Featured
ASUS Zenfone 3 Max สมาร์ทโฟนแบตอึด ใช้งานได้ข้ามวัน และเป็น Power bank ชาร์จเครื่องอื่นได้
หากพูดถึงสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนาน ASUS ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีให้สมาร์ทโฟนสามารถใช้งานได้ยาวนาน และอย่างรุ่นล่าสุด Zenfone 3 Max ก็ได้ชูจุดเด่นในเรื่องแบตเตอรี่ขนาดความจุ 4,100 mAh ที่มีวัสดุตัวเครื่องระดับพรีเมียม ดีไซน์สวยงามขึ้น และมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 6.0 กับ ZenUI 3.0
แบตเตอรี่ของ Zenfone 3 Max มีขนาด 4,100 mAh หมดกังวลเรื่องของแบตเตอรี่หมดระหว่างวันไปเลยสำหรับรุ่นนี้ ใช้งานทั่วไปได้ข้ามวันแน่นอน ตามภาพจะเห็นว่าตัวเครื่องมีการใช้งานมาแล้ว 2 วันกว่า กำลังเข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการใช้งานทั่วไป ทั้งต่อเน็ต เข้าเว็บเบราว์เซอร์ เปิด GPS บ้าง โดยมีการเปิดหน้าจอแทบจะตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าแบตอึดจริง ๆ และมีโหมดประหยัดพลังงาน Super Saving เมื่อแบตเตอรี่เหลือ 10% ด้วย ซึ่งก็เป็นหนึ่งฟีเจอร์ที่มีความจำเป็นไม่น้อยสำหรับไว้ใช้งานในยามฉุกเฉิน
เห็นแบตเตอรี่ขนาดความจุเยอะขนาดนี้แล้วจะใช้เวลาชาร์จแบตให้เต็มนานไหม ซึ่ง Zenfone 3 Max รองรับระบบชาร์จเร็ว ทำให้ชาร์จไฟเข้าตัวเครื่องนั้นทำได้รวดเร็วกว่าการชาร์จปกติด้วยอะแดปเตอร์ที่แถมมากล่องขนาด 10 วัตต์ แรงดัน 5V และจ่ายกระแสได้สูงสุด 2A
นอกจากแบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุเยอะแล้ว ยังใช้เป็น Power bank ชาร์จให้กับเครื่องอื่นได้ด้วยผ่านสาย OTG micro-USB Host ที่มีมาพร้อมกับตัวเครื่อง
สำหรับดีไซน์ของ ASUS Zenfone 3 Max มีตัวเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียม ซึ่งวัสดุชนิดนี้จะให้ความรู้สึกถึงความพรีเมียมไม่แพ้สมาร์ทโฟนตัวท็อป และมีขอบตัวเครื่องที่โค้งมนที่ช่วยให้จับกระชับมือ โดยมีหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ครอบด้วยกระจกกันรอยขอบโค้งมน 2.5D และมีขอบจอที่ค่อนข้างบางมาก จึงทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีหน้าจอขนาดใหญ่แต่ตัวเครื่องจะไม่ใหญ่ตามไปด้วย
ด้านสเปคของ ASUS Zenfone 3 Max ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 430 Octa-core สถาปัตยกรรม 64-bit ที่ใช้พลังงานต่ำกว่าซีพียูแบบเดิมที่เป็น 32-bit พร้อมจีพียู Adreno 505 กับแรม 3GB ซึ่งเพียงพอต่อการเล่นเกมทั่วไปที่มีกราฟิกสวยงาม และใช้งานมัลติทาสกิ้งหลายแอพพลิเคชั่นได้สบาย ๆ
แม้จะให้แรมมา 3GB ในเครื่อง Zenfone 3 Max ยังมีฟังก์ชั่น “Boost” ตัวช่วยในการช่วยเคลียร์หน่วยความจำแรมที่ถูกใช้ไปแล้วให้ตัวเครื่องกลับมาทำงานเร็วเหมือนเดิม ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นค้างไว้พร้อมกันหลาย ๆ แอพแล้วรู้สึกว่าการทำงานเริ่มหน่วง ๆ ก็แตะใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ โดยระบบจะจัดการให้อัตโนมัติเพียงคลิกเดียว
ASUS Zenfone 3 Max สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการแยกเบอร์ติดต่อระหว่างเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวก็ทำได้ โดยซิม 1 รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 3G/4G ทั้งเน็ต ทั้งโทร และซิม 2 รองรับการใช้งาน 2G สำหรับการโทร หรือจะเลือกสลับการใช้งานบนเครือข่าย 3G/4G ไปยังซิม 2 ก็ได้ โดยช่องซิม 1 ก็จะสลับไปใช้งาน 2G อัตโนมัติ
ASUS Zenfone 3 Max รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow กับ ZenUI 3.0 ซึ่งเป็นอินเตอร์เฟซเวอร์ชั่นใหม่ที่มีการปรับปรุงให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น มาพร้อมแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้การใช้งานคล่องตัวมากขึ้น และไม่ติตตั้งแอพพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็นมาให้รกตัวเครื่องด้วย
เริ่มจาก Easy Mode โหมดการทำงานที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานที่มีอินเตอร์เฟซให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งานสมาร์ทโฟน
Kid Mode ตัวช่วยผู้ปกครองในการกำหนดสิทธิ์ในการใช้งานสมาร์ทโฟนให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก ๆ ทำให้หมดกังวลหากให้เด็ก ๆ หยิบสมาร์ทโฟนไปเล่น เพราะบางครั้งเด็ก ๆ อาจเผลอไปลบข้อมูลสำคัญ หรือเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น
Theme ระบบปรับแต่งหน้าจอการใช้งานไม่ให้จำเจกับรูปแบบหน้าจอแบบเดิม ๆ สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานกันได้ฟรี ๆ
Zen Motion ฟีเจอร์สำหรับสั่งงานตัวเครื่องด้วยการสัมผัสหรือท่าทางการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอขึ้นมา, รับสายได้ทันทีด้วยการยกสมาร์ทโฟนมาแนบหู และย่อขนาดหน้าจอแสดงผลให้เล็กลงเพื่อใช้งานได้ในมือเดียว เป็นต้น
Share Link แอพพลิเคชั่นสำหรับการแชร์ไฟล์บนตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องต่อเน็ตมือถือ ส่งไฟล์หากันได้ทั้งรูปภาพ วิดีโอ เพลง แอพพลิเคชั่น และไฟล์ทุกประเภทที่มีอยู่ในตัวเครื่องเพียงคลิกเดียว คือ ปุ่ม “Send File” แตะเพื่อส่งไฟล์ และปุ่ม “Receive File” เพื่อรับไฟล์
สำหรับ Share Link ยังสามารถแชร์ไฟล์ไปยัง Android รุ่นอื่นหรือคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows ได้ด้วย ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีความจำเป็นไม่น้อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ใช้งานที่มีสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ในการใช้งานหลายเครื่อง ก็สามารถแชร์ไฟล์ได้ง่ายขึ้นผ่าน Share Link
Audio Wizard ฟีเจอร์สำหรับคนชอบความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับโทนเสียงให้เหมาะกับโหมดใช้งานแต่ละประเภทได้ ได้แก่ เลือกโทนเสียงสำหรับการดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง ใช้งานนอกอาคาร เสียงพูด หรือถ้าต้องการให้ระบบปรับโทนเสียงให้อัตโนมัติก็เลือกเปิดใช้งานในโหมดสมาร์ทได้
นอกจาก Audio Wizard จะเลือกปรับเสียงตามโหมดใช้งานได้แล้ว ในโหมดแต่ละอันก็ยังสามารถปรับเสียงเอฟเฟกต์ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นระดับความดังของเสียง ปรับเสียงเบส เสียงทรีเบิล และ EQ
ในเรื่องของความปลอดภัย ASUS Zenfone 3 Max ก็มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง รองรับการจดจำได้ 5 ลายนิ้วมือ สำหรับใช้ปลดล็อคหน้าจอ หรือจะใช้ลายนิ้วมือในการแตะเพื่อรับสาย ก็ได้เช่นกัน ซึ่งตัวเซ็นเซอร์สามารถแตะสแกนได้แบบ 360 องศา ไม่ว่าจะแตะสแกนจากมุมใดก็สามารถอ่านลายนิ้วมือได้หากตรงกับที่ระบบบันทึกเอาไว้
มาถึงกล้องถ่ายรูปของ ASUS Zenfone 3 Max ด้านหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 และระบบกันสั่นแบบ EIS ที่ใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยลดการสั่นไหวขณะถ่ายวิดีโอ โดยจุดเด่นของกล้อง Zenfone 3 Max คือระบบโฟกัสที่รวดเร็วด้วย 3 เทคโนโลยี ได้แก่ ระบบเลเซอร์โฟกัส ระบบโฟกัส PD และระบบออโต้โฟกัสต่อเนื่อง
โหมดถ่ายรูปที่โดดเด่นของ Zenfone 3 Max โหมดแรกคือ HDR สำหรับถ่ายภาพที่มีค่าความสว่างของแสงแตกต่างกัน แล้วเอาภาพมารวมกันเป็นภาพเดียว เช่น การถ่ายภาพย้อนแสง เป็นต้น
Zenfone 3 Max สามารถเรียกใช้โหมด Low Light สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือแสงไฟยามค่ำคืนได้ เพื่อช่วยลด noise ให้น้อยลง และทำให้ภาพสว่างขึ้น
อีกหนึ่งโหมดที่น่าสนใจคือ Super Resolution ที่ใช้จับภาพต่อเนื่องแล้วขยายเป็นภาพที่มีความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล
สำหรับกล้องหน้าของ Zenfone 3 Max มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เอาใจคนรักเซลฟี่ด้วยโหมดเพิ่มความสวยงาม ปรับหน้าเรียว ผิวขาว ตาโตได้ถึง 10 ระดับ
จากการใช้งาน ASUS Zenfone 3 Max เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มาสานต่อความสำเร็จในซีรีส์ Zenfone Max ที่มีแบตเตอรี่สุดอึดจริง ๆ และพร้อมทุกฟังก์ชั่นการใช้งานในเครื่องเดียว ซึ่งรุ่นนี้วางจำหน่ายในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ เพียง 7,990 บาท