Featured
รีวิว OPPO A57 เซลฟี่สวยด้วยกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดหน้าชัดหลังเบลอ
OPPO A57 สมาร์ทโฟนสเปคดี ราคาย่อมเยาที่มาสานต่อความสำเร็จโดยการชูจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพเซลฟี่ที่มีกล้องหน้าความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล พร้อม Beautify 4.0 ปรับความสวยได้ 7 ระดับ และโหมดเบลอฉากหลังได้
สรุปข้อมูลและสเปค OPPO A57
- ราคาเปิดตัว 7,990 บาท (พฤษภาคม 2017)
- ขนาดตัวเครื่อง 149.1 x 72.9 x 7.65 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 147 กรัม
- ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด 2G/3G/4G LTE
- หน้าจอ 5.2 นิ้ว IPS TFT ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล
- รันระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 (Android 6.0 Marshmallow)
- ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8940 Snapdragon 435
- ซีพียู Octa-core 1.4 GHz Cortex-A53
- จีพียู Adreno 505
- แรม 3GB
- ความจำภายในตัวเครื่อง 32 GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 256 GB (ใส่ช่องซิม 2)
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 ระบบออโต้โฟกัสแบบ PDAF และแพลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0
- รองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.1
- GPS, A-GPS
- แบตเตอรี่ 2,900 mAh
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ปุ่มโฮมด้านหน้าตัวเครื่อง
แกะกล่อง OPPO A57
OPPO A57 มาในกล่องกระดาษสีขาว สวมทับด้วยปลอกกระดาษที่มีรูปตัวเครื่องระบุชื่อรุ่น OPPO A57 พร้อมสโลกแกน Unstoppable Selfies เซลฟี่สนุก จนหยุดไม่ได้
อุปกรณ์ที่มีในกล่อง
- ตัวเครื่อง OPPO A57 มีแบตเตอรี่ฝังติดในตัว ไม่สามารถแกะออกเองได้
- อะแด็ปเตอร์แปลงกระแสไฟ
- สายเคเบิล micro USB สำหรับชาร์จไฟและใช้ในการถ่ายโอนข้อมูล
- หูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5mm
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- เคสพลาสติกใสแบบนิ่ม สวมใส่ตัวเครื่องได้ง่าย
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ
สำหรับอะแด็ปเตอร์ของ OPPO A57 สามารถจ่ายไฟเข้าชาร์จตัวมือถือที่ 1A มาตรฐานการจ่ายไฟสำหรับมือถือทั่วไป ก็ถือว่าไม่ได้ช้าเกินไปสำหรับแบตเตอรี่ขนาด 2,900 mAh
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
OPPO A57 เป็นสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาที่มีดีไซน์สวยงาม ด้วยวัสดุตัวเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียมให้ผิวสัมผัสระดับพรีเมียม ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูหรู โดยตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่มากจนเกินไป อีกทั้งความหนาของตัวเครื่องก็กำลังพอดีอยู่ที่ 7.65 มิลลิเมตร สามารถหยิบจับใช้งานได้ถนัดในมือเดียว
หน้าจอของ OPPO A57 มีขนาด 5.2 นิ้ว เป็นแผงหน้าจอแบบ IPS TFT ความคมชัดระดับ HD และปกป้องหน้าจอด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 4 ซึ่งทาง OPPO ติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้วตั้งแต่แกะออกจากกล่อง
เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และลำโพงสำหรับเสียงสนทนา
ล่างหน้าจอมีปุ่มโฮมที่มีเซ็นเซอร์สำหรับสแกนนิ้วมือ และปุ่ม Recent App (ซ้าย) กับปุ่มย้อนกลับ (ขวา) โดยปุ่มสัมผัสทั้ง 2 ปุ่มนี้ ไม่มีไฟส่องสว่าง Backlight อาจทำให้มองไม่เห็นเมื่อใช้งานในที่มืด แต่หากใช้งานจนชินแล้วก็แตะใช้งานได้ไม่ยาก
ขอบด้านซ้ายจะมีปุ่มปรับระดับเสียง
ขอบด้านขวามีปุ่ม Power สำหรับกดเปิด/ปิดตัวเครื่องหรือกดเปิด/ปิดหน้าจอ และมีช่องถาดใส่ซิมการ์ด
ถาดซิมของ OPPO A57 จะเป็นแบบไฮบริด รองรับซิมขนาด Nano SIM ทั้ง 2 ช่อง หรือจะเลือกใส่ microSD card ในช่องซิม 2 ก็ได้เช่นกัน เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บตัวเครื่องได้สูงสุดอีก 256GB
ขอบด้านล่างตัวเครื่องมีช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5mm ถัดมาจะเป็นไมโครโฟน สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อจะเป็นขนาด micro USB และขวาสุดจะเป็นช่องสำหรับเสียงจากลำโพงตัวเครื่อง
ฝาหลังของ OPPO A57 มีพื้นผิวที่เรียบ สัมผัสไม่ลื่นมือ ช่วยให้เกิดคราบรอยนิ้วมือได้ยาก ซึ่งฝาหลังไม่สามารถแกะเปิดเองได้ ภายในจะมีแบตเตอรี่ขนาด 2,900 mAh โดยเลนส์กล้องหลังมีขนาดความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กรอบเลนส์นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังเล็กน้อย และจะเห็นว่ามีรูเล็ก ๆ อยู่ระหว่างไฟแฟลช LED ซึ่งก็คือไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
OPPO A57 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 ที่ปรับแต่งบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow รองรับการแสดงรายการแจ้งเตือนในหน้าล็อคสกรีน และในหน้าโฮมก็รองรับการจัดเรียงไอคอนแอพพลิเคชั่น เพิ่มวิดเจ็ตได้ โดยแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจะมีเฉพาะที่เป็นแอพพื้นฐาน ไม่มีแอพขยะติดตั้งมาให้รกตัวเครื่อง และไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บตัวเครื่องด้วย
อีกหนึ่งลูกเล่นในหน้าจอล็อคสกรีนที่ทำให้การเปิดหน้าจอทุกครั้งไม่น่าเบื่อ คือฟังก์ชั่นการเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์แบบอัตโนมัติทุกครั้งที่เปิดหน้าจอขึ้นมา ซึ่งภาพวอลเปเปอร์นี้มาจากชุดภาพมากมายที่ถูกตั้งค่าเอาไว้แบบออนไลน์หรือจะใช้ภาพจากตัวเครื่องก็ได้
เมื่อลากแถบบาร์ด้านบนลงมาจะพบกับในส่วนของ Quick Settings สำหรับแตะเปิด/ปิดการใช้งานเมนูระบบ และจะมีชื่อเครือข่ายแสดงที่ด้านล่างหน้าจอด้วยว่ากำลังใช้งานเครือข่ายใดอยู่ และเมื่อปัดหน้าจอในส่วนนี้ไปทางขวาก็จะพบกับหน้าแสดงรายการแจ้งเตือน
ฟีเจอร์กรองแสงสีฟ้าดูเหมือนจะเป็นฟีเจอร์พื้นฐานของ OPPO ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับราคาไม่แพงก็จะเพิ่มฟีเจอร์นี้มาให้ด้วย เหมาะสำหรับการเปิดใช้งานในเวลากลางคืน เพื่อลดอาการเมื่อยล้าของสายตา และช่วยถนอมสายตา ทำให้หลับได้ง่ายขึ้นด้วย
ระบบสแกนลายนิ้วมือของ OPPO A57 ถือว่าอ่านลายนิ้วมือได้ค่อนข้างเร็ว สามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ใช้สำหรับปลดล็อคตัวเครื่อง ล็อคแอพพลิเคชั่น และล็อคโฟลเดอร์ตู้นิรภัย เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น
ฟีเจอร์การใช้ท่าทางและการเคลื่อนไหวที่มีให้ใช้งานใน OPPO A57 ได้แก่ ฟีเจอร์ท่าทางหน้าจอปิด เป็นฟีเจอร์สั่งงานโดยการวาดตัวอักษรลงบนหน้าจอที่ปิดอยู่เพื่อเรียกใช้งานแอพต่าง ๆ ตามที่ได้ตั้งค่าไว้ รวมถึงสามารถวาดท่าทางเพื่อควบคุมเพลง และเคาะหน้าจอหรือแตะปุ่มโฮม 2 ครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ
แอพแกลเลอรี่รูปภาพ จะแสดงได้ทั้งตามเวลาและอัลบั้ม มาพร้อมเครื่องมือแก้ไขรูปภาพ เช่น ครอปรูปภาพ, ตัวกรองสี, ทำภาพเบลอ, โมเสก และวาดรูปลงบนภาพ เป็นต้น
เครื่องเล่นวิดีโอ สามารถเล่นแบบเต็มจอ หรือย่อขนาดหน้าจอแล้วลอยอยู่เหนือต่างจออื่น ๆ ได้ด้วย
เครื่องมือจัดการไฟล์ตัวเครื่อง มาพร้อมตู้นิรภัยเก็บไฟล์ (File safe) สำหรับเก็บไฟล์สำคัญหรือข้อมูลลับ ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลด้วยรหัสผ่านหรือใช้ลายนิ้วมือในการปลดล็อคเข้าใช้งาน
แอพศูนย์ความปลอดภัย เป็นแอพสำหรับจัดการระบบโดยมีฟีเจอร์สแกนเพื่อทำการลบไฟล์ขยะ, การอนุญาต และสแกนไวรัสจาก Avast ซึ่งทั้งหมดนี้จัดการได้ในคลิกเดียว
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Sensor Box for Android และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
- Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน
OPPO A57 รันระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 (Android 6.0.1 Marshmallow) ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 453 Octa-core 1.4GHz Cortex-A53 ตัวซีพียูเน้นประสิทธิภาพการทำงานที่ประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี พร้อมจีพียู Adreno 505 และมีแรมขนาด 3GB
ผลการทดสอบ AnTuTu 6.2.7 ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 45,877 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ OPPO A57 ทำคะแนน Single-Core ได้ 663 และ Multi-Core ทำได้ 2,829 คะแนน
จากการทดสอบเล่นเกม Asphalt Xtreme: Rally Racing ซึ่งเป็นเกมแข่งรถที่มีภาพสวยงาม และต้องอาศัยเซ็นเซอร์ตัวเครื่องในการเอียงตัวเครื่องซ้าย-ขวา เพื่อควบคุมการขับรถ ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งตัวเครื่อง OPPO A57 มี Gyro Sensor ซึ่งเป็นตัวตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ
แบตเตอรี่ของ OPPO A57 มีขนาด 2,900 mAh ระบบจัดการพลังงานถือว่าทำได้ดีมาก ด้วยขนาดหน้าจอที่ไม่ใหญ่จนเกินไป และมีซีพียู Cortex-A53 เน้นการประหยัดพลังงาน จึงทำให้แบตเตอรี่เพียงพอกับการใช้งานทั่วไปได้ตลอดทั้งวัน
กล้องถ่ายรูป
OPPO A57 มีกล้องหลังขนาด 13 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัสแบบ PDAF เป็นเซ็นเซอร์จาก Sony ที่มีค่ารูรับแสง f/2.2 รองรับการถ่ายภาพได้ขนาดสูงสุด 4608 x 3456 พิกเซล ในอัตราส่วน 4:3 ในขณะที่กล้องหน้ามีขนาด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 ซึ่งเป็นฟีเจอร์เด่นของรุ่นนี้ เลือกจุดโฟกัสได้ และรองรับดิจิตอลซูมได้ 2 เท่า
ตัวแอพกล้องถ่ายรูปของ OPPO ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในมือเดียวได้ง่าย โดยการปัดไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเปลี่ยนโหมดการถ่ายรูป ซึ่งโหมดถ่ายรูปที่มีให้ ได้แก่ อัตโนมัติ, Ultra HD, ตัวกรองสี, GIF, การรับแสง 2 ครั้ง และโหมดผู้เชียวชาญหรือ Expert Mode
มาต่อกันที่กล้องหน้าของ OPPO A57 ที่มาพร้อมสโลแกนที่ว่า Unstoppable Selfies ที่ไม่เพียงแค่มีความละเอียดของกล้องสูงถึง 16 ล้านพิกเซล แต่ด้วย Beautify 4.0 จะช่วยให้การเซลฟี่ออกมาสวยงามสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยโหมดหน้าสวยของกล้องหน้าสามารถปรับความสวยได้ 7 ระดับ ปรับโทนสีได้ และฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือการเบลอฉากหลังได้ ซึ่งเป็นการใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยให้การเซลฟี่มีความสวยงาม โดดเด่นกว่าเดิม
กล้องหน้าของ OPPO A57 ยังมีฟีเจอร์การสั่งชัตเตอร์ด้วยท่าทางได้ด้วยการแบฝ่ามือ ซึ่งจะช่วยให้การเซลฟี่สามารถโพสต์ท่าสวย ๆ ได้โดยไม่ต้องเอื้อมมือไปแตะปุ่มชัตเตอร์
สำหรับการเซลฟี่ที่เลือกใช้งานโหมดเบลอฉากหลัง อาจต้องยืนให้ห่างจากฉากหลังและต้องเป็นฉากหลังที่ไม่กลมกลืนกับใบหน้าของเรา เพื่อให้การเบลอทำออกมาได้เนียน เพราะหากตัวเราไม่เด่นกว่าฉากหลัง ตัวซอฟต์แวร์อาจจะยังเบลอได้ไม่เนียนมากนัก แต่โดยรวมก็ถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ โดยเฉพาะความสวยงามของผิวที่ยังคงให้รายละเอียดของใบหน้าได้อย่างครบถ้วน ไม่ขาววอก
สำหรับการถ่ายภาพในพื้นที่ที่มีแสงสว่างต่างกันมาก OPPO A57 ก็มีโหมด HDR ซึ่งระบบจะทำการถ่ายภาพหลายช็อตแล้วนำภาพมารวมกันเป็นภาพเดียว โหมดนี้บน A57 ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย บริเวณพื้นที่ที่มีความมืดก็มีการปรับให้มีความสว่างขึ้น ในขณะเดียวกันพื้นที่ที่มีแสงสว่างมาก็มีการปรับความสว่างลงเพื่อให้เห็นรายละเอียดของพื้นที่นั้น
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
- ตัวเครื่องมีดีไซน์สวยงาม ขนาดหน้าจอกำลังพอเหมาะ หยิบจับใช้งานถนัด และมีระบบความปลอดภัยด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.0 ปรับแต่งออกมาให้ทำงานได้ลื่นไหลดี ซีพียู Octa-core 64-bit และแรมขนาด 3GB เพียงพอที่จะช่วยให้สมาร์ทโฟนระดับราคาย่อมเยาสามารถใช้งานมัลติทาสกิ้ง สลับแอพพลิเคชั่นไปมาได้อย่างลื่นไหล
- กล้องถ่ายรูปด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีลูกเล่นใหม่อย่างการเบลอฉากหลัง ทำให้การเซลฟี่มีความสนุกมากกว่าเดิม และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัสถือว่าทำได้รวดเร็ว เก็บรายละเอียดของภาพได้ดี
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่รองรับชาร์จเร็ว