Featured
รีวิว Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1” จอใหญ่เต็มตา พร้อมปากกา S Pen เขียนบนหน้าจอ
Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1” แท็บเล็ตจอใหญ่ที่มาพร้อมปากกา S Pen ขีดเขียนลงบนหน้าจอ หรือจะไฮไลท์งาน PDF ด้วยฟังก์ชั่น Write on PDF พร้อมแชร์ต่อได้ทันที
สรุปข้อมูลและสเปค Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1”
- ราคาเปิดตัว 12,900 บาท (พฤศจิกายน 2016)
- ขนาดตัวเครื่อง 254.3 x 164.2 x 8.2 มม.
- น้ำหนัก 558 กรัม
- 3G, 4G LTE Cat.4
- ขนาดซิม Nano SIM
- หน้าจอแสดงผล 10.1 นิ้ว TFT WUXGA ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล รองรับปากกา S Pen
- รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
- ชิปเซ็ต Exynos 7870
- ซีพียู Octa-core (4×1.6 GHz Cortex-A53 และ 4×1.0 GHz Cortex-A53)
- จีพียู Mali-T830 MP2
- แรม 3 GB
- ความจำภายในตัวเครื่อง 16 GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 256 GB
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส ค่ารูรับแสง f/1.9 และแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- รองรับ Wi-Fi a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2
- รองรับระบบ GPS/A-GPS, Glonass, Beidou
- แบตเตอรี่ 7,300 mAh ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1” เป็นแท็บเล็ตจอใหญ่ 10.1 นิ้ว วัสดุตัวเครื่องทำมาจากโพลีคาร์บอเนตผิวด้านลดการเกิดคราบรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี โดยตัวเครื่องมีสีขาวทั้งตัว และมีความบางเพียง 8.2 มม.
หน้าจอของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1” เป็นชนิด TFT ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล ซึ่งก็ให้สีสันความคมชัดในระดับที่ดูหนัง เล่นเกมได้สบาย ๆ ในราคาหมื่นต้น ๆ แต่ถ้าใครชินกับการใช้งานแท็บเล็ตรุ่นอื่นของ Samsung ที่มีหน้าจอ AMOLED อาจจะรู้สึกว่ารุ่นนี้ไม่ค่อยชัดมากนัก
เหนือหน้าจอมีเซ็นเซอร์ระบบปรับความสว่างหน้าจอ (Light Sensor) และเลนส์กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับเซลฟี่
ล่างหน้าจอมีปุ่มสัมผัส 2 ปุ่ม (ไม่มีไฟ Backlight) โดยปุ่มทางด้านซ้ายเป็นปุ่ม Recent Apps และปุ่มทางด้านขวาเป็นปุ่มย้อนกลับ ส่วนปุ่มกดตรงกลางเป็นปุ่มโฮม
ด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ถัดมาตรงกลางเป็นพอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายเคเบิล และไมโครโฟน
ด้านล่างตัวเครื่องมีลำโพง 2 ตัว ซ้ายและขวา สำหรับเสียงไฟล์สื่อมัลติมีเดีย และเสียงแจ้งเตือนต่าง ๆ ของตัวเครื่อง
ที่มุมตัวเครื่องมีช่องสำหรับเก็บปากกา S Pen
ด้านซ้ายตัวเครื่องไม่มีปุ่มใด ๆ ในขณะที่ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Power, ปุ่มปรับระดับเสียง, ช่องสำหรับ microSD card ความจุสูงสุด 256GB และช่องใส่ซิมการ์ดขนาด Nano SIM จำนวน 1 ช่อง
กล้องหลังมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ตัวเลนส์นูนขึ้นมาเหนือฝาหลัง และมีแฟลชแบบ LED โดยฝาหลังไม่สามารถแกะเปิดได้ ภายในจะมีแบตเตอรี่ขนาด 7,300 mAh
ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 10.1 นิ้ว จึงทำให้รุ่นนี้ค่อนข้างหนัก และอาจไม่สะดวกในการถือใช้งาน จึงมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Smart Cover เพื่อวางเป็นฐานสำหรับตั้งตัวเครื่องและปรับได้ 2 ระดับให้เหมาะกับการใช้งานได้
ปรับให้ตัวเครื่องวางในระดับที่ 1 สำหรับดูหนัง
ปรับให้ตัวเครื่องวางในระดับที่ 2 เพื่อการใช้งานบนหน้าจอ
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1” รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow รองรับการใช้งาน ได้สูงสุดถึง 9 บัญชีหรือ 9 คนในเครื่องเดียว และยังมีโหมดสำหรับเด็กด้วย เพื่อควบคุมและจำกัดการเข้าถึงข้อมูลในการใช้งานให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละวัย
Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1” เป็นแท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่เต็มตา เหมาะกับการดูหนัง ซึ่งหน้าจอรองรับไฟล์ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1920 x 1080) ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
จุดเด่นของ Galaxy Tab A with S Pen 10.1” ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดขายของรุ่นนี้เลยคือเป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมปากกา S Pen สำหรับการขีดเขียนลงบนหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นการผสมสีน้ำได้จากบนหน้าจอ, การแปลภาษา, การเลือกบันทึกภาพบางส่วนบนหน้าจอ, ทำภาพเคลื่อนไหว (GIF) จากไฟล์วิดีโอ และเขียนบน PDF
ฟีเจอร์ Create Note หรือการสร้างโน้ตด้วยปากกา S Pen ของ Galaxy Tab A with S Pen 10.1” สามารถเลือกใช้งานแปรงได้หลากชนิดมากขึ้นและความสามารถในการผสมสีเหมือนกับการใช้งนสีน้ำของจริงเพื่อวาดและระบายสีได้ด้วย
Smart Select หรือฟีเจอร์การเลือกอัจฉริยะ เป็นการเลือกพื้นที่บนหน้าจอได้อย่างอิสระตามความต้องการ และยังสามารถนำพื้นที่ที่เลือกนั้นมาแยกข้อความเพื่อแชร์ต่อได้ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์ให้เสียเวลา
Screen Write หรือการเขียนบนหน้าจอด้วยปากกา S Pen เป็นการเลือกภาพหน้าจอที่เปิดอยู่แล้วสามารถเขียนข้อความหรือทำไฮไลท์ลงไปได้
ฟังก์ชั่น Translate หรือแปลภาษาด้วยปลายปากกา S Pen เพียงจ่อปลายปากกาไว้เหนือคำที่ต้องการแปล ระบบก็ทำการสแกนคำนั้นแล้วทำการแปลภาษาออกมาได้ทันที โดยใช้ระบบแปลภาษาของ Google Translate รองรับเกือบทุกภาษาในโลก
Write on PDF หรือการเขียนลงบนไฟล์ PDF เพื่อไฮไลท์หรือแก้ไขบนไฟล์ PDF ได้ทันที
นอกจากนี้แล้วยังสามารถจดโน้ตลงบนหน้าจอขณะหน้าจอปิดอยู่ด้วยฟังก์ชั่น Screen-Off Memo เพียงดึงออกปากกา S Pen ออกมาเท่านั้น โดยไม่ต้องกดเปิดหน้าจอเพื่อปลดล็อคก่อน ซึ่งฟีเจอร์นี้ต้องเปิดใช้งานในเมนูการตั้งค่า S Pen ก่อน
Galaxy Tab A with S Pen 10.1” ใช้งานการโทรได้เหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่วไป เพียงแต่ต้องฟังเสียงคู่สนทนาผ่านลำโพงที่อยู่ด้านล่างตัวเครื่องหรือใช้หูฟังได้ แต่ไม่สามารถยกแนบหูโทรได้ เนื่องจากไม่มีลำโพงบริเวณเหนือหน้าจอ อีกทั้งอาจจะดูไม่เหมาะด้วยขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่และค่อนข้างหนัก
ผลทดสอบคะแนน Benchmark ประสิทธิภาพการทำงาน
Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1” รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow, ชิปเซ็ต Exynos 7870 ซีพียู 64 บิต Octa-core แบ่งการทำงานออกเป็น Quad-core 1.6 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53 กับจีพียู Mali-T830 และแรม 3GB แม้ว่าซีพียูจะเป็น 64 บิต แต่ทำงานระบบปฏิบัติการเป็น 32 บิต
ผลการทดสอบ AnTuTu V6.2.6 เป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม (RAM) และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู (GPU) ทำคะแนนรวมได้ 45,959 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1” ทำคะแนน Single-Core ได้ 690 และ Multi-Core ทำได้ 3,260 คะแนน
กล้องถ่ายรูป
Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1” มีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพได้ขนาดสูงสุดในอัตราส่วน 4:3 โดยตัวกล้องมีค่ารูรับแสง f/1.9 ระบบออโต้โฟกัส และไฟแฟลช LED
กล้องถ่ายรูปรองรับการแนบตำแหน่งแผนที่ลงในภาพถ่าย (Geo-tagging), แตะหน้าจอเพื่อจุดโฟกัส (Touch focus), โหมด HDR, พาโนรามา และโหมดโปรสำหรับปรับค่ากล้องเองได้ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 2 ล้านพิกเซลสำหรับการเซลฟี่ พร้อมโหมดหน้าสวย ปรับผิวหน้าให้ขาวเนียน
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
- ปากกา S Pen ของ Samsung Galaxy Tab A with S Pen 10.1” ถือเป็นจุดขายสำคัญของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับการวาดลงบนหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นการผสมสีน้ำได้จากบนหน้าจอ, การแปลภาษา, Write on PDF และทำภาพเคลื่อนไหว (GIF) จากไฟล์วิดีโอ เป็นต้น
- หน้าจอขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง และมาพร้อมเคสที่สามารถใช้เป็นฐานวางตั้งได้ 2 ระดับตามการใช้งาน เช่น ใช้งานการพิมพ์ปรับวางระดับหนึ่ง หรือดูหนังก็ปรับวางอีกระดับ
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.9 ระบบโฟกัสทำได้เร็วดี ถือเป็นแท็บเล็ตที่ให้ความสำคัญในส่วนของการถ่ายรูปไม่แพ้สมาร์ทโฟน
- ตัวเครื่องรองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE และรองรับความจำภายนอกได้ด้วย microSD card สูงสุด 256GB
- แท็บเล็ตตัวนี้มีฟีเจอร์ Night Mode สำหรับใช้งานตอนกลางคืน โดยเป็นการตัดแสงสีฟ้าแล้วปรับโทนสีหน้าจอให้เหลืองเพื่อถนอมสายตา และมีแบตเตอรี่ขนาด 7,300 mAh
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- การชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มต้องใช้เวลานาน เนื่องจากแบตเตอรี่มีขนาดความจุที่มาก และไม่รองรับการชาร์จเร็ว
- ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก ไม่เหมาะกับการถือใช้งานนาน ๆ
ขอบคุณ Samsung (ประเทศไทย)