Connect with us

ข่าวประชาสัมพันธ์

ดีแทคตั้งเป้าเชิงรุก สร้างพนักงานที่มากความสามารถด้านดิจิทัลระดับท็อปได้ ภายในปี 2561 เปิดตัวอบรมหลักสูตรดิจิทัลนานกว่า 100,000 ชั่วโมง กับโปรแกรม 40 ชั่วโมงแห่งความท้าทาย

Published

on

 

ดีแทคท้าทายพนักงานทุกคนด้วยโปรแกรม “40-hour Challenge” เพื่อสนับสนุนให้พัฒนาทักษะด้านดิจิทัล และเข้าร่วมคอร์สอบรมเกี่ยวกับดิจิทัลผ่านระบบออนไลน์จำนวน 40 ชั่วโมงให้เสร็จสิ้นภายในปี 2561 นี้ ซึ่งจำนวนชั่วโมงการอบรมดังกล่าวสูงกว่าค่าเฉลี่ยปัจจุบันของดีแทคถึง 3-4 เท่า และมากกว่าที่กฎหมายกำหนดสูงสุดถึง 10 เท่า โปรแกรมนี้นำเสนอชั้นเรียนออนไลน์ระดับโลก ซึ่งจัดทำโดยความร่วมมือระหว่าง Lynda.com Coursera และเทเลนอร์

นางสาวนาฎฤดี อาจหาญวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่ยิ่งใหญ่กว่าโปรแกรมอื่นๆที่เราได้เคยจัดมา โดยมีเป้าหมายการฝึกอบรมให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งตั้งไว้มากกว่า 100,000 ชั่วโมงสำหรับทั้งองค์กร

ที่สำคัญ โปรแกรมนี้สนับสนุนหลักความเชื่อของดีแทคที่ว่าทุกคนสามารถกลายเป็นผู้ที่มีความสามารถด้านดิจิทัลได้หมด ถ้ามีกระบวนการทางความคิดที่ถูกต้อง โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของบริษัททั่วโลกมีช่องว่างเพิ่มขึ้นในทักษะด้านดิจิทัลของพนักงาน และช่องว่างนั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆเมื่อพูดถึงซอฟท์สกิลด้านดิจิทัล นั่นหมายถึงไม่เพียงแต่การเขียนโปรแกรม และการวิเคราะห์ที่มีความต้องการสูง แต่ทักษะอื่นๆเช่น ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์ขององค์กรก็เป็นที่ต้องการด้วยเช่นกัน”

“ดีเอ็นเอของดีแทคคือการลงมือทำอย่างรวดเร็ว คิดแตกต่าง กล้าที่จะทำ และมีความกระตือรือร้นที่จะมุ่งสู่ชัยชนะ ขณะนี้ดีเอ็นเอดังกล่าวได้ถูกฝังอยู่ในวัฒนธรรมของบริษัทแล้ว พนักงานของเรากำลังถามว่า ‘เราจะช่วยอย่างไรได้บ้าง มีที่ไหนบ้างที่เราสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆได้’ นี่คือตัวตนของโปรแกรม ‘40-hour Challenge’ นั่นเอง เรากำลังให้เครื่องมือที่พนักงานต้องการในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง”

โปรแกรม “40-hour Challenge” นี้จะช่วยพัฒนาบุคลากรทั้งทักษะดิจิทัลในรูปแบบฮาร์ดสกิล และซอฟท์สกิล โดยจะมีคะแนนของแต่ละคลาสในหัวข้อตั้งแต่รูปแบบการทำงานแบบอะไจล์ ไปสู่การวิเคราะห์ และประสบการณ์ของลูกค้าดิจิทัล คลาสต่างๆที่มีให้เรียนออนไลน์จะพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา กับการใช้งานด้วยโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นพนักงานสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา การอบรมของดีแทคครั้งนี้ยังใช้เกมเข้ามาประยุกต์ใช้ (gamification) ซึ่งเมื่อเรียนคลาสไหนสำเร็จแล้วสามารถปลดล็อกรับ badge คอร์สขั้นสูง และดีแทคคอยน์ได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนพนักงานให้จัดการการเรียนรู้ในหัวข้อที่พวกเขารัก และสามารถช่วยพวกเขาวางแผนความก้าวหน้าของการเรียนตามความต้องการส่วนบุคคลและยังรวมถึงความต้องการของทีมอีกด้วย

“เราไม่สามารถบอกพนักงานว่าพวกเขาต้องเป็นบุคคลดิจิทัล แต่ไม่เคยติดต่อสื่อสารกับพวกเขาออนไลน์” นางสาวนาฎฤดีกล่าวต่อ “การอบรมของเราให้โอกาสแบบ bottom-up approach คือพนักงานและผู้จัดการของพวกเขาสามารถดูแลจัดการสิ่งต่างๆเกี่ยวกับความรู้ที่ตรงกับความต้องการของทีมอย่างถูกต้องแม่นยำ และมันไม่ใช่แค่เรื่องเนื้อหาเท่านั้น การอบรมของเรายังถูกออกแบบตั้งแต่พื้นฐานขึ้นไปจนถึงระดับประสบการณ์ดิจิทัลที่มีคุณค่า

