Featured
รีวิว Huawei Y6II สมาร์ทโฟนจอใหญ่ ฟีเจอร์ครบ และแบตอึด 3,000mAh พร้อมรองรับ 4G
Huawei Y Series สมาร์ทโฟน 3 รุ่นใหม่ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ ความคมชัดระดับ HD และรองรับการใช้งาน 4G ได้แก่ Huawei Y6II, Y5II และ Y3II ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,090 บาท
สรุปข้อมูลและสเปค Huawei Y6II, Y5II และ Y3II
รุ่น | Huawei Y6II | Huawei Y5II | Huawei Y3II |
ราคาเปิดตัว | 5,990.- | 3,690.- | 3,090.- |
ความบางตัวเครื่อง | 8.45 มม. | 8.9 มม. | 9.9 มม. |
ขนาดหน้าจอ | 5.5 นิ้ว | 5.0 นิ้ว | 4.5 นิ้ว |
ความละเอียดจอ | 720 x 1280 พิกเซล | 720 x 1280 พิกเซล | 480 x 854 พิกเซล |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 Marshmallow | Android 5.1 Lollipop | Android 5.1 Lollipop |
ซีพียู | HiSilicon Kirin620 | Mediatek MT6735P | Mediatek MT6735M |
Octa-core 1.2 GHz Cortex-A53 | Quad-core 1.3 GHz Cortex-A53 | Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53 | |
จีพียู | Mali-450 MP4 | Mali-T720MP2 | Mali-T720MP2 |
แรม | 2 GB | 1 GB | 1 GB |
ความจุตัวเครื่อง | 16 GB | 8 GB | 8 GB |
microSD สูงสุด 128 GB | microSD สูงสุด 32 GB | microSD สูงสุด 32 GB | |
กล้องหลัง | 13 ล้านพิกเซล, f/2.0, ระบบออโต้โฟกัส และแฟลช LED | 8 ล้านพิกเซล, f/2.0, ระบบออโต้โฟกัส และแฟลช LED | 5 ล้านพิกเซล, f/2.0, ระบบออโต้โฟกัส และแฟลช LED |
กล้องหน้า | 8 ล้านพิกเซล | 2 ล้านพิกเซล และแฟลช LED | 2 ล้านพิกเซล |
ซิมการ์ด | Dual SIM | Dual SIM | Dual SIM |
การเชื่อมต่อ | 4G, Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.1 | 4G, Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0 | 4G, Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0 |
GPS | ✓ | ✓ | ✓ |
แบตเตอรี่ | 3,000 mAh | 2,200 mAh | 2,100 mAh |
แกะกล่อง Huawei Y6II (Unboxing)
Huawei Y Series มาในกล่องสีแดง โดยในรุ่น Huawei Y6II มีอุปกรณ์ภายในกล่อง ดังนี้
- ตัวเครื่อง Huawei Y6II พร้อมแบตเตอรี่ฝังติดกับตัวเครื่อง และติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้เรียบร้อยแล้ว
- อะแดปเตอร์
- สายเคเบิล micro USB
- คู่มือการใช้งาน
- เคสกันรอย
- หูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
สำหรับเคสกันรอยที่มาในกล่องเป็นเคสแบบใส ใส่แล้วคลุมทั่วขอบตัวเครื่อง โดยจะเว้นช่องไว้สำหรับปุ่มกดด้านข้างและขอบด้านบนกับด้านล่างตัวเครื่อง
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
Huawei Y6II มีดีไซน์ที่สวยงามและดูทันสมัย โดยกรอบตัวเครื่องมีการดีไซน์ให้ดูมันวาวเป็นเงาตัดกับสีขาวของตัวเครื่อง และขอบตัวเครื่องมีความโค้งมน ช่วยให้จับกระชับมือละใช้งานมือเดียวได้ถนัดยิ่งขึ้น
หน้าจอของ Huawei Y6II มีขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล และเป็นแผงหน้าจอแบบ IPS ช่วยให้สีสันสดใสในทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นการมองหน้าจอจากด้านข้างตัวเครื่อง ในขณะที่สัดส่วนหน้าจอให้มาประมาณ 70.14% ของสัดส่วนตัวเครื่อง ถือว่าค่อนข้างเยอะมากสำหรับสมาร์ทโฟนในระดับราคานี้
เหนือหน้าจอ Huawei Y6II มี Proximity Sensor สำหรับการตรวจจับระยะห่างระหว่างผู้ใช้กับตัวเครื่องสมาร์ทโฟน เพื่อปิด/เปิดหน้าจอขณะใช้งานการโทรเมื่อแนบกับหู, ถัดมาตรงกลางเป็นลำโพงสำหรับเสียงสนทนา และเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ล่างหน้าจอมีคำว่า Huawei และมีปุ่มนำทาง 3 ปุ่มอยู่บนหน้าจอแสดงผล ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาดมาตรฐานทั่วไป 3.5 มม.
ขอบด้านล่าง เริ่มจากด้านซ้ายจะเป็นช่องของไมโครโฟนที่ดีไซน์เหมือนกับช่องลำโพง, ตรงกลางเป็นพอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB สำหรับชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายเคเบิล และช่องด้านขวาจะเป็นช่องสำหรับลำโพงของตัวเครื่อง
ขอบด้านซ้ายไม่มีปุ่มใด ๆ โดยตัวเครื่องของ Huawei Y6II มีความบางอยู่ที่ 8.45 มม.
ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับปิด/เปิดตัวเครื่องหรือกดเพื่อปิด/เปิดหน้าจอก็ได้
ฝาด้านหลังมีลักษณะผิวเรียบและมีการดีไซน์ลวดลายให้ดูสวยงาม
เลนส์กล้องหลังของ Huawei Y6II มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED และมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ฝาหลังสามารถแกะเปิดได้ ภายในจะมีแบตเตอรี่ที่ฝังติดกับตัวเครื่องขนาดความจุ 3,000 mAh ไม่สามารถแกะถอดเองได้
Huawei Y6II มีช่องใส่ซิมการ์ดจำนวน 2 ช่อง รองรับขนาด micro SIM ทั้ง 2 ช่อง และช่องสำหรับ microSD card รองรับความจำสูงสุด 128GB
นอกจากรุ่น Huawei Y6II แล้ว ก็ยังมีรุ่นเล็กในไซส์ขนาดกลาง Huawei Y5II ที่มีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD และสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ดเช่นเดียวกัน
Huawei Y5II มีกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นรุ่นเดียวใน Y Series นี้ที่มีไฟแฟลช LED สำหรับกล้องหน้า เพื่อช่วยเพิ่มความสว่างในการเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในที่มืด
และรุ่นน้องเล็กสุดในซีรีส์นี้ Huawei Y3II ที่มีขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้ว สามารถใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับระบบ 4G LTE อีกด้วย และให้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 2,100 mAh ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอของรุ่นนี้
ลำโพงด้านหลังของ Huawei Y3II ถือว่าให้ความดังในระดับที่เกินราคาสำหรับสมาร์ทโฟนราคา 3 พันบาท และมาพร้อมฟีเจอร์ Rainbow Light ซึ่งเป็นแสงไฟวงกลมหลากสีสันที่ล้อมรอบเลนส์กล้องหลัง โดยเมื่อเปิดเพลงจะมีไฟสว่างขึ้นมาและเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ตามจังหวะเสียงเพลง และใช้เป็นไฟแจ้งเตือนสถานะต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น แจ้งเตือนสายเรียกเข้าที่สามารถกำหนดสีให้แต่ละรายชื่อได้ เป็นต้น
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
Huawei Y6II รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย EMUI เวอร์ชั่น 4.1 ที่มีหน้าตาดูสวยงามในแบบเรียบง่าย ซึ่งจะมีลูกเล่นอย่างหนึ่งที่หลายคนน่าจะชื่นชอบกันของ Huawei ในหน้าล็อกสกรีน ก็คือจะมีภาพวอลเปเปอร์สลับเปลี่ยนให้ไม่ซ้ำในทุกครั้งที่ปิด-เปิดหน้าจอ ช่วยให้ไม่จำเจหรือน่าเบื่อกับภาพล็อกสกรีนที่เห็นภาพเดียวเดิม ๆ ตลอดการใช้งาน และสามารถปลดล็อกเข้าใช้งานกล้องถ่ายรูปได้ด้วย
ภาพในหน้าล็อกสกรีนสามารถเลือกรูปที่ต้องการให้มาแสดงได้ โดยการปัดขอบด้านล่างขึ้นในหน้าล็อกสกรีนก็จะพบกับ Lockscreen Quick โผล่ขึ้นมา แล้วเลือกเมนู “หน้าปก” ซึ่งสามารถเพิ่มรูปภาพได้เอง และไม่เพียงแต่สามารถตั้งค่าภาพล็อกสกรีนได้ ยังสามารถเรียกใช้งานเครื่องมืออื่น ๆ จาก Lockscreen Quick ได้ด้วย ได้แก่ เครื่องบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข, ไฟฉาย และกล้องถ่ายรูป
ในหน้าโฮมสามารถปรับแต่งโดยการเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, เพิ่มวิดเจ็ต, เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์การเลื่อนหน้าจอ และไอคอนแอพพลิเคชั่นทุกตัวจะถูกจัดวางไว้ในหน้าโฮมทั้งหมด เนื่องจาก Huawei Y6II จะไม่มีในส่วนของ App Drawer สำหรับแยกการจัดวางรายการแอพพลิเคชั่น
เมื่อลากแถบบาร์ด้านบนลงจะมา จะเป็นในส่วนของรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ ซึ่งจะแสดงเป็นแบบแบบไทม์ไลน์เรียงลงมาตามเวลาการแต้งเตือน เราสามารถเลือกแตะที่รายการเพื่อเปิดดู หรือปัดซ้าย/ขวาเพื่อลบการแจ้งเตือนได้ และอีกส่วนจะเป็นแผงควบคุมการทำงานหรือ Quick Settings สำหรับปิด-เปิดการทำงานต่าง ๆ โดยมีเมนูสำหรับจับภาพหน้าจอให้ด้วย
ในส่วนของ App Switcher หรือ Recent App จะแสดงรายการแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานอยู่ สามารถปัดที่รายการแต่ละอันเพื่อปิดการทำงาน หรือแตะเพื่อเข้าใช้งานต่อก็ได้เช่นกัน และสามารถปิดการทำงานแอพทั้งหมดโดยแตะที่ปุ่มไอคอนถังขยะ
ในหน้า Recent App นอกจากรายการแอพต่าง ๆ แล้ว ยังแสดงหน่วยความจำแรมที่ว่างอยู่ ซึ่งการปิดการทำงานแอพเบื้องหลังก็จะช่วยเคลียร์หน่วยความจำให้เหลือเพิ่มขึ้นด้วย
หากเบื่อหน้าจอแบบเดิม ๆ Huawei ก็มีระบบธีมให้เลือกเปลี่ยนได้หลากหลายแบบ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันได้แบบฟรี ๆ
สไตล์ของหน้าจอ เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ของ Huawei สำหรับเลือกรูปแบบหน้าจอหลักได้ 2 แบบ คือ มาตรฐาน และเรียบง่าย ซึ่งรูปแบบเรียบง่ายจะเหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นหัดใช้งานสมาร์ทโฟน ด้วยไอคอนขนาดใหญ่ และตัวหนังสือเมนูต่าง ๆ ก็ใหญ่ตามไปด้วย
ปุ่มนำทางบริเวณล่างหน้าจอ สามารถจัดตำแหน่งตามความถนัดของแต่ละคนได้ หรือจะเพิ่มเมนูสำหรับเรียกดูการแจ้งเตือนก็ได้เช่นกัน และนอกจากนี้ก็ยังมีแผงปุ่มไอคอนลัด ซึ่งเป็นการรวมไอคอนปุ่มนำทางไว้ในปุ่มเดียว และปุ่มนี้จะลอยอยู่บนหน้าจอทุกหน้า
ฟีเจอร์การควบคุมการเคลื่อนไหวที่มีให้ใช้งานในรุ่น Huawei Y6II ได้แก่ การคว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า หรือเสียงปลุก โดยไม่ต้องกดแตะบนหน้าจอ
ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้วของ Huawei Y6II ก็จะมีฟีเจอร์การใช้งานมือเดียว ซึ่งเป็นการลดขนาดการแสดงผลให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กลง สามารถใช้งานมือเดียวได้ และสามารถใช้งานกับแป้นพิมพ์ Huawei ได้ด้วย
การใช้งาน 2 ซิมการ์ดของ Huawei Y6II สามารถเปิดสแตนด์บายได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม โดยช่องใส่ซิมทั้ง 2 ช่องรองรับเครือข่ายทั้ง 2G, 3G และ 4G แต่ต้องเลือกเปิดใช้งานว่าจะให้ใช้งานที่ซิมตัวใดตัวหนึ่ง แล้วอีกซิมจะสลับไปเป็น 2G อัตโนมัติ สามารถเลือกสลับการใช้งานซิมได้จากเมนูการตั้งค่าในตัวเครื่อง
Huawei Y6II รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi 802.11 b/g/n โดยมีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Wi-Fi+ เป็นการสับเปลี่ยนการใช้งานระหว่างเน็ตจากเครือข่าย Wi-Fi และเน็ตจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออย่างอัจฉริยะ เพื่อให้การท่องอินเตอร์เน็ตลื่นไหล ไม่สะดุด และสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ให้อัตโนมัติเมื่อเจอ Wi-Fi ที่เคยเชื่อมต่อ
นอกจากนี้ก็รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เป็นเวอร์ชั่น 4.1 หรือเวอร์ชั่น 4.0 แบบประหยัดพลังงาน (LE) ส่วนการเชื่อมต่อผ่านสายจะใช้พอร์ตแบบ micro USB
Huawei Y6II มีแอพสำหรับจัดการโทรศัพท์ได้ง่าย ๆ ในคลิกเดียว ซึ่งภายในแอพตัวนี้สามารถใช้เคลียร์หน่วยความจำระบบ, จัดการการใช้งานเน็ตมือถือ และใช้ล็อกแอพพลิเคชั่นเพื่อความเป็นส่วนตัวได้
Huawei Y6II มีแบตเตอรี่ที่มีความจุ 3,000 mAh ถือว่าเยอะมากสำหรับสมาร์ทโฟนระดับราคานี้ และก็ยังมีฟีเจอร์สำหรับจัดการพลังงานให้เลือกใช้งานด้วย ได้แก่ โหมดประสิทธิภาพ, โหมดอัจฉริยะ และโหมดขั้นสูง ซึ่งจะมีการปรับการทำงานของซีพียูและจัดการรวมถึงปิดการทำงานเบื้องหลังด้วยเพื่อลดการใช้พลังงาน
สำหรับโหมดประหยัดพลังงานขึ้นสูง จะใช้งานได้เฉพาะฟังก์ชั่นพื้นฐาน เช่น การโทร ข้อความ เป็นต้น และหน้าจอแสดงผลจะเปลี่ยนเป็นขาวดำเพื่อแลกกับการยืดระยะเวลาให้ใช้งานได้นานขึ้น เหมาะสำหรับยามฉุกเฉินที่ไม่สามารถหาที่ชาร์จแบตได้
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน
Huawei Y6II รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง HiSilicon Kirin620 Octa-core 1.2GHz Cortex-53 กับจีพียู Mali-450 MP4 และความจำแรม 2GB ซึ่งทั้งตัวระบบปฏิบัติการและซีพียูเป็น 64-bit ทั้งคู่
โดยผลการทดสอบ AnTuTu v6.2.1 ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 30,584 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Huawei Y6II ทำคะแนน Single-Core ได้ 590 และ Multi-Core ทำได้ 2,673 คะแนน
สำหรับการเล่นเกมทั่วไปก็ทำงานได้ดี รวมถึง Pokémon GO ก็สามารถเล่นได้ปกติ แต่จะเปิดการเล่นแบบ AR ไม่ได้หรือเปิดก็จะไม่เห็นตัวโปเกมอน เนื่องจากไม่มี Gyro Sensor ซึ่งเป็นตัวตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกนสำหรับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและ
กล้องถ่ายรูป
Huawei Y6II มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 และมีแฟลช LED สำหรับช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในที่มืด ซึ่งแอพกล้องสามารถแยกจุดวัดแสงออกจาจุดโฟกัสได้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้การถ่ายภาพทำออกมาได้ดีขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแสงกับจุดที่ต้องการโฟกัสมีความแตกต่างกันมาก
ถ่ายภาพได้ขนาดสูงสุด 4160 x 3120 พิกเซล (ประมาณ 12.98 ล้านพิกเซล) ในอัตราส่วน 4:3, รองรับการแนบตำแหน่งแผนที่ลงภาพถ่าย และระบบตรวจจับรอยยิ้มอัตโนมัติ
โหมดถ่ายภาพที่มีให้ใช้งาน เช่น พาโนรามา, HDR, มืออาชีพ (โหมดโปร), Light Painting, อาหารน่าอร่อย เป็นต้น
สำหรับโหมดพาโนรามา เป็นการแพนกล้องไปในแนวยาวจากซ้ายไปขวา เพื่อเก็บภาพที่มีขนาดกว้าง เช่น การถ่ายภาพวิว เป็น
โหมดมืออาชีพ หรือโหมดโปร สามารถปรับค่าของถ่ายรูปได้เอง ได้แก่ จุดโฟกัส, ISO, ความเร็วชัตเตอร์ได้นานสุด 8 วินาที, การชดเชยแสง +/-2 และค่า White Balance
Light Painting เป็นการเปิดหน้ากล้องได้นานขึ้น ใช้เป็นลูกเล่นในการจับภาพแสงไฟตามทิศทางของแสง เหมาะกับการถ่ายภาพแสงไฟรถยนต์ตามท้องถนน หรือวาดสัญลักษณ์ ตัวหนังสือต่าง ๆ ด้วยแสงไฟ เป็นต้น โหมดนี้ต้องถือเครื่องมือถือให้นิ่ง ๆ หรือใช้ขาตั้งกล้องช่วยก็ได้
โหมด HDR เป็นการถ่ายรูปหลายรูปแบบอัตโนมัติ ที่มีค่าความสว่างของแสงแตกต่างกัน แล้วเอาภาพมารวมกันเป็นภาพเดียว ทำให้เวลาถ่ายภาพด้วยโหมดนี้จำเป็นต้องถือกล้องนิ่ง ๆ สักพัก เพื่อให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดครบ ทั้งพื้นที่ส่วนที่สว่างและส่วนที่มืด
อาหารน่าอร่อย เป็นโหมดนี่ช่วยเพิ่มสีสันของอาหารให้ดูน่ากินมากขึ้น โดยการเพิ่มโทนสีเหลือส้ม ซึ่งเหมาะกับการถ่ายอาหารในระยะใกล้
กล้องหน้าของ Huawei Y6II มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมดแต่งหน้าสวยที่ปรับระดับความเนียนได้ 10 ระดับ ซึ่งฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานในรุ่น Huawei Y5II และ Y3II ด้วย
Huawei Y6II ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Perfect Selifes สำหรับการเซลฟี่ที่สมบูรณ์แบบด้วยการถ่ายรูปหน้าในทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า, ด้านข้าง และด้านบน จากนั้นระบบจะทำการตั้งค่าเอฟเฟ็กต์ใบหน้าของเราให้ออกมาดูดีที่สุดเพื่อใช้สำหรับการเซลฟี่ในครั้งต่อไปแบบอัตโนมัติ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า Huawei Y6II
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง Huawei Y6II
สรุปจุดเด่น
- Huawei Y Series เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่จัดเต็มทุกฟีเจอร์ที่ต้องมีกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยขนาดหน้าจอ 3 รุ่น 3 ไซส์ เลือกได้ตามความชอบ และดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
- ทุกรุ่นใน Y Series รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G และมาพร้อมฟีเจอร์กล้องสำหรับการเซลฟี่ด้วยโหมดหน้าสวยที่ปรับได้ถึง 10 ระดับ
- Huawei Y6II ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนสมาร์ทโฟนจอใหญ่ 5.5 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD อีกทั้งมีฟีเจอร์ให้ใช้งานอย่างครบครัน และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ทั้งวันด้วยขนาดความจุ 3,000 mAh ในราคาที่จับต้องได้ง่าย เพียง 5,990 บาท
- Huawei Y5II และ Y3II เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนในช่วงระดับราคา 3 พันบาท
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- การใช้งาน 2 ซิมการ์ด สามารถเลือกใช้งานบนเครือข่าย 3G/4G ได้เพียง 1 ซิม แล้วอีกซิมจะสลับไปใช้งานบนเครือข่าย 2G
ขอขอบคุณ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย)