้งโดยการแพนกล้องแล้วเลื่อนไปทางซ้ายหรือขวา แต่ใน Galaxy S7 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่สามารถถ่ายพาโนรามาเป็นวิดีโอได้นั่นเอง เรียกโหมดนี้ว่า พาโนรามาเคลื่อนไหว (Motion Panorama) จะบันทึกเป็นสกุลไฟล์วิดีโอ .mp4

 

พาโนรามาเคลื่อนไหว (Motion Panorama) เมื่อดูบน Galaxy S7 สามารถเอียงมือถือไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเล่นวิดีโอไปข้างหน้าหรือย้อนกลับ

---

 

 

โหมดอาหาร (Food)

เป็นโหมดสำหรับการถ่ายอาหารโดยเฉพาะ ซึ่งโหมดนี้สามารถเลือกจุดโฟกัสที่ต้องการเน้นความชัด โดยจะมีลักษณะเป็นวงกลม เหมาะกับการถ่ายหารบนจานนั่นเอง และสามารถขยายขนาดของจุดโฟกัสได้ ซึ่งวัตถุที่อยู่ในจุดโฟกัสก็จะชัด ส่วนรอบจุดโฟกัสก็จะเบลอ

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดอาหาร

---

 

โหมดอัตโนมัติ (Auto)

โหมดนี้ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก แตะเลือกจุดโฟกัสแล้วกดถ่ายได้เลย อีกทั้ง HDR ก็สามารถกำหนดให้เปิด/ปิดอัตโนมัติได้ด้วย ซึ่ง HDR เป็นการถ่ายรูปหลายรูป ที่มีค่าความสว่างของแสงแตกต่างกัน แล้วเอาภาพมารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้เวลาถ่ายภาพด้วยโหมดนี้จำเป็นต้องถือกล้องนิ่ง ๆ สักพัก เพื่อให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดครบ ทั้งพื้นที่ส่วนที่สว่างและส่วนที่มืด

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดอัตโนมัติ

 

กล้องหลังของ Galaxy S7 รองรับการบันทึกวิดีโอขนาดความคมชัดสูงสุด UHD (4K) ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล ซึ่งในขณะบันทึกวิดีโอยังสามารถกดถ่ายรูปได้ด้วยขนาด 9.1 ล้านพิกเซล เนื่องจากวิดีโอบันทึกอยู่ในอัตราส่วน 16:9

Galaxy S7 ยังมีโหมดบันทึกวิดีโอแบบ Hyperlapse ซึ่งเป็นการบันทึกวิดีโอแบบเร่งเวลาพร้อมกับสามารถขยับกล้องได้ แล้วระบบจะมาจัดการเป็นวิดีโอได้อัตโนมัติ จากเดิมเราจะรู้จักกันในโหมด Timelapse ที่ต้องวางกล้องอยู่นิ่ง ๆ เพื่อจับภาพ นอกจากนี้ในโหมดเคลื่อนไหวช้า (Slow motion) รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ 720p ที่ 240 เฟรมต่อวินาที

กล้องหน้าของ Galaxy S7 เซลฟี่ได้ขนาดภาพสูงสุด 5 ล้านพิกเซล อัตราส่วน 4:3 ค่ารูรับแสง f/1.7 มาพร้อมโหมดหน้าสวย 8 ระดับ, เซลฟี่มุมกว้าง และใช้แสงหน้าจอเป็นแฟลชสำหรับกล้องหน้าได้

 

สรุปจุดเด่น

• ดีไซน์สวยงามด้วยกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กันน้ำกันฝุ่น, หน้าจอขนาด 5.1 นิ้ว ไม่เล็กและใหญ่เกินไป เป็นหน้าจอแบบ Super AMOLED สีสันสดใส ความคมชัดระดับ 2K
• มาพร้อม Android 6.0.1 Marshmallow กับ TouchWiz UI เวอร์ชั่นล่าสุด ใช้งานฟีเจอร์ตัวใหม่ได้ทันที ไม่ต้องรออัปเดท
• ชิปเซ็ต Exynos 8890 Octa ซีพียู Octa-core (Quad-core 2.6 GHz Mongoose + Quad-core 1.6 GHz Cortex-A53) กับ จีพียู Mali-T880 MP12 และแรม 4GB เล่นเกมได้ลื่นไหล
• ความจำภายในตัวเครื่อง 32 GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 200 GB (ใส่ช่องซิม 2)
• กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัส Dual Pixel แม่นยำ และรวดเร็วกว่าเดิมชัดเจน, ค่ารูรับแสง f/1.7 ถ่ายได้สว่างขึ้น และแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, f/1.7
• แบตเตอรี่ 3,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว และชาร์จไร้สาย

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบไฮบริด ถ้าใส่ microSD card ก็จะใส่ได้เพียงซิมเดียว
• ด้านหลังเป็นกระจกเกิดคราบรอยนิ้วมือได้ง่าย

ขอขอบคุณ Samsung (ประเทศไทย)