การฝึกอบรมจะได้รับแรงสนับสนุนจากการจ้างผู้มีความสามารถด้านดิจิทัลหน้าใหม่ๆ และการโยกย้ายภายในของพนักงาน ดีแทคมีอัตราการย้ายหน่วยงานภายในสูงมากถึง 38% ในแต่ละปี และกำลังประกาศรับพนักงานใหม่ในด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) การตลาดโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing)และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce)

“วันนี้เราใช้บางส่วนของการเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศไทย เรากำลังทำงานอยู่กับข้อมูลขนาดใหญ่จำนวนมหาศาล การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของดีแทคทำให้เราเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับผู้ที่มีความสามารถด้านดิจิทัล และเราก็รู้ว่าผู้มีความสามารถทางดิจิทัลจะดึงดูดซึ่งกันและกัน”

ในปี 2560 ลูกค้าดีแทคมากกว่าครึ่งหนึ่งชำระเงินค่าบริการผ่านแอปดีแทค ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมถึง 50% แอปสำหรับรีเทลเลอร์เติมเงินชื่อ ดีแทควัน ได้ถูกดาวน์โหลด 60,000 ครั้ง และสามารถลดขั้นตอนการทำงานพวกการเติมเงินลงจาก 45 วินาที เหลือแค่ 5 วินาทีเท่านั้น Chatbot สามารถตอบสนองได้มากถึง 30% ของความต้องการของลูกค้าทั้งหมด จากช่องทาง SMS และจะมีการขยายช่องทางไปยัง Facebook ฟีเจอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมอะไจล์ ซึ่งทำงานแบบ Project-driven โดยที่บุคลากรต่างสายงานมาทำงานร่วมกัน และสามารถทำงานได้สำเร็จอย่างรวดเร็วในระยะเวลาแค่สองสัปดาห์

“ปี 2561 จะเป็นปีที่สำคัญสำหรับดีแทค เราได้รุกนำไปแล้วในอุตสาหกรรมด้วยทีมอะไจล์ที่มีมากกว่า 10 ทีมทั่วทั้งองค์กร แต่มันยังเป็นปีที่เราต้องนำดิจิทัลไปสู่ทุกคนอีกด้วย การฝึกอบรมจะช่วยให้ผู้ที่เต็มใจที่จะรับโอกาสเพื่อที่จะอยู่แถวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้”

Apple News2 ชั่วโมง ago

นักวิเคราะห์เฟิมเอง ! iPhone SE 4 จะได้โมเด็ม 5G ของ Apple และยืนยันเปิดตัวมี.ค. ปีหน้า

ความเคลื่อนไหวของ iP...

Android News2 ชั่วโมง ago

สวยจัด! ท่านประธานอวดภาพเครื่องจริง HUAWEI Mate 70 Pro+ พร้อมฝาหลังสุดอลังการ (มีคลิป)

วันก่อน HUAWEI เริ่ม...

Android News3 ชั่วโมง ago

Ross Young เผย Galaxy Z Flip FE มีลุ้นเปิตดัวปี 2025 และได้หน้าจอแบบเดียวกับ Z Flip7

จริงๆ แล้วสมาร์ทโฟนจ...

Android News3 ชั่วโมง ago

vivo X200 Series เปิดตัว Global แล้ว จัดเต็มด้วยกล้อง ZEISS | ชิป Dimensity 9400!

vivo X200 Series เปิ...

Android News3 ชั่วโมง ago

เปิดตัว ROG Phone 9 Series เกมมิ่งโฟนตัวแรงสเปคจัดเต็ม ชิป Snapdragon 8 Elite | จอ 185Hz | ความจุสูงสุด 24GB+1TB!

ROG Phone 9 Series เ...

Android News4 ชั่วโมง ago

จอมแม่นเผยสเปคกล้อง Galaxy S25 Slim ได้ 3 เลนส์ สูงสุด 200MP

เมื่อต้นเดือนที่ผ่าน...

Apple News5 ชั่วโมง ago

Apple ออกอัปเดต iOS 18.1.1 และ iPadOS 18.1.1 พร้อมการปรับปรุงด้านความปลอดภัย

ในวันนี้ Apple ได้ออ...

Android News22 ชั่วโมง ago

Galaxy A56 ผ่านรับรอง 3C ยืนยันชาร์จเร็ว 45W เท่าเรือธง

เว็บไซต์ 91mobiles ไ...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก