Apple News
iPhone XS Max หน้าจอแสดงผลและแบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดในตระกูล iPhone
ตอนนี้สิ่งที่หลายคนอยากรู้ว่า iPhone XS Max เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ที่สุดของ Apple มีสิ่งที่โดดเด่นอย่างไรบ้าง และคู่ควรกับราคาที่ทาง Apple ตั้งไว้หรือเปล่า จากงานเปิดตัวทำให้เรารู้จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่หลายอย่างดังนี้
จอแสดงผลและแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล iPhone
iPhone XS Max มีแสดงหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ชนิด OLED ด้วยอัตราส่วนภาพ 19.5: 9 ที่สูงเช่นเดียวกับ iPhone X ความละเอียดถูกพัฒนาขึ้นจาก 1,125 x 2,436 พิกเซลเป็น 2,688 x 1,242 พิกเซล มีความหนาแน่นของพิกเซลต่อนิ้วอยู่ที่ 458 พิกเซลต่อนิ้ว หน้าจอแสดงผลแบบ Super Retina display นอกจากนั้นยังมี touch-sensing 120 Hz ที่จะช่วยให้การสัมผัสหน้าจอแสดงผลแม่นยำและคล่องขึ้น พร้อมทั้งรองรับและสนับสนุนการแสดงผล HDR10 และความแม่นยำของสีที่สูง (high color accuracy)
สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ Apple ไม่ค่อยจะเปิดเผยว่าแบตเตอรี่มีความจุอยู่เท่าไรมากนัก แต่ในงานเปิดตัว Tim Cook บอกว่า iPhone XS Max นั้นมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล iPhone เมื่อเทียบการทำงานแล้วจะใช้งานได้มากกว่า iPhone X อยู่ประมาณ ชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมง
A12 Bionic “ชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาด”
iPhone XS Max จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต Bionic Apple A12 ใหม่ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ผติกจากสถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตรที่ได้ชื่อว่าเป็น ” เป็นชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในชิปเซ็ตที่ใช้กับสมาร์ทโฟนในช่วงเวลานี้ ” จากที่ Apple ได้บอกถึงรายละเอียดในงานเปิดตัวว่าชิปเซ็ต A12 นั้นมีทรานซิสเตอร์จำนวน 6.9 พันล้านตัวถูกใส่ไว้ในชิปเซ็ต A12
A12 Bionic ประกอบด้วย CPU แบบ Apple Fusion จำนวน 6 คอร์ ซึ่ง GPU quad-core ในชิปเซ็ต A12 ทำงานได้เร็วกว่าชิปเซ็ต A11 ถึง 50% เปอร์เซ็นต์และทำงานร่วมกับ Apple Neural Engine เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงาน AI
A12 Neural Engine มีทั้งสิ้น 8 คอร์และสามารถรองรับการทำงานได้ถึง 5 ล้านล้านครั้งการต่อวินาที เมื่อเทียบกับ A11 Neural Engine ที่มี 2 คอร์ และรองรับการทำงาน 600 พันล้านครั้งต่อวินาที
ประสบการณ์กล้องถ่ายรูปรุ่นใหม่พร้อมกับการปรับปรุงที่ดีกว่า
iPhone XS Max มีกล้องถ่ายรูปความละเอียด 12 ล้านพิกเซล จำนวน 2 ตัวพร้อมระบบการสั่นไหว (OIS) เช่นเดียวกับ iPhone X กล้องถ่ายรูปจะมีการติดตั้ง telephoto lens เพื่อเพิ่มการถ่ายภาพให้มีมุมที่กว้างขึ้น ขณะที่ wide-angle lens มีรูรับแสง f/1.8 และ telephoto lens มีรูรับแสง f/2.4
ถึงแม้ว่ากล้องถ่ายรูปจะมีความคล้ายคลึงกับ iPhone X แต่ Apple ได้มีการปรับปรุงซอฟต์แวร์สำหรับกล้องรุ่นใหม่นี้ที่เรียกว่า Smart HDR ซึ่งทำงานร่วมกับ Neural Engine ใน A12 และทำงานคล้ายกับเทคนิค HDR+ ของ Google ที่ทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งในการถ่ายรูปแต่ละครั้ง ซึ่งเราสามารถปรับและตั้งค่าของค่าแสงที่แตกต่างกันได้ด้วยเพียงปลายนิ้วสัมผัส
นอกจากนั้น Apple ยังได้เปิดตัว Portrait Mode แบบใหม่ที่อยู่ใน iPhone XS Max สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความสามารถในการวัดความลึกและจำลองความชัดลึกของพื้นหลังเมื่อถ่ายภาพบุคคล ความแม่นยำของระบบดูเหมือนจะดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว และมีการตั้งค่าที่ช่วยให้คุณสามารถหมุนดูความชัดลึกของฟิลด์ที่คุณต้องการหลังจากที่ถ่ายภาพแล้วด้วย
ราคาและวันที่จำหน่าย
iPhone XS Max จะมีวางจำหน่ายในรุ่น 64GB, 256GB และ 512GB และเริ่มต้นที่ 1099 เหรียญสหรัฐ การสั่งซื้อล่วงหน้าได้ในวันศุกร์ที่ 14 กันยายนและวางจำหน่ายในวันที่ 21 กันยายนปีนี้
ที่มา phonearena