Smart Review
รีวิว Microsoft Lumia 950 XL สมาร์ทโฟนไฮเอนด์ Windows 10
Microsoft Lumia 950 XL สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Windows 10 หน้าจอ 5.7 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ Quad HD (1440 x 2560 พิกเซล) กล้องหลังความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.4 นิ้ว ประกอบด้วย 6 ชิ้นเลนส์ เทคโนโลยี PureView และ Continuum เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ โดยการเชื่อมต่อผ่านสายไปยังหน้าจอแสดงผล
สรุปข้อมูลและสเปค Microsoft Lumia 950 XL
- ราคาเปิดตัว 23,300 บาท (มีนาคม 2016)
- ขนาดตัวเครื่อง 151.9 x 78.4 x 8.1 มม.
- น้ำหนัก 165 กรัม
- 3G / 4G LTE ทุกเครือข่ายในไทย
- 2 ซิมการ์ด (Nano SIM + Nano SIM)*
- หน้าจอแสดงผล 5.7 นิ้ว QHD AMOLED
- รันระบบปฏิบัติการ Windows 10
- ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810
- ซีพียู Octa-core (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 2.0 GHz Cortex-A57)
- จีพียู Adreno 430
- แรม 3 GB
- ความจำภายในตัวเครื่อง 32 GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 200 GB
- กล้องหลังความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, f/1.9 และแฟลช Triple-LED RGB
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, f/2.4
- รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.1
- รองรับระบบ GPS/A-GPS, GLONASS
- แบตเตอรี่ 3,340 mAh ถอดเปลี่ยนเองได้
- Windows Hello สแกนม่านตา
* เครื่องที่ได้มาทดสอบเป็นรุ่น 2 ซิม (Dual SIM) แต่เครื่องที่ขายจริงจะเป็นรุ่น 1 ซิม
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
Lumia 950 XL มีขนาดรอบตัวอยู่ที่ 151.9 x 78.4 x 8.1 มม. ซึ่งอาจจะดูหนาไปหน่อยจากเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงค่ายอื่น แต่ด้วยวัสดุหลักที่เป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนต ทำให้รุ่นนี้ค่อนน้ำหนักเบาหากเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ภาพรวมยังคงเป็นทรงสี่เหลี่ยม แต่การกลับในครั้งนี้มีการเปลี่ยนขอบมุมตัวเครื่องให้มีความโค้งมนมากขึ้น
หน้าจอของ Lumia 950 XL มีขนาด 5.7 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ AMOLED ครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 4 เพื่อปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วน และมีความคมชัดระดับ Quad HD หรือ 2K จึงทำให้รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่หน้าจอแสดงผลมีสีสันที่สวยงาม
เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, ลำโพงสำหรับเสียงสนทนา และโลโก้ Microsoft โดยทางฝั่งซ้ายจะมีเซ็นเซอร์อินฟาเรตที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ในการปลดล็อคตัวเครื่อง นอกจากนี้ก็จะมีไมโครโฟนฝังซ่อนอยู่บริเวณนี้ด้วย 1 ตัว
ปุ่มนำทาง 3 ปุ่ม จะแสดงอยู่บริเวณส่วนล่างของหน้าจอแสดงผล ได้แก่ ย้อนกลับ, ปุ่มวินโดวส์ และค้นหา ซึ่งฝังอยู่ในหน้าจอ ถัดลงมาบริเวณล่างหน้าจอจะมีรูเล็ก ๆ ซึ่งก็คือไมโครโฟนสำหรับเสียงสนทนานั่นเอง
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
ขอบด้านล่างมีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C สำหรับชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่, เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ รวมถึงใช้ต่อกับ Microsoft Display Port เพื่อใช้งาน Continuum หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงผ่านสายเคเบิลอื่น ๆ ได้ด้วย นอกจากนี้ก็จะมีร่องสำหรับแกะเปิดฝาหลังอยู่บริเวณนี้ด้วย
ขอบด้านซ้ายไม่มีปุ่มใด ๆ ในขณะที่ขอบด้านขวาไล่จากด้านบนลงมาด้นล่าง จะมีปุ่มเพิ่มเสียง, ปุ่ม Power, ปุ่มลดเสียง และปุ่มชัตเตอร์กล้องแบบ 2 จังหวะ สามารถกดลดไปจังหวะแรกเพื่อโฟกัส ก่อนกดอีกครั้งเพื่อถ่ายภาพ
ด้านหลังตัวเครื่องมีลักษณะผิวเรียบ โดยมีเลนส์กล้องหลังความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และแฟลชแบบ Triple-LED หรือไฟแฟลชแบบ 3 สี ซึ่งมีลักษณะนูนขึ้นมาเหนือฝาหลังเล็กน้อย ถัดไปด้านข้างจะมีช่องลำโพงเสียงของตัวเครื่อง และมีข้อความระบุถึงเทคโนโลยี PureView และเลนส์จาก ZEISS พร้อมโลโก้ของ Windows
และที่เป็นรูเล็ก ๆ บริเวณส่วนบนและส่วนของของด้านหลังคือเป็นตำแหน่งของไมโครโฟนด้านบน 1 ตัว และด้านล่างอีก 1 ตัว ซึ่งรวมแล้วรุ่นนี้จะมีไมโครโฟนทั้งหมด 4 ตัว เพื่อใช้สำหรับอัดเสียงความคมชัดสูง (Lumia Rich Recording)
เมื่อแกะฝาหลังออกมาจะพบกับก้อนแบตเตอรี่ที่สามารถแกะถอดออกเองได้ ขนาดความจุ 3,340 mAh, มีช่องสำหรับใส่ซิมขนาด Nano SIM จำนวน 2 ช่อง และช่องสำหรับ microSD card อีก 1 ช่อง (เครื่องที่ขายจริงในไทยจะเป็นรุ่น 1 ซิม)
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
Lumia 950 XL รันระบบปฏิบัติการ Windows 10 Mobile ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 810 ซึ่งเป็นชิปรุ่นท็อปของปีที่แล้วแบบ Octa-Core แบ่งการทำงานออกเป็นระดับ และใส่แรมมาให้ขนาด 3GB ส่วนความจุตัวเครื่องมีขนาด 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 200GB ในหน้าจอหลักมีการแสดงผลและจัดวางเป็นแบบ Live Tile สามารถแตะค้างเพื่อลากปรับ สลับ และรวมไอคอนไอคอนเป็นโฟลเดอร์เดียวกันได้
เมื่อลากแถบบาร์ด้านบนลงมาจะเป็นในส่วนของการแจ้งเตือนและแผงควบคุมการตั้งค่าต่าง ๆ ซึ่งในส่วนนี้จะแสดงรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ และเข้าสู่เมนูการตั้งค่าหลักของเครื่องได้
และเมื่อจอดับก็จะมีฟีเจอร์ Glance Screen ซึ่งเป็นฟีเจอร์การแสดงวันที่ เวลา ตารางนัดหมาย พยากรณ์อากาศ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ โดยไม่ต้องกดเปิดหน้าจอ
Windows Hello (Beta) ฟีเจอร์ยืนยันตัวตนเพื่อปลดล็อคหน้าจอ โดยการใช้กล้องหน้ากับแสงอินฟาเรดมาช่วยในการสแกนดวงตา 2 ข้างของผู้ใช้ สามารถเปิดใช้งานได้ที่เมนูการตั้งค่าตัวเครื่อง >> บัญชี >> ตัวเลือกการลงชื่อเข้าใช้
จากการทดสอบใช้งานเมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาในหน้าล็อคสกรีน เจ้าตัวWindows Hello จะเริ่มทำงานและค้นหาตาของผู้ใช้งานทันที และหากดวงตาของเราอยู่ในระยะที่ตัวเซ็นเซอร์สามารถตรวจพบและตรงกับที่บันทึกข้อมูลไว้ หน้าจอก็จะปลดล็อกได้ทันที ถือว่าการประมวลผลทำได้รวดเร็วมาก ๆ นอกจากนี้แล้วสำหรับการใช้งานฟีเจอร์นี้ สามารถใช้งานได้กับผู้ที่ใส่แว่นตาที่เป็นเลนส์แว่นแบบใสได้ แต่ถ้าเป็นเลนส์แว่นตาแบบดำจะใช้งานไม่ได้ เนื่องจากสีทึบปิดบังดวงตา
ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ 5.7 นิ้ว จึงทำให้รุ่นนี้มีฟีเจอร์การย่อขนาดหน้าจอให้สามารถกดใช้งานมือเดียวได้ โดยการแตะที่ปุ่ม Windows ค้างไว้ สามารถใช้งานได้เกือบทุกแอพพลิเคชัน
แอพพลิเคชั่นหลัก ๆ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่อง ได้แก่ กล้อง, ข้อความ, นาฬิกาปลุก, เครื่องคิดเลข, Continuum, Cortana, Music, Maps, Microsoft Edge, OneDrive, OneNote Outlook, เป็นต้น
Lumia 950 XL เป็นรุ่นแรกที่รองรับการใช้งาน Microsoft Continuum โดยการเชื่อมต่อกับจอ เมาส์ รวมถึงคีย์บอร์ดเพื่อใช้งานแทนพีซีได้ทันที และตัวพอร์ตแบบ USB Type-C ยังช่วยให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้นด้วย แต่เครื่องจะมีอาการร้อนกว่าปกติ
Microsoft Display Dock มีขนาดเล็กพกพาง่าย มีเตอร์เชื่อมต่อ รองรับการเชื่อมต่อกับจอ, คีย์บอร์ด, และเมาส์ไร้สายก็ได้ โดยด้านบนจะมีสัญลักษณ์ Windows และด้านหน้าจะมีไฟแสดงสถานะ
เมื่อทำการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนและจอ ก็จะสามารถใช้งาน Windows เสมือนพีซีคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งได้เลย โดยหน้าจอสมาร์ทโฟนยังใช้เป็นตัวเลื่อนเม้าส์ก็ได้ หรือจะหาเม้าส์กับคีย์บอร์ดมาต่อเพิ่มก็ได้เช่นกัน
กล้องถ่ายรูป
Lumia 950 XL มาพร้อมเลนส์กล้องความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.4 นิ้ว เป็นเลนส์ของ Carl Zeiss มีระบบกันภาพสั่นไหว OIS, ค่ารูรับแสง f/1.9 และฟีเจอร์การถ่ายภาพเคลื่อนไหวเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนการถ่ายภาพนั้น ๆ ได้ด้วย ในขณะที่กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
หน้าตาของตัวแอพกล้องถ่ายรูปค่อนข้างใช้งานง่าย สลับโหมดระหว่างการภาพนิ่ง และวิดีโอได้จากไอค่อนทางด้านขวา และสามารถปรับค่าต่าง ๆ ของกล้องได้ เช่น สมดุลแสงขาว (White Balance), ระยะโฟกัส (Focus), ความไวแสง (ISO), ความเร็วชัตเตอร์ (Speed Shutter) ได้จากแถบลัดตรงกลางบนหน้าจอ
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
- หน้าจอขนาดใหญ่ ความคมชัดระดับ 2K และใช้แผงหน้าจอ OLED บริเวณที่เป็นภาพสีดำจะไม่มีเปล่งแสง ทำให้สีดำก็จะดำสนิท และช่วยลดการใช้พลังงานด้วย
- ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Mobile เวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมฟีเจอร์ Continuum เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ โดยการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านสายไปยังหน้าจอแสดงผล
- เลนส์กล้องหลังความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.4 นิ้ว ประกอบด้วย 6 ชิ้นเลนส์ พร้อมเทคโนโลยี PureView, ระบบกันภาพสั่นไหว OIS และแฟลช 3 สี (Triple-LED)
- ความจำภายในตัวเครื่อง 32GB สามารถเพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 200GB
- แบตเตอรี่ 3,340 mAh รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว (Fast charging)
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- เครื่องค่อนข้างร้อนเมื่อใช้งานสักพัก ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 810