แอปเปิลประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ มาพร้อมกล้องหลังเลนส์คู่, ซีพียูเร็วแรงกว่าเดิม และกันน้ำได้
ปุ่มโฮมแบบใหม่ของ iPhone 7 สามารถรับรู้แรงกดได้ด้วย Force sensitive โดยตัวเครื่องสามารถกันฝุ่น กันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP67 คือกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที
กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซลของ iPhone 7 มีระบบกันภาพสั่นไหว ค่ารูรับแสง f/1.8 ประกอบด้วย 6 ชิ้นเลนส์ และชิปประมวลผลทำงานได้รวดเร็วขึ้นราว 60% อีกทั้งยังมาพร้อมแฟลช 4 ดวง ที่ช่วยให้ภาพถ่ายออกมาได้สว่างขึ้น 50% และกล้องหน้าของ iPhone 7 ขยับขึ้นไปเป็น 7 ล้านพิกเซล
iOS 10 รองรับการบันทึกภาพถ่ายเป็นไฟล์ RAW ได้แล้ว ด้วย API ใหม่ในชื่อ AVCapturePhotoOutput และไม่เพียงแต่รองรับแอพกล้องของ iOS แต่ยังรองรับการใช้งานกับแอพกล้องของนักพัฒนารายอื่นได้ด้วย
iPhone 7 Plus มาพร้อมกล้องหลังแบบคู่ โดยตัวหนึ่งทำหน้าที่ถ่ายภาพมุมกว้าง ในขณะที่อีกเลนส์จะทำหน้าที่เป็นเลนส์เทเลเพื่อดึงภาพระยะไกลมาให้เห็นได้ใกล้ ๆ อีกทั้งยังซูมแบบออพติคอลได้ 2 เท่า และซูมแบบดิจิตอลได้ถึง 10 เท่า
กล้องหลังคู่ของ iPhone 7 Plus ช่วยให้ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตามภาพตัวอย่างจะเห็นดวงไฟที่ฉากหลังเบอลเป็นดวง ๆ แบบโบเก้
มาถึงในส่วนของหน้าจอ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาพร้อมหน้าจอแบบ Retina HD ที่สว่างขึ้นกว่าเดิมราว 25% และให้สีสันที่สมจริงมากขึ้น มาตรฐานเดียวกับโรงภาพยนต์
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาพร้อมลำโพงสเตอริโอที่อยู่ด้านบนและด้านล่างตัวเครื่อง เพื่อเพิ่มสามารถด้านเสียง โดยเฉพาะการเล่นสื่อมัลติมีเดียที่ให้เสียงสมจริงยิ่งขึ้น
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ไม่มีช่องสำหรับหูฟัง 3.5 มม.อีกต่อไปแล้ว โดยใช้พอร์ต Lightning ในการเชื่อมต่อกับหูฟัง ซึ่งมีทั้งหูฟังแบบสายที่มาพร้อมพอร์ต Lightning หรือใช้ตัวแปลงพอร์ตเป็น 3.5 มม. ที่แถมมาในกล้องก็ได้ และซื้อหูฟังแบบไร้สายผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth เพิ่มก็ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ในชื่อ AirPods รองรับการเชื่อมต่อเพื่อใช้งานได้ทั้งกับ iPhone และ Apple Watch
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาพร้อมชิปประมวลผล Apple A10 ทำงานได้รวดเร็ซขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น ซึ่งทำงานได้ดีขึ้นราว 40% เมื่อเทียบกับชิป A9 และเร็วเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับชิป A8
ในส่วนของหน่วยประมวลผลกราฟิกก็ทำงานได้ดีกว่าเดิม 50% เมื่อเทียบกับชิป A9 และเร็วแรงกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับชิป A8
iPhone 7 มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม 2 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับ iPhone 6s ในขณะที่ iPhone 7 Plus ใช้งานได้นานขึ้น 1 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับ iPhone 6s Plus
ความแตกต่างระหว่าง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus หลัก ๆ ได้แก่ ขนาดหน้าจอ และเลนส์กล้องหลังที่เป็นคู่
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 32GB, 128GB และ 256GB มาด้วยกันทั้งหมด 5 สี ได้แก่ โรสโกลด์, ทอง, เงิน, ดำธรรมดา (Black) และดำดำเจ็ทแบล็คหรือดำเงา (Jet Black) โดย iPhone 7 มีราคาเริ่มต้น 649 ดอลลาร์ (ประมาณ 22,400 บาท)
หมายเหตุ : สีดำเจ็ทแบล็คมีขายเฉพาะในรุ่นความจุ 128GB
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เริ่มเปิดพรีออเดอร์ 9 กันยายนนี้ และวางขายในกลุ่มประเทศแรก 16 กันยายนี้
ในขณะที่ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus แอปเปิลยกเลิกการวางขายแล้ว
เรื่องที่เกี่ยวข้องและห้ามพลาด