Smart Review
รีวิว OPPO F1s Classic Black Limited Edition “เครื่องสวยดำขลัง เซลฟี่ถ่ายภาพสนุก”
หลายคนคงคุ้นเคยกับ OPPO F1s มาก่อนแล้วแต่ครั้งนี้ทาง OPPO ได้ทำรุ่นพิเศษออกมาคือพิเศษจริง ๆ เนื่องจากเป็นรุ่น Black Edition ที่มี Body สีดำขลับดูแล้วขลังดีทีเดียวครับ และเราเองก็ได้จับเครื่องมาลองเล่นลองเทสหลาย ๆ อย่างจริง ๆ แล้วก็ไม่ต่างจาก OPPO F1s รุ่นที่ทำออกมาครับระบบ Android 5.1 กับ Color OS ยังเป็นแบบเดิมต่างกันแค่ Body ที่ทำออกมาเอาใจคนรักความเป็น “สีดำ”
OPPO F1s Classic Black Limited Edition Specifications
- Display หน้าจอขนาด 5.5″ HD
- CPU หน่วยประมวลผล Octa-core MediaTek 6750
- RAM 3GB
- ROM 32GB
- รองรับ MicroSD Card 128GB
- กล้องหลัง – ความละเอียด 13 MP พร้อมไฟแฟลช LED 1 ดวง
- กล้องหน้า – ความละเอียด 16 MP
- ลำโพงแบบ Dual Speaker
- ช่องเสียบหูฟัง 5mm
- ระบบปฎิบัติการ Color OS base on Android OS 5.1 Lollipop
- รองรับซิมการ์ดแบบ Dual SIM แบบ Nano SIM และสามารถใส่ SD Card แยกมาอีก Slot ในถาดเดียวกัน
- รองรับการใช้งาน 3G/4G LTE ย่านความถี่ GSM: 850/900/1800/1900MHz
WCDMA: 850/900/2100MHz , FDD-LTE: Bands 1/3/8 - แบตเตอรี่ขนาดความจุ 3075 mAh
- อุปกรณ์เสริมพิเศษ 1 กล่องสำหรับรุ่น Classic Black Edition เท่านั้น
แกะกล่อง OPPO F1s Classic Black Limited Edition ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
สำหรับ OPPO F1s Classic Black Limited Edition นั้นทาง OPPO จะมี Package ของขวัญพิเศษให้กับลูกค้าที่สั่งจองโดยเฉพาะครับ ซึ่งจะเป็นรุ่นจำกัดจำนวนที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยจำนวน 2,000 เครื่องเท่านั้น
ตัวกล่องและเครื่อง OPPO F1s Classic Black Limited Edition สีดำสนิทให้ความรู้สึกครึมดีทีเดียว
ตัวเครื่องเมื่อเอาออกจากกล่องแล้วลองจับดูพบว่าจับได้ถนัดมือดีมาก หน้าจอสีสันสดใส
ปุ่ม Finger Print ที่ทำงานไวมากไวขนาดไหนชมคลิปนี้ประกอบครับ
ดูด้านหน้ากันแล้วมาชมด้านหลังกับด้านอื่น ๆ กันบ้าง OPPO F1s Classic Black Limited Edition นั้นด้านหลังจะเป็นดำด้านจับแล้วให้ความรู้สึกว่ามันลื่นนิดหน่อยครับไม่ได้ลื่นปรืดเป็นดำด้านที่ดูที
กล้องหน้าความละเอียด 13 MP เอาไว้ถ่าย Selfie ชัด ๆ ฟรุ้งฟริ้งโบ๊ะ ๆ เสียดายว่าไม่มีไฟแฟลช LED มาให้ในตัวแต่ไม่เป็นไรครับเพราะชุด OPPO F1s Classic Black Edtion เขามีของเด็ดอ่ะไปกันต่อเดี๋ยวเผยตอนแกะกล่องชุดของแถมให้ชม
ตัวกล้องหลังและไฟแฟลชแป็นแบบกลมไฟแฟลชเป็นแบบ LED เดี่ยว
ด้านล่างตัวเครื่อง นับจากซ้ายตามภาพประกอบ แจ๊คเสียบหูฟัง 3.5mm > ลำโพง ที่เรียกได้ว่ามาให้แบบ Dual Speaker
เป็นสีดำที่สะดุดตาเวลาถือดีจริง ๆ มีการคาดเส้นเงา ๆ ทั้งบนและล่างตัวเครื่องแบบนี้ ตัวบอร์ดี้ของ OPPO F1s Classic Black Limited Edition นั้นเป็นแบบ 2.5D Design Unique Body แบ็ตเตอร์รี่เป็นแบบ Built-In
ด้านข้างครับ ปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่องและ ช่องถาดใส่ซิมอยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง
ตัวถาดซิมคือเป็นเรื่องดีดีมากทีเดียวเป็นอะไรที่ผู้ใช้ชอบมากในยุคนี้คือใส่ 2 Sim แบบ Nano-SIM ได้ไม่พอใส่ MicroSD Card ได้ด้วยในถาดเดียวกันเอาเซ่เครื่องราคาไม่ถึงหมื่นแต่ใส่ SIM Card พร้อม Mem เพิ่มได้ในถาดเดียวคุ้มมากแถมเป็นเครื่องที่ถ่ายภาพสนุกอีกด้วย
แกะกล่องแรกหลัก ๆ หลายคนคงทราบดีว่าภายในกล่องจะมีอุปกรณ์หลัก ๆ ที่ OPPO ใส่มาคือมี เคสซิลิโคนใส มี Adapter ชาร์จ พร้อมสายชาร์จ USB และ เข็มจิ้มถาดซิม หลัก ๆ มีเท่านั้นแต่อันนี้พิเศษครับกล่องนี้พิเศษจริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นพรีเมี่ยมสุด ๆ สำหรับคนจอง OPPO F1s Classic Black Limited Edition เท่านั้นมาดูกันว่า OPPO ให้อะไรกับเราบ้าง?
แต๊นแต่นอุปกรณ์ในกล่องของแถมเฉพาะผู้จอง OPPO F1s Classic Black Limited Edition เท่านั้นจะมีดังนี้
- เคส Cover สีดำหนัง TPU 1 ชุด
- ไฟ LED ปรับระดับความสว่างได้ 3 ระดับจำนวน 1 ชุดเอาไว้ส่องสว่างไฟหน้าให้หน้าเราสว่างสุด ๆ ตอน Selfie
- สายชาร์จเพิ่ม 1 ชุด
- ชุด Lens Kit ให้มา 2 ตัวคือ Macro 0.67X + Wide 10X กับ Fisheye
- ไม้ Selfie สีฟ้าที่สามารถกดถ่ายภาพได้จากตัวไม้เลยครับ
ตัวอย่างของแถม 1 รายการที่เอามาใช้งานได้จริงคือค่อนข้างดีทีเดียวล่ะ
เวลาถ่าย Selfie โดยใช้ไฟ LED ทรงกลมตัวไฟ LED จะติดไปกับที่ดวงตาเราด้วยครับเป็นแบบกลม ๆ และหน้าเราก็จะขาวสุด ๆ อันนี้เป็นไฟเบอร์สเต๊ป 3 คือเปิดสุดแล้วและเปิดโหมด Beauties สุดที่ระดับ 7
ตัวอย่างของ Lens Fisheye ที่อยู่ในชุดของ Premium Set สำหรับ OPPO F1s Classic Black Limited Edition ครับเป็นอุปกรณ์เสริมที่ทำให้เราพกติดตัวนำไปใช้งานถ่ายภาพสนุกยิ่งขึ้นเป็น Clip Lens ที่สามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและหลังเลยส่วน Macro + Wide Lens
เวลาถ่ายออกมาก็จะได้ตามภาพครับสำหรับ Macro Lens
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
ข้อดีของ OPPO F1s Classic Black Limited Edition คือการแสกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล๊อคนอกจากจะสามารถกำหนดนิ้วได้สูงสุด 5 นิ้วแล้วยังสามารถแสกนได้ไวสุด ๆ เลย ชมคลิปประกอบ
อีกหนึ่งความสามารถที่มีใน Color OS ที่มาช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้คือการเปิดดาวน์โหลดไฟล์จาก Browser ผ่าน Desktop PCs ได้อย่างง่ายดายเพียงเข้าไปที่ File Manager และเลือกการบริการผ่าน FTP เราก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์ภาพหรือไฟล์อื่น ๆ จากตัวเครื่องมาเก็บไว้ได้เพียงขอให้เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ในบ้านหรือสำนักงานหรือจุดที่มีบริการฟรี Wi-Fi ครับง่ายสะดวกดีทีเดียว
ผลทดสอบด้านประสิทธิภาพการใช้งาน
ผลทดสอบ Geek Bench พบว่าได้คะแนน 639 คะแนนในด้านประมวลผลแบบ Single-Core และ 2496 คะแนนในด้านประมวลผลแบบ Multi-Core เรียกได้ว่าใช้งานตั้งแต่พื้นฐานและไปจนเล่นเกม 3D อย่างพวกเกม MMORPG 3D ค่อนข้างไหวสบาย ๆ ครับ
คะแนนทดสอบจาก Antutu 3D ทำได้ดีเลยล่ะไม่แย่ไม่ด้อยอยู่ในระดับกลาง ๆ ส่วน Multi Touch หน้าจอทำได้ 10 นิ้วยอดเยี่ยมเลยสำหรับหน้าจอ
ด้านแบ็ตเตอร์รี่ที่ให้มาขนาด 3,075 มิลิแอมป์ใช้งานได้ยาวนานเท่าที่ทดสอบการใช้งานและ Standby สายไว้สามารถอยู่ได้เกือบ 3-4 วันเลยครับ แต่เนื่องจากตัว Color OS ไม่มีจุดที่สามารถบอกได้ว่าสามารถใช้แบตเตอร์รี่ได้ยาวนานเท่าไหร่จึงขอใช้แอปจากทาง McAfee by Intel ชื่อ Battery Optimizer ดาวน์โหลดได้จาก Play Store มาลงได้ครับสำหรับผู้ใช้ OPPO และ Smartphones Android รุ่นอื่น ๆ
ประสิทธิภาพด้าน Gaming
เท่าที่ลองเล่นเกมออนไลน์ 3D แนว MMORPG ที่ฮิต ๆ ตอนนี้อย่าง Devilian สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลเลยชมคลิปตัวอย่างได้
ระบบการทำงานของกล้องและซอฟท์แวร์กล้อง
ระบบการทำงานของตัวกล้องใน OPPO F1s Classic Black Limited Edition นั้นไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อนแต่อาจจะมีบางช่วงเช่นการใช้งานในโหมดมืออาชีพ (Professional) ที่ผู้ใช้ต้องมีความรู้เรื่องกล้องพอสมควรครับแต่คำแนะนำจากทีมงาน iPhone-Droid.net เราขอแนะนำท่านว่าถ่ายโหมด Auto ไปรัว ๆ เลยดีกว่าครับ
ข้อดีอีกอย่างในเรื่องการใช้งานกล้องคือระบบ Auto Focus ที่มี Face Detection มาให้ที่จับหน้าตาของคนได้ไวมากไวจริง ๆ
การถ่ายโหมดโปรสามารถตั้งค่าได้เยอะพอสมควรเลยตั้งแต่ค่าความไวแสง ISO / Speed Shutter / White Balance /เด็ดสุดคงเป็นการที่สามารถตั้งค่าให้ถ่ายแบบ RAW ไฟล์ได้นี่แหละครับซึ่งจะออกมาเป็น Format DNG ที่สามารถนำไปปรับแต่งในโปรแกรมแต่งภาพชั้นนำได้อย่าง Adobe Photoshop , Adobe Ligthroom เป็นต้น
ตัวอย่างการนำภาพจากกล้อง OPPO F1s Classic Black Limited Edition เข้ามาแต่งใน Adobe Lightroom เป็นไฟล์ต้นฉบับที่ถ่ายมาโดยตั้งค่าในโหมดโปรดังนี้ ความไวแสง ISO 100 , Speed Shutter 1/19sec , โดยรูรับแสงขนาด f/2.0 ของกล้องหลังสามารถทำเบลอหลังได้ดีระดับนึงคือไม่เบลอเกลี้ยงนะแต่เบลอกำลังเห็นฉากหลังพองามโดนที่ Subject ออกมาเด่น
ภาพที่แต่งเสร็จแล้วออกมาตามที่เห็นครับเรียกได้ว่าตัวไฟล์สามารถดึงปรับแต่งได้สนุกดีในระดับนึงทีเดียว
แต่ข้อเสียที่เจอคือไฟล์ภาพจาก OPPO F1s Classic Black Limited Edition นั้นกินสีเขียวอยู่ไม่น้อย โดยขนาดไฟล์ Original ขนาดกว้างคูณยาวของไฟล์ภาพจะอยู่ที่ 4096x 2304 Pixel อีก 1 ความสามารถที่มองข้ามไม่ได้คือเรื่องกล้องที่นำมาใช้ถ่าย Video และนำมาตัดบน Adobe Premiere คือตัวไฟล์ Video ออกมาแล้วเอ้ยใช้ได้เลยครับเรียกได้ว่าไม่แพ้กล้อง Video Camcorder เลยถ่ายได้ที่ 1080P ทำให้ตัดไฟล์ Video ออกมาได้ตามนี้
อีกข้อที่ OPPO F1s Classic Black Limited Edition สามารถทำได้คือการถ่าย Video Timelapse
คือภาพจะเป็นแบบเร่ง Speed แต่การใช้งานตอนถ่ายทางเราได้ทดสอบถ่ายไว้ 3 ชั่วโมง แต่ Video ทั้งหมดออกมาเพียงไม่กี่นาที
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
จุดเด่นของ OPPO F1s Classic Black Limited Edition นั้นมีเยอะครับอยู่ที่ว่าเราจะนำไปใช้งานอย่างไรแต่จุดดีเด่นที่น่าสนใจคือเรื่องงานออกแบบที่ทำมาเฉพาะสำหรับชาวไทยและแฟน ๆ ของ OPPO โดยเฉพาะซึ่งรุ่น OPPO F1s Classic Black Limited Edition นี้มีความงดงามตัวเครื่องครึม ๆ เหมาะกับคนที่ชอบตัวเครื่องสีดำเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะรุ่นปกติจะมีสีทองสีเงินกันน้อยนักที่จะเห็นสีดำทำมาขายในยุคนี้
จุดสังเกต
OPPO F1s Classic Black Limited Edition ก็คือเรื่องกล้องและอุปกรณ์เสริมถ่ายภาพที่ทำให้ถ่ายได้สนุกขึ้นมากแต่ถ้าติก็คงเป็นเรื่องกล้องที่ถ่ายออกมาบางครั้งมันติดสีเขียวเกินไปหน่อยนึงนอกนั้นถ่ายในสภาวะแสงกลางคืนแสงน้อยคือดีทีเดียวครับไม่เลวเลยล่ะส่วนการเล่นเกมพบว่าทำได้ลื่นไหลดีมากถ้าให้กล่าวถึงความคุ้มค่าก็คงต้องบอกว่าดีใจกับคนที่จอง OPPO F1s Classic Black Limited Edition และได้ใช้งานเพราะเป็น Smartphones อีกรุ่นที่คุ้มค่าสุด ๆ ในกลุ่มรุ่นราคากลางในตลาดครับ
ขอขอบคุณบริษัท OPPO Thailand เอื้อเฝื้ออุปกรณ์ รีวิว