Apple News
แกะกล่องพรีวิว iPhone 7 Plus สีดำ และสีเจ็ทแบล็ค เครื่องศูนย์ไทยอย่างเป็นทางการ
iPhone 7 Plus ว่ากันว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เร็วแรงที่สุดจากแอปเปิลในขณะนี้ และเร็วแรงที่สุดจากผลการทดสอบบนฐานข้อมูล AnTuTu ประจำเดือนกันยายน 2016 โดยรุ่นดังกล่าวก็เดินทางมาถึงประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งวันนี้เราจะมาแกะกล่องพรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้ได้ดูกันก่อนครับ
iPhone 7 Plus มาในกล่องกระดาษสีขาวเรียบสำหรับสีดำ (Black), สีเงิน (Silver), สีทอง (Gold) และสีโรสโกลด์ (Rose Gold) โดยตัวเครื่องสีเจ็ทแบล็ค (Jet Black) เป็นสีเดียวที่มาในกล่องสีดำเรียบ และมีเฉพาะรุ่นความจุ 128GB กับ 256GB เท่านั้น (iPhone 7 ก็เช่นกัน)
ด้านหลังกล่องก็มีรายละเอียดบอกความจุของตัวเครื่อง, อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีในกล่อง และรายละเอียดต่าง ๆ เช่น EMEI ตัวเครื่อง
เมื่อแกะเปิดฝากล่องออกมา จะพบกับคู่มือใช้งานที่มีเข็มจิ้มถาดใส่ซิมกับสติกเกอร์แอปเปิลอยู่บนสุด ตามมาด้วยตัวเครื่อง iPhone 7 Plus สีเจ็ทแบล็คที่ปิดด้วยฟิล์มพลาสติกใสทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
อุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ในกล่อง ได้แก่
- ตัวเครื่อง iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus มีฟิล์มพลาสติกปิดอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- หัวชาร์จอะแดปเตอร์
- สาย USB พอร์ต Lightning
- หูฟังพอร์ต Lightning
- อะแดปเตอร์แจ็คหูฟังแปลงพอร์ต Lightning to 3.5 mm (Headphone Jack Adapter)
ตัวเครื่องของ iPhone 7 Plus สีเจ็ทแบล็คจะมีพื้นผิวที่มีความมันเงาสูงที่เกิดขึ้นจากกระบวนการชุบผิวและขัดเงา จึงทำให้สีใหม่นี้ค่อนข้างจะผลิตยาก
สำหรับตัวเครื่องสีดำ และสีเจ็ทแบล็ค จะมาพร้อมกับสีดำทั้งตัวเครื่องคือทั้งด้านหน้าและด้านหลังรวมถึงปุ่มกดต่าง ๆ ในขณะที่สีอื่นจะมีด้านหน้าเป็นสีขาว ได้แก่ สีทอง สีเงิน และสีโรสโกลด์
ปุ่มโฮมของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เปลี่ยนเป็นแบบใหม่แล้ว แค่กดเบา ๆ ก็พอเพราะว่ามีความไวต่อแรงกด และเสริมความสามารถในการทำงานร่วมกับ Taptic Engine หรือตัวสั่นเบา ๆ ที่เวลาเราแตะนั่นเอง
เส้นเสาอากาศที่คาดอยู่ด้านหลังตัวเครื่องก็ถูกขยับให้ชิดขอบ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือกล้องหลังที่เป็นเลนส์คู่ 12 ล้านพิกเซล โดยเลนส์ตัวหนึ่งทำหน้าที่เป็นเลนส์เก็บภาพมุมกว้าง มีค่ารูรับแสง
กล้องหลัง iPhone 7 Plus มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอลด้วยนะ (OIS) และมีแฟลช Dual Tone ที่เป็นไฟแบบ LED มากถึง 4 ดวง แต่อย่าลืมว่าตัวกล้องมีลักษณะนูนขึ้นมาเหนือฝาหลัง ต้องระวังเมื่อวางกับพื้น
การซูมแบบออพติคอลหรือการซูมด้วยเลนส์ในรุ่น iPhone 7 Plus ทำได้สูงสุด 2 เท่า ซึ่งภาพที่ได้ใกล้เคียงกับภาพถ่ายในระยะปกติ และสามารถซูมแบบดิจิตอลได้จนสูงสุด 10 เท่า แต่ภาพที่ได้จากการซูมมากกว่า 2 เท่าก็จะเริ่มแตก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง iPhone 7 Plus
ตัวอย่างภาพถ่ายเปรียบเทียบระหว่างการซูม 2 เท่า
สรุปสเปค iPhone 7 Plus
- หน้าจอแสดงผลขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด 1080p (401ppi) และรับรู้แรงกดด้วยเทคโนโลยี 3D Touch
- ปุ่มโฮมรับรู้แรงกดแบบใหม่ที่มี Taptic Engine และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้ว Touch ID
- ชิปเซ็ต Apple A10 Fusion มาพร้อมซีพียู Quad-core 2.23GHz กับจีพียู Hexa-core และแรม 3GB
- ความจุตัวเครื่อง 32GB / 128GB / 256GB (สีเจ็ทแบล็คจะมีเฉพาะรุ่นความจุ 128GB กับ 256GB)
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซูมแบบออพติคอลได้ 2 เท่า, ค่ารูรับแสง f/1.8 พร้อมตัวกันภาพสั่นไหว OIS และแฟลช 4 ตัวแบบ Dual tone
- กล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2
- รองรับ 4G LTE Cat.9, Wi-Fi a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, NFC (สำหรับ Apple Pay)
- GPS/A-GPS และ GLONASS
- ลำโพงสเตอริโอ
- แบตเตอรี่ 2,900 mAh
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 คือกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที
จุดสังเกตเพิ่มเติมสำหรับ iPhone 7 Plus
- ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. แต่มีตัวแปลงพอร์ตแถมมาในกล่องสำหรับใช้งานกับหูฟังชนิดนี้ได้
- NFC มีก็เหมือนไม่มีเพราะใช้สำหรับระบบชำระเงินผ่าน Apple Pay เท่านั้น
- ไม่รองรับระบบชาร์จเร็ว และไม่รองรับการชาร์จไร้สาย
- ไม่สามารถใช้งานหูฟังพร้อมกับชาร์จแบตผ่านพอร์ต Lightning ได้
- สีดำเจ็ทแบล็คเกิดคราบนิ้วมือได้ง่ายและเห็นชัดกว่าสีอื่น รวมถึงเกิดรอยขีดข่วนก็เห็นชัดกว่าสีอื่นด้วยผิวที่มีความเงาพิเศษ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการพรีวิวแกะกล่องหลังจากได้เครื่องมาเพื่อให้ได้ดูกันก่อนเท่านั้น สำหรับรีวิวแบบเต็ม ๆ เจาะลึกทุกฟังก์ชั่น รอติดตามกันได้เร็ว ๆ นี้ครับ