IT News
หัวเว่ยเปิดตัว LampSite3.0 รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้ง Multicarrier Aggregation, MIMO และ 256 QAM กรุยทางพัฒนาสู่ 5G
ในงานโมบาย เวิลด์ คองเกรส หัวเว่ยเปิดตัวโซลูชั่น LampSite 3.0 สำหรับบริการโมบายบรอดแบนด์อินดอร์หรือภายในอาคาร ช่วยปลดล็อกปัญหาด้านเทคนิคที่มีมายาวนาน โซลูชั่นแห่งอนาคตที่เพิ่งคว้ารางวัล iF Design จากงาน iF International Industrial Design Forum มาหมาดๆ นี้ รองรับแบนด์วิธทั้งหมดบนย่านความถี่ต่างๆ และให้โอเปอเรเตอร์แชร์การใช้งานเน็ตเวิร์คร่วมกันได้ เพื่อประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ตภายในอาคารโดยรวม นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้ง Multicarrier Aggregation, MIMO และ 256 QAM กรุยทางเพื่อการพัฒนาสู่เครือข่าย 5G
โมบายบรอดแบนด์กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก จากสถิติแสดงให้เห็นว่าร้อยละ 80 ของแทรฟฟิคโมบายดาต้าเกิดขึ้นภายในอาคาร ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว การติดตั้งเครือข่ายอินดอร์ เจ้าของอาคารหรือผู้กำกับดูแลจะขอให้ดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยภายในครั้งเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก โอเปอเรเตอร์จึงต้องหาโซลูชั่นที่คุ้มค่าสำหรับการสร้างหรือขยายเครือข่าย
LampSite 3.0 ได้รับรางวัล iF Design Award ในงาน 2017 iF International Industrial Design Forum จากดีไซน์ที่สวยงามและเรียบง่าย ติดตั้งได้โดยไม่ต้องมีเครื่องมือ และระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับแถบคลื่นความถี่ทั้งหมด และสามารถแบ่งใช้งานเน็ตเวิร์คอินดอร์ได้เพื่อช่วยลดต้นทุน โดยเมื่อโอเปอเรเตอร์รายหนึ่งดำเนินการติดตั้งระบบเน็ตเวิร์คภายในอาคารแล้วเสร็จ ก็สามารถให้โอเปอเรเตอร์รายอื่นๆ เช่าใช้เน็ตเวิร์คและแชร์ต้นทุนกันได้ ระบบเน็ตเวิร์คหนึ่งที่แชร์กันระหว่างโอเปอเรเตอร์ 4 รายจะช่วยลดต้นทุนให้กับโอเปอเรเตอร์ลงได้มากถึงร้อยละ 70 การแบ่งเน็ตเวิร์คภายในอาคารสามารถดึงดูดนักลงทุน บริษัท เจ้าของอาคาร บริษัทเสาสัญญาณ และผู้สนใจอื่นๆ ได้มากกว่า และทุกรายก็จะลงทุนเพิ่ม ให้การสนับสนุนทางนโยบาย และให้พื้นที่ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการติดตั้งเน็ตเวิร์คด้วย
ในทางกลับกัน โอเปอเรเตอร์ก็สามารถที่จะให้เช่าเน็ตเวิร์คอินดอร์เพื่อลดค่าติดตั้งและแบ่งผลประโยชน์กัน ซึ่งระบบที่เอื้อประโยชน์กับทุกฝ่ายนี้จะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาธุรกิจโมบายบรอดแบนด์ภายในอาคารได้เป็นอย่างดี ในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้นำรูปแบบความร่วมมือนี้ไปใช้และได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก
การพัฒนาโมบายบรอดแบนด์อย่างรวดเร็วทำให้แอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย บริการอินเตอร์แอคทีฟที่มีความละเอียดสูง, เทคโนโลยี AR และ VR เป็นแอพพลิเคชั่นที่ต้องการมาตรฐานเน็ตเวิร์คที่สูงขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด โซลูชั่น LampSite 3.0 รองรับทั้งเทคโนโลยีการนำคลื่นความถี่หลายๆ คลื่นมารวมกัน, MIMO และ 256QAM เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้จะทำให้รับส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูงถึง 2 Gbps และให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม โซลูชั่นนี้ยังรองรับแบนด์วิธสูงและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานให้พร้อมอยู่เสมอ ช่วยให้โอเปอเรเตอร์สามารถรับมือกับการเพิ่มขึ้นของแทรฟฟิคได้อย่างรวดเร็วและพัฒนาเน็ตเวิร์คได้โดยง่าย ด้วยการพัฒนาเครือข่ายเพียงหนึ่งเดียว เมื่อใช้ LampSite 3.0 ต้นทุนต่อบิตจะลดลงราวร้อยละ 30-40 เทียบกับเน็ตเวิร์คอื่นๆ ที่มีอยู่ภายในอาคาร
การปรับเปลี่ยนพื้นที่ในอาคารให้เป็นระบบดิจิทัลด้วย LampSite จะทำให้การใช้งานแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ผ่านการแชร์ประสิทธิภาพของเน็ตเวิร์ค ซึ่งจะสร้างคุณค่าใหม่ๆ และเปิดสู่โอกาสใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมแนวตั้งและตลาดอื่นๆ เช่น บริการบอกตำแหน่งที่ตั้งจะเพิ่มมูลค่าให้กับบริการต่างๆ ของผู้ใช้ในองค์กร สู่การขยายตลาดให้โอเปอเรเตอร์ได้ต่อยอดอีกมากมาย
หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมและสร้างนิเวศสำหรับระบบดิจิทัลภายในอาคาร ประสบการณ์หลายปีในวงการของหัวเว่ยได้ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้จัดหาโซลูชั่นเทคโนโลยีการสื่อสารสารสนเทศ รวมไปถึงความสามารถด้านเทคนิคมากมายเพื่อการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับโอเปอเรเตอร์ชั้นนำระดับโลก LampSite จึงเป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นของหัวเว่ยที่จะช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้นภายในอาคาร