วิธีถ่ายภาพกลางคืนให้สวยด้วยกล้อง OPPO F9 ทำอย่างไร มาดูกันเลย

สมาร์ทโฟนที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ต้องยกให้กับ OPPO F9 ด้วยความโดดเด่นด้านการดีไซน์สีสันตัวเครื่องและกล้องถ่ายรูปที่มี AI ทำให้ถ่ายออกมาได้สวยงาม ซึ่งการถ่ายภาพในที่แสงสว่างเพียงพอหรือกลางแจ้ง ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าถ่ายง่ายและได้ภาพสวย แต่สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในที่มืด จะทำอย่างไรให้ได้ภาพที่สวยและเห็นรายละเอียดที่ชัดเจน มาดูกันเลย

OPPO F9 มีกล้องหลังเลนส์คู่ โดยเลนส์หลักมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (RGB) รูรับแสง f/1.8 และ 2 ล้านพิกเซล (Depth Sensor) รูรับแสง f/2.4 เพื่อการถ่ายภาพบุคคลหรือ Portrait ที่สวยงามมากขึ้น

สำหรับการถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืนของสมาร์ทโฟนทั่วไป ส่วนใหญ่จะพบปัญหาแสงไม่พอ ถ่ายแล้วหน้าจะมืด แสงไฟก็ดูจ้า และเกิดนอยซ์ ดูแล้วไม่สวย แต่สำหรับ OPPO F9 ตัวฮาร์ดแวร์กล้องมีรูรับแสงที่กว้างถึง f/1.8 และมี AI เข้ามาช่วยปรับค่ากล้องให้เหมาะสม ทำให้ได้ภาพถ่ายมีความสมบูรณ์และดูสวยงามแบบอัตโนมัติ

ข้อดีของกล้อง OPPO F9 ในการถ่ายภาพบุคคล คือมีระบบตรวจจับใบหน้าอัตโนมัติ ทำให้ไม่หลุดโฟกัสระหว่างการถ่าย และระยะห่างของกล้องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในโหมด Portrait ที่ควรจะยืนห่างจากนางแบบประมาณ 1-2 เมตร เพื่อให้การทำเอฟเฟ็กต์โบ้ละลายฉากหลังได้เนียนมากขึ้น

หากแตะโฟกัสแล้วภาพดูสว่างไป ให้ปรับค่าชดเชยแสงลง (EV) โดยการลากนิ้วลงมาแล้วดูว่าแสงสว่างเหมาะสมหรือไม่ จากนั้นค่อยกดถ่ายภาพ ซึ่งวิธีการนี้เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ เพราะปกติแล้วเมื่อแตะโฟกัสที่จุดมืดจะทำให้กล้องปรับแสงสว่างขึ้นแล้วทำให้พื้นที่ที่สว่างอยู่แล้วก็จะสว่างมากเกินไปนั่นเอง

เทคนิคในการถ่ายภาพกลางคืนคือโหมดผู้เชี่ยวชาญ (Expert Mode) ที่มีเมนูการปรับค่ากล้องได้เอง ไม่ว่าจะเป็นสมดุลแสงขาว (WB), ชดเชยแสง (EV), ความไวแสง (ISO), ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) และระยะออโต้โฟกัส (AF)

ในบางครั้งสภาพแวดล้อมตอนกลางคืน โหมดออโต้ก็ไม่สามารถจัดองค์ประกอบของภาพให้ออกมาสวยงามได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากแสงไฟที่ให้ความสว่างนั้นมีหลากหลายสีสัน สำหรับการถ่ายภาพบุคคลตามภาพข้างบนนี้ ให้เอียงใบหน้าส่วนหนึ่งรับแสงสว่างจากแสงไฟเพื่อไม่ให้หน้าดูมืด ในขณะที่อีกด้านของใบหน้าก็จะได้แสงเงาที่พอดี แล้วแตะจุดโฟกัสไปที่ใบหน้าของนางแบบ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ภาพถ่ายตอนกลางคืนที่สวยงามแล้ว

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดผู้เชี่ยวชาญที่กำหนดค่า WB แบบออโต้ และปรับค่า ISO ระหว่าง 50 – 100 ทำให้ได้ภาพที่มีแสงเงาสวยสมจริงมากขึ้น ภาพดูมีชีวิตชีวา และหน้าก็ไม่มืดด้วย

สำหรับค่า WB ถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ในการถ่ายภาพที่มีแสงจากหลอดไฟ เพราะหลอดไฟประเภทต่างๆ ก็จะมีสีสันที่แตกต่างกัน และเวลาที่เราถ่ายภาพออกมานั้นอาจจะผิดเพี้ยนไปจากความจริง แต่หากปรับค่า WB ให้เหมาะสม เช่น 4000K – 5000K หรือแสงไฟหลอดฟลูออเรสเซนต์ กล้องของเราก็จะสามารถบันทึกสีสันในภาพให้มีความถูกต้องหรือว่าให้ได้ใกล้เคียงกับสีสันที่แท้จริงของวัตถุต่างๆ เหมือนกับที่ตาคนเรามองเห็นได้

จริงๆ แล้ว WB ของกล้องในโหมดออโต้ก็ทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง แต่แสงไฟบางชนิดก็ทำให้กล้องปรับค่าเพี้ยนได้เหมือนกัน เช่น ถ่ายภาพแล้วออกมาเหลืองหรือออกมาอมเขียว ก็ให้เข้ามาปรับค่า WB ให้เหมาะสมกับสภาพแสงก่อนถ่ายได้ แค่ลองเลื่อนค่าขึ้นลง/ลง แล้วดูว่าภาพที่เห็นบนหน้าจอใกล้เคียงกับที่ตาเรามองเห็นหรือไม่ ถ้าใกล้เคียงแล้วก็กดถ่ายภาพได้เลย

ในโหมดผู้เชี่ยวชาญที่สามารถปรับค่ากล้องต่างๆ ได้เอง ที่จะทำให้การถ่ายภาพมีความสนุกมากขึ้น ด้วยการใช้ลูกเล่นของความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) แล้วปรับ ISO ให้เหมาะสม ก็จะได้ภาพแสงไฟยามค่ำคืนที่สวยงามมากขึ้น

อีกหนึ่งเทคนิคการถ่ายภาพนางแบบที่เห็นเต็มตัวและทำให้ดูสูงนั้นทำได้ง่ายๆ โดยการนั่งถ่ายภาพจากมุมที่ต่ำกว่าปกตินั่นเอง

สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล มีเทคโนโลยีผู้ช่วย AI Beauty 2.1 สามารถตรวจจับใบหน้าและช่วยปรับแต่งใบหน้า รวมถึงปรับแสงให้ออกมาสวยงามอัตโนมัติ ตรงนี้ไม่ต้องปรับค่ากล้องให้วุ่นวาย และยังช่วยปรับแต่งคอ แขน ให้ออกมาสวยสมบูรณ์ด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนหรือในที่แสงน้อยด้วยกล้องของ OPPO F9 ได้ภาพที่สวยงามมากยิ่งขึ้น เพียงแค่ปรับค่า EV ให้เหมาะสม และรู้จักมุมที่จะหันหน้าให้แสงเข้ามาได้พอเหมาะ ก็จะได้ภาพสวยๆ โพสต์เรียกยอดไลค์ได้แล้ว

จากการทดสอบใช้งานด้วยกล้องของ OPPO F9 ต้องยอมว่ากล้องหลังทำออกมาได้ดีมากแม้จะเป็นการถ่ายภาพในที่แทบจะไม่มีแสงไฟช่วยก็ตาม อีกทั้งระบบโฟกัสยังคงทำงานได้รวดเร็วดี และยิ่งเป็นกล้องหลังคู่ด้วยแล้ว การถ่ายภาพ Portrait Mode สามารถถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอได้สวยเนียนด้วย

ถ่ายภาพกลางคืนได้ดีขนาดนี้ แล้วภาพกลางวันเป็นอย่างไรบ้างนั้น ดูรีวิว OPPO F9 แบบเต็มๆ ได้ที่นี่ ซึ่งรุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนในซีรีย์ F รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมจุดเด่นหน้าจอแสดงผลรอยบากหยดน้ำ 6.3 นิ้ว และที่สำคัญยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC Flash Charge ด้วย โดยจะมีให้เลือก 3 สีไล่เฉด สีแดง (Sunrise Red) สีน้ำเงิน (Twilight Blue) และสีม่วง (Starry Purple) ในราคา 10,990 บาท โดยสีม่วงงามๆ ที่เห็นในบทความนี้เริ่มเปิดจองแล้วตั้งแต่วันที่ 8-26 กันยายนที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รับฟรี! VIP Card ประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี และ Gift Box 2 in 1 บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาด!