Smart Review
รีวิว vivo V3 ตัวเครื่องอะลูมิเนียม ดีไซน์สวยหรู และสแกนนิ้วมือ
vivo V3 สมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงาม เรียบหรูด้วยตัวเครื่องอะลูมิเนียม มาพร้อมหน้าจอขนาด 5 นิ้ว HD และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
สรุปสเปคและข้อมูล vivo V3
- ราคาเปิดตัว 8,990 บาท (พฤษภาคม 2016)
- ขนาดตัวเครื่อง 143.6 × 71 × 7.5 มม.
- น้ำหนัก 138 กรัม
- 3G, 4G LTE Cat4 150/50 Mbps
- 2 ซิมการ์ด (Micro SIM + Nano SIM)
- หน้าจอแสดงผล 5 นิ้ว IPS HD 720p
- รันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.5 (Android 5.1 Lollipop)
- ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616
- ซีพียู Octa-core (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53)
- จีพียู Adreno 405
- แรม 3 GB
- ความจำภายในตัวเครื่อง 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 128GB
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, PDAF และแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- รองรับ Wi-Fi, Bluetooth 4.1
- รองรับระบบ GPS, A-GPS
- แบตเตอรี่ 2,550 mAh ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล
vivo V3 มีดีไซน์ไม่ต่างไปจากรุ่นพี่ V3Max คือลดขนาดลงมา และเน้นความเพรียวบาง วัสดุหลักตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม ตัวเครื่องมีความบาง 7.5 มม. และน้ำหนัก 138 กรัม ซึ่งถือว่าบางและเบามาก ๆ
หน้าจอของ vivo V3 มีขนาด 5 นิ้ว เป็นแผงหน้าจอ IPS ความละเอียด 720p โดยบริเวณเหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ลำโพงเสียงสนทนา และเซ็นเซอร์วัดแสงกับ Proximity
ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มนำทางแบบสัมผัส 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ปุ่มทั้ง 3 ไม่มีไฟส่องสว่าง (Backlight) อาจมองไม่เห็นปุ่มเมื่อใช้งานในที่มืด
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และช่องสำหรับใส่ microSD card ซึ่งแยกต่างหาก ไม่เหมือนในรุ่น V3Max ที่ต้องเลือกว่าจะใส่ SIM 2 หรือ microSD card
ขอบด้านล่างตัวเครื่องทางด้านซ้ายเป็นช่องไมโครโฟน ถัดมาตรงกลางเป็นพอร์ตสำหรับ micro USB เพื่อชาร์จแบตหรือถ่ายโอนข้อมูล ซึ่งรองรับ OTG ด้วย และทางด้านขวาเป็นช่องเสียงลำโพง
ขอบด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มปิด/เปิดเครื่องหรือปิด/เปิดหน้าจอ
ขอบด้านซ้ายมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดซึ่งรองรับ 2 การ์ด ขนาด Micro SIM และ Nano SIM รองรับเครือข่าย 2G/3G/4G LTE ทั้ง 2 ช่อง แต่ต้องเลือกใช้งาน 3G/4G LTE ได้เพียงซิมเดียว ส่วนอีกซิมจะสลับไปใช้งานเครือข่าย 2G อัตโนมัติ
ตัวเครื่องที่ใช้ในรีวิวนี้เป็นสีโรสโกลด์ ซึ่งจะออกโทนสีทองชมพู โดยฝาด้านหลังมีลักษณะผิวเรียบ ไม่สามารถแกะเปิดฝาหลังได้ ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 2,550 mAh
เลนส์กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โมดูลกล้องนูนเหนือฝาหลังเล็กน้อย และมีไฟแฟลช LED หนึ่งดวง นอกจากนี้แล้วจะสังเกตเห็นว่าด้านหลังไม่มีเส้นเสาอากาศให้ดูขัดตาเหมือนกับค่ายอื่น เพราะว่า vivo V3 นั้นมีช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนบริเวณส่วนบนและส่วนล่าง ไม่ได้ขึ้นรูปจากโลหะอะลูมิเนียมชิ้นเดียวนั่นเอง
ถัดลงมาบริเวณกลางเครื่องจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ การทำงานถือว่าเร็วใช้ได้ แต่ถ้านิ้วเปียกชื้นจะสแกนไม่ค่อยไม่ได้ และมีโลโก้ vivo
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
vivo V3 รันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.5 ปรับแต่งบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop โดยไอคอนแอพและวิดเจ็ตต่าง ๆ จะถูกจัดเรียงไว้ในหน้าโฮมทั้งหมด สามารถแตะลากปรับตำแหน่งการจัดวางหรือลบออกจากหน้าโฮมก็ได้ รวมถึงการเปลี่ยนเอฟเฟ็กต์การเลื่อนหน้าจอ และซ่อนแอพพลิเคชั่นด้วยการล็อครหัสเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
เมื่อแตะบนหน้าจอพร้อมกับปัดลง จะเป็นการเรียกใช้ตัวค้นหา แต่ถ้าลากแถบด้านบนลงมาจะเป็นการเรียกดูรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ และถ้าแตะแล้วลากขอบด้านล่างขึ้น จะเป็นเรียกใช้งานในส่วนของ Control panel ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถปิดการทำงานของแอพพลิเคชั่นได้ด้วย
และสำหรับใครที่เบื่อหน้าตาเดิม ๆ ก็สามารถเปลี่ยนธีมได้ ซึ่งบน vivo V3 ก็มีระบบธีมออนไลน์ให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี
ฟังก์ชั่นการจับภาพหน้าจอสามารถทำได้โดยกดปุ่มปิด/เปิดเครื่องพร้อมกับปุ่มปุ่มโฮม ใช้จังหวะการกดพร้อมกันแล้วปล่อย ไม่ต้องกดค้างไว้นาน หรือถ้าอยากจับภาพหน้าจอแบบพิเศษก็สามารถเรียกใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ ซึ่งสามารถจับภาพหน้าจอแบบยาว, บันทึกวิดีโอหน้าจอ, เลือกจับภาพเฉพาะส่วนแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า และเลือกส่วนที่ต้องการจับภาพเป็นรูปร่างขำ ๆ ด้วยการวาดแบบอิสระ
ระบบลายนิ้วมือรองรับการใช้งานสำหรับปลดล็อกหน้าจอ และใช้แทนรหัสผ่านสำหรับพื้นที่ส่วนตัว
ฟังก์ชั่นการใช้งานอัจฉริยะ เป็นฟังก์ชั่นการเรียกใช้งานขณะหน้าจอปิดอยู่ รวมถึงการสั่งงานโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้ได้เข้ามาอยู่บนสมาร์ทโฟน Android แทบจะทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่นราคาประหยัด ระดับกลาง หรือเรือธง มาดูกันว่า vivo V3Max มีฟังก์ชั่นนี้ที่สามารถทำอะไรได้บ้าง
- Smart wake เป็นการแตะแล้ววาดนิ้วลงบนหน้าจอขณะหน้าจอปิดอยู่เพื่อสั่งงานหรือเรียกใช้งาแอพพลิเคชั่นตามที่ได้กำหนดค่าเอาไว้ เช่น วาดตัวอักษร C เพื่อเรียกใช้งานการโทร, แตะแล้วลากลงเพื่อเปิดใช้งานแอพกล้อง เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังสามารถกำหนดท่าทางการเรียกใช้งานอื่น ๆ ได้ด้วย
- การใช้งานโดยไม่สัมผัส ได้แก่ ปัดฝามือเหนือหน้าจอเพื่อสถานะของมือถือ เช่น เวลาบนหน้าจอ หรือปัดฝามือเหนือหน้าจอเพื่อปลดล็อคหน้าจอก็ได้
- หน้าจอสว่างอัจฉริยะ เป็นการเปิดหน้าจอใช้งานโดยอัตโนมัติผ่านการสั่งงาน ได้แก่ เมื่อหยิบออกจากกระเป๋า, แตะหน้าจอ 2 ครั้งขณะหน้าจอปิดอยู่ และหน้าจอจะไม่ดับเมื่อมองหน้าจออยู่
- การโทรอัจฉริยะ ได้แก่ การเข้าไปดูรายชื่อโทรศัพท์แล้วยกมือถือแนบหูเพื่อโทรออกได้ทันที หรือเมื่อมีสายเข้าก็ยกแนบหูเพื่อรับสายได้ทันที เป็นต้น
- การเขย่าเพื่อเปิดแฟลชด้านหลังเป็นไฟฉาย เมื่อหน้าจอเปิดอยู่ในหน้าล็อคสกรีน หรืออยู่ในโหมดสแตนด์บาย แต่ถ้าหน้าจอปิดอยู่จะไม่สามารถเขย่าเพื่อเปิดไฟฉายได้
- การซูมโดยการใช้นิ้วหนึ่งแตะค้างไว้บนรูปภาพแล้วเอียงมือถือเพื่อซูม
- การเตือนอัจฉริยะ เป็นการสั่นเตือนหากมีรายการแจ้งสายที่ไม่ได้รับหรือข้อความเตือนค้างอยู่เมื่อหยับมือถือขึ้นมา
i Manager แอพพลิเคชั่นจัดการระบบที่มีครบทุกฟังก์ชั่นและใช้งานง่ายเพียงคลิกเดียว มีการอัปเดทหน้าจอแบบใหม่ดูน่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมฟังก์ชั่นต่าง ๆ ได้แก่ การล้างข้อมูล, การกำหนดการใช้ข้อมูลอินเตอร์เน็ต, จัดการแอพ, จัดการแบตเตอรี่, บล็อคสายโทรเข้า และตั้งรหัสผ่านพื้นที่ส่วนตัว หรือจะคลิกเพียงครั้งเดียวที่วงกลมใหญ่ ๆ ด้านบนเพื่อให้ระบบจัดการหน่วยความจำให้อัตโนมัติ
สำหรับการจัดการแบตเตอรี่ก็มีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงมาให้ด้วย เหมาะสำหรับยามฉุกเฉินที่แบตใกล้หมดแล้วหาที่ชาร์จไม่ได้ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งานได้เพียงฟังก์ชั่นพื้นฐานเท่านั้น ได้แก่ นาฬิกาปลุก, รายชื่อ, โทรศัพท์ และข้อความ ทั้งนี้ก็เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานพลังงานให้ได้ยาวนานที่สุด นอกจากนี้แล้วยังปรับไปใช้งานในโหมด 2G และตัดการเชื่อมต่อข้อมูลอินเตอร์เน็ตด้วย
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyroscope Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ
ความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม - Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน
vivo V3 รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616 ซีพียู Octa-core (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53) กับจีพียู Adreno 405 และแรม 3 GB แม้ว่าตัวซีพียูจะรองรับ 64-bit แต่ตัวระบบปฏิบัติการยังเป็น 32-bit
โดยผลการทดสอบ AnTuTu 6.1.4 ในโหมด 32-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 40,979 คะแนน ระดับคะแนนถืออยู่ระดับที่ดีสำหรับสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ vivo V3 ทำคะแนน Single-Core ได้ 693 คะแนนถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี และ Multi-Core ทำได้ 2,966 คะแนน
การทดสอบเล่นเกมทำได้ดี ลื่นไหล สำหรับเกมที่มีกราฟิกสวยงามทั่วไป แม้หน้าจอจะมีความคมชัดในระดับ HD
กล้องถ่ายรูป
vivo V3 มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ระบบโฟกัสแบบ PDAF และแฟลช LED สามารถแตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส และลากปรับแสงได้ แต่ไม่สามารถแยกจุดวัดแสงจากจุดโฟกัสได้
แอพกล้องรองรับการถ่ายภาพด้วยโหมด HDR, พาโนรามา, มีลูกเล่นระบุเพศเพื่อปรับภาพให้ออกมาเหมาะสมระหว่างชายกับหญิง และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p
กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีโหมดหน้าสวยสำหรับการเซลฟี่ และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
- vivo V3 เป็นรุ่นเล็กที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ V3Max ในราคาที่ถูกลงมา ทั้งวัสดุ ดีไซน์ และฟีเจอร์ต่าง ๆ มีให้ใช้งานแบบครบครับเหมือนกัน โดยลดความละเอียดหน้าจอลงมาในระดับ HD และแบตเตอรี่ลดลงนิดหน่อย
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และแยกถาดใส่ microSD card มาให้ต่างหาก รองรับความจุสูงสุด 128GB
- ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8939v2 Snapdragon 616 ซีพียู Octa-core 64-bit แต่เสียดายที่ระบบปฏิบัติการยังเป็น 64-bit
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, PDAF และแฟลช LED และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- ฟีเจอร์ด้านเสียงเป็นหนึ่งจุดเด่นของสมาร์ทโฟนจาก vivo ซึ่งให้คุณภาพเสียงในระดับ Hi-Fi
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วด้านหลังตัวเครื่อง
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- หน้าจอ HD อาจดูด้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ ระดับราคาเดียวกัน โดยเฉพาะแบรนด์ที่มาจากจีนด้วยกัน
- ไม่มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
- แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
ขอบคุณ vivo Service (Thailand) Co.,Ltd